มิติใหม่ ปราบผู้มีอิทธิพล แก้หนี้ แก้จน ปลดหนี้เกษตรกร ได้จริง?

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงมหาดไทยเดินหน้า แก้หนี้ แก้จน ปลดหนี้ประชาชน “ไชยา” เตรียมเปิดศูนย์กักกันวัวปลอดโรคเพื่อส่งออกที่เพชรบุรี-ประจวบฯ ส่งออกวัวมีชีวิตล็อตแรก 2 พันตัวไปเวียดนาม ช่วงเดือนมีนาคม 67

“หนังสือพิมพ์มติชน” จัดงานเฉลิมฉลองครบรอบ 47 ปี โดยจัดงานสัมมนาใหญ่ขึ้นในวันที่ 24 มกราคม 2567 ในชื่อ Thailand 2024 : The Great Challenges ที่โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ รางน้ำ เพื่อให้ภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนเข้าใจทิศทางการบริหารประเทศ ในปี 2567 ภายใต้กรอบความคิด เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ขยายโอกาส ของรัฐบาล โดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ปาฐกถาพิเศษ Thailand 2024 : The Great Challenges

ในภาคบ่าย กับสัมมนา “Thailand 2024 :The Great Challenges” เนื่องจากประชาชนต้องการให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ-ปากท้องมาเป็นอันดับหนึ่ง การแก้จน ปลดหนี้ จึงเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และ นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มาร่วมพูดคุยในหัวข้อ “มิติใหม่ ปราบผู้มีอิทธิพล แก้หนี้ แก้จน ปลดหนี้เกษตรกร ได้จริง?”

นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า เรื่อง “หนี้” เป็นปัญหาของคนบ้านนอกตลอดเวลา เนื่องจากสภาพรายจ่ายมันเพิ่มขึ้นแต่รายรับไม่เพิ่มขึ้น ผมก็เคยเป็นหนี้ เข้าใจหัวอกคนเป็นหนี้ ไม่มีใครอยากเป็นหนี้ ผมหมดหนี้ สิ่งแรกที่ทำคือ หยุดสร้างหนี้ และค่อยๆ ใช้หนี้ทีละราย  ปัญหาของสังคมไทยคือ กู้หนี้ มาใช้หนี้ ไม่มีทางหมดหนี้ ยิ่งไปเจอกับระบบดอกเบี้ย หนี้นอกระบบเกิดจากหนี้ในระบบที่ไม่เป็นธรรมในสังคม วันนี้เด็กจบใหม่มีนวัตกรรม แต่จะไปเสนอกับแบงก์ๆ ไม่รับ  เพราะแบงก์เอาหลักทรัพย์เป็นตัวตั้ง ไม่ได้วิเคราะห์โครงการ คนรุ่นใหม่จึงมีโอกาสเกิดน้อย คนที่ไม่มีทุนทรัพย์ ไม่มีพื้นฐานที่เข้มแข็ง ไม่มีโอกาสเติบโต ก็ต้องไปหาหนี้นอกระบบ นอกจากนี้ ส่วนต่างของดอกเบี้ยเงินฝากและดอกเบี้ยเงินกู้มันห่างกันมากในสังคมไทย

นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย

สำหรับหนี้นอกระบบที่มาแจ้งตอนนี้จำนวนแสนกว่าราย กรณีที่กู้มา 5 หมื่น ส่งไปแล้ว 1.5-2 แสนบาท  เราไม่ให้ส่งแล้ว เพราะส่งดอกไปมากกว่าเงินต้นแล้ว หากไม่ยอม เราต้องดำเนินคดี เพราะถือว่าผิดกฎหมายอยู่แล้ว หากเพิ่งกู้เมื่อวาน 2 หมื่นบาท ก็ใช้วิธีค่อยๆ ผ่อน จ่ายดอกเบี้ยในเกณฑ์ที่พอรับกันได้   ผมชื่มชมแนวคิดของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่พูดว่า แก้หนี้นอกระบบแล้ว ต้องแก้หนี้ในระบบด้วย เพราะหากเราตัดหนี้เขาไปแล้ว ครั้งต่อไปจะมีหนี้ขึ้นมาใหม่ไหม อันนี้รัฐต้องเข้าไปรองรับ โดยให้ความรู้ ส่งเสริมรายได้ เอากรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทยไปบูรณการกับทุกฝ่าย เข้าไปส่งเสริมอาชีพให้ชาวบ้าน

นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า หัวอกคนเป็นหนี้ โดยเฉพาะชาวไร่ชาวนา ถือว่ามีความสามารถในการบริหารจัดการหนี้ ชาวบ้านวันนี้อยู่ในสภาพของการหมุนหนี้ คือเอาหนี้ส่วนหนึ่งมาโป๊ะหนี้อีกก้อนหนึ่ง วิถีชาวบ้านอยู่ในวงจรลักษณะแบบนี้ ไม่ว่าเป็นหนี้ในระบบหรือหนี้นอกระบบ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ที่เราต้องแก้ไขให้ได้

นโยบายพักหนี้ เป็นการช่วยเหลือผู้ที่ด้อยโอกาสในสังคม ต้องยอมรับว่า คนส่วนใหญ่ในประเทศ มีอาชีพเกษตรกร ทำไร่ทำนามาตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นย่า จนถึงปัจจุบัน วิถีชีวิตของพวกเขายังลำบากอยู่ ทุกข์ของชาวนา คือทุกข์ของแผ่นดิน คำๆ นี้เป็นเสมือนสัจธรรมที่เป็นอมตะนิรันดรกาล ใช้ได้ทุกยุคทุกสมัย นั่นคือภาระของรัฐบาล เพราะฉะนั้นนโยบายพักหนี้เกษตรกรเป็นจุดเริ่มต้นของการรับรู้ปัญหาว่า เราจะเริ่มต้นให้พวกเขายืนด้วยขาของตัวเองได้อย่างไร นโยบายพักหนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในช่วงรัฐบาล นายกฯ ทักษิณ ชินวัตร

การพักหนี้ในรัฐบาลชุดนี้ เป็นการให้โอกาสประชาชนที่อยู่ในยุคเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ จากสถานการณ์โควิด สงครามการค้า เป็นการช่วยเหลือเกษตรกร กลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และนักธุรกิจที่ประสบภาวะยากลำบาก ซึ่งคนด้อยโอกาสกว่าในขณะนี้คือ เกษตรกร นโยบายพักหนี้คือ การลดรายจ่ายเงินกู้ 3 ปี ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย เพื่อให้เกษตรกรยืนบนขาของตัวเองให้ได้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต้องเข้าไปเสริมความรู้เกษตรกรให้สามารถลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และขยายโอกาส ในส่วนที่ผมดูแลรับผิดชอบคือ การปราบหมูเถื่อน เนื้อเถื่อน เป็นการตัดวงจรที่ซ้ำเติมความเป็นอยู่ของเกษตรกร ที่ผ่านมา มีเกษตรกรมาร้องเรียนกับผมว่า ปัญหาหมูเถื่อน ทำให้หมูราคาตก เกษตรกรอยู่ไม่ได้ ขณะที่ราคาวัวตกต่ำ แต่เนื้อวัวชำแหละ ราคาหน้าเขียงอยู่ที่กิโลกรัมละ 200-300 บาท ช่องว่างราคามันห่างกันมาก ทำอย่างไรจะลดต้นทุนการผลิต ลดรายจ่ายให้ได้

การพักหนี้เกษตรกรเป็นบทบาทหน้าที่ของกระทรวงเกษตรฯ ในฐานะผู้ขึ้นทะเบียนเกษตร ส่วนผู้ดำเนินโครงการคือ กระทรวงการคลังและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) วันนี้ผมอยากเห็นบทบาทของ ธ.ก.ส. ในฐานะผู้สนับสนุนและผู้ให้โอกาสด้วย ในอดีตผมเห็นบทบาท ธ.ก.ส. ทำหน้าที่เป็นธนาคารเพื่อประชาชน นอกจากปล่อยสินเชื่อแล้ว ในขณะที่พักหนี้ มีฝ่ายสนับสนุนกิจกรรมให้ความรู้เกษตรกร ติดตามความคืบหน้าโครงการว่า เงินที่เกษตรกรได้แล้ว ถูกนำไปสร้างดอกผล ขยายโอกาสและสร้างงานให้เกษตรกรได้อย่างไร เคยมีโครงการทำอย่างไรให้เกษตรกรมีพื้นที่เพาะปลูก 1 ไร่ได้ 1 แสน วันนี้ โครงการเหล่านี้หายไป ผมอยากให้ ธ.ก.ส. กับกระทรวงเกษตรฯ จับมือทำงานในเรื่องนี้

กรณีปัญหาหมูเถื่อน เนื้อเถื่อน ผมยืนยันว่า ไม่มีมวยล้ม ต้มคนดู เรื่องคดีเป็นหน้าที่ของดีเอสไอไป เปิดเผยชื่อผู้เกี่ยวข้อง เพื่อไม่ให้องค์กรนี้ไปทำลายเกษตรกรรายย่อย กรณีปัญหาราคาวัวตกต่ำเพราะการบริโภคภายในประเทศอยู่ในระดับที่เพียงพอแล้ว ประกอบกับไทยไม่สามารถส่งออกวัวไปต่างประเทศได้ เนื่องจากประเทศคู่ค้าอ้างว่า วัวไทยมีปัญหาเรื่องปากเปื่อย เท้าเปื่อย เราต้องส่งออกวัว ไปพักที่ศูนย์กักกันโรคบริเวณชายแดน สปป.ลาว เพื่อเช็กอาการปากเท้าเปื่อย 28 วันและต้องกักเพิ่มอีก 47 วัน เพื่อให้มั่นใจว่า วัวไทยปลอดจากสารเร่งเนื้อแดง รวมระยะเวลากักนาน 75 วัน จึงสามารถส่งวัวไทยไปขายประเทศจีนได้

นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ผมในฐานะผู้ดูแลกำกับนโยบายกรมปศุสัตว์ กำลังเตรียมจัดตั้งศูนย์กักกันโรคเพื่อการส่งออก ที่จังหวัดเพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ เพื่อส่งออกวัวมีชีวิต ผ่านระบบขนส่งทางเรือ ที่อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไปยังประเทศคู่ค้าสำคัญคือ จีน เวียดนาม และตะวันออกกลางโดยตรง คาดว่าจะสามารถ Kick off การส่งออกวัวมีชีวิตล็อตแรกจำนวน 2,000 ตัว ไปยังประเทศเวียดนามได้ภายในเดือนมีนาคม 2567 นอกจากนี้ ยังมีแผนผลักดันการส่งออกเนื้อแปรรูปเกรดพรีเมียร์ โดยใช้โรงเชือดมาตรฐานฮาลาล ที่จังหวัดชุมพร ซึ่งมีกำลังผลิต 200 ตัวต่อวัน เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างรายได้ ยกระดับราคาเนื้อวัวภายในประเทศให้ดีขึ้น และขยายโอกาสส่งออก นำรายได้เข้าประเทศมากขึ้นในอนาคต

“อยากให้ชีวิตรัฐมนตรีของผม สร้างเกษตรยุคใหม่ มีคุณภาพ เป็นอาชีพที่สร้างรายได้ เป็นหลักประกันให้ได้ นี่คือความใฝ่ฝันของผม” นายไชยา กล่าวในที่สุด