ที่มา	เก็บมาเล่า
ผู้เขียน	นายนพรัตน์ โชติเกามกุล
เผยแพร่	วันอาทิตย์ที่ 10 กันยายน พ.ศ.2566

นักศึกษา มทร.ศรีวิชัยวิทยาเขตตรัง รวมกลุ่มกันเพาะปลาสวยงาม หารายได้ระหว่างเรียนและเพื่อเตรียมตัวเป็นผู้ประกอบการหลังจบการศึกษา จะได้ไม่ตกงานและมีรายได้เลี้ยงตัวเอง ส่วนราคาขายเริ่มต้นที่ตัวละ 5 บาท เชิญชวนแวะอุดหนุน

เมื่อวันที่ 8 ก.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงเพาะฟักปลาน้ำจืด ภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง มีนักศึกษาคณะวิทยาสาสตร์และเทคโนโลยีการประมงสาขาวิชาเพาะเลี้ยงชั้นปีที่ 4 คิดดีใฝ่ดีด้วยการรวมกลุ่มกันเพาะปลาสวยงามหลากหลายชนิด เช่นปลาทองสายพันธุ์ต่าง ๆ ปลาคาร์ฟ ปลาก้างพระร่วง ปลากระดี่หางลาย ปลาสอด และปลาหูช้าง เพื่อส่งขายสร้างรายได้ระหว่างเรียนและยังเป็นการเตรียมตัวเป็นผู้ประกอบการรายย่อยหลังจบการศึกษา จะได้ไม่ตกงานในยุคที่เต็มไปด้วยการแข่งขันทั้งเป็นการใช้เวลาว่างก่อนและหลังเลิกเรียนให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยไม่ต้องออกไปเที่ยวเตร่ เล่นเกมหรือยุ่งเกี่ยวกับอบายมุข

กิจกรรมดังกล่าว ได้รับการส่งเสริมจากมหาวิทยาลัยฯให้ นักศึกษาสามารถใช้โรงเพาะฟักของมหาวิทยาลัยฯ เพาะปลาสวยงามได้เต็มอย่างความสามารถ แต่เน้นขายราคาถูก เริ่มต้นที่ตัวละ 5 บาทไปจนถึงตัวละ 300 บาท หรือขนาดความยาว 2 เซนติเมตร-5 นิ้ว โดยเริ่มเพาะปลาสวยงามมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และขายไปแล้วกว่า 100 ตัวสร้างรายได้กว่า 3,000 บาท

ตอนนี้มีปลาสวยงามรุ่นแรกพร้อมขายประมาณ 500 ตัว แต่อีก 1 เดือนข้างหน้าจะมีปลาสวยงามเพิ่มขึ้นอีกกว่า 1,000 ตัว  โดยนักศึกษาในกลุ่มบางคนที่บ้านทำอาชีพขายปลาสวยงามอยู่แล้ว จึงนำไปต่อยอดและทดลองผสมข้ามสายพันธุ์เพื่อให้ได้ปลาที่สวยงามและแปลกใหม่มากขึ้น ส่วนนักศึกษารายอื่นก็เริ่มเพาะเลี้ยงปลาสวยงามที่บ้าน เพื่อทยอยนำไปขายสร้างรายได้เสริมแล้วเช่นกัน  ส่วนใครสนใจติดต่อได้ที่เพจ/เฟสบุ๊ก Aquaculture RUTS Trang หรือหมายเลขโทรศัพท์ 095-771-7760

นายอัมรีย์ มูซอ อายุ 21 ปี นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง สาขาวิชาเพาะเลี้ยง ชั้นปีที่ 4 กล่าวว่า เพื่อเตรียมตัวเป็นผู้ประกอบการในอนาคต และยังเป็นการฝึกทักษะในการเพาะเลี้ยงปลา เพาะเลี้ยงอาหารปลา และดูแลคุณภาพน้ำ ซึ่งขณะนี้ทางเราได้เริ่มทำการเพาะเลี้ยงได้ประมาณ 2 เดือน ซึ่งรายได้คร่าวๆจากที่เราได้เริ่มทำ ก็สามารถสร้างรายได้เดือนละ 2,000-3,000 บาท

โดยปลาที่มีการเพาะเลี้ยง ได้แก่ ปลาทองฮอลันดา , ปลาทองริวกิ้น , ปลาทองหัวสิงค์ , ปลาคาร์ฟ , คาร์ฟส้ม , คาร์ฟสามสี , คาร์ฟจักรพรรดิ , ปลากระดี่นางฟ้า , กระดี่แคระ , ปลาสอดหางดาบซานต้าครอส , ปลาสอดนกแก้ว , ปลาสอดกุหลาบ และที่เริ่มซื้อพ่อแม่พันธุ์มาเพาะ คือ ปลาหางนกยูง , ปลาหูช้างโมเสคน้ำเงิน , ปลาโมเสคหางลายงู

งราคาปลาทองที่จำหน่ายเริ่มต้นที่ไซส์ขนาด 1-2 ซม. ตั้งแต่ 5 บาท จนถึงราคา 25 บาท และไซส์ขนาด 3 นิ้ว ตั้งแต่ราคา 250-300 บาท ส่วนปลาคาร์ฟจะจำหน่ายตั้งแต่ไซส์ 1-5 นิ้ว ซึ่งตอนนี้มีปลาทองที่พร้อมขายจำนวน 100-200 ตัว และปลาคาร์ฟ 100-150 ตัว และอีกประมาณ 1 เดือนเราจะมีปลาเพิ่มขึ้นจากที่เราได้อนุบาลเอาไว้ อีกประมาณ 1 พันกว่าตัว ซึ่งใครที่สนใจสามารถติดต่อสั่งซื้อได้ที่เพจเฟสบุ๊ก  Aquaculture Ruts Trang ในปัจจุบันมีคนสนใจปลาสวยงามเยอะ และมีตลาดรองรับปลาสวยงามให้เป็นปลาเศรษฐกิจของประเทศไทยด้วย

ด้านนางปรีดา ภูมี อาจารย์ประจำหลักสูตรเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ กล่าวว่า เราให้นักศึกษาได้ฝึกเพื่อให้เกิดความมั่นใจและมีทักษะ เพาะปลาได้ ดูแลปลาเป็น บริหารได้เพื่อเตรียมเป็นผู้ประกอบการเมื่อสำเร็จการศึกษา เรียน  โดยนักศึกษาจะใช้ช่วงเวลาก่อนเข้าเรียนและหลังเลิกเรียนมาดูแลปลา และมีรายได้เสริมอีกทาง และรายได้ก็จะขึ้นอยู่กับการที่ขายปลาได้เยอะได้น้อย  ส่วนนักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการมีแนวคิดว่า เมื่อสำเร็จการศึกษาจะกลับไปทำธุรกิจเลี้ยงปลาสวยงามที่บ้าน  ซึ่งตลาดปลาสวยงามมีออเดอร์ดีมากจนไม่พอขาย.