สุรินทร์เกี่ยวนาปี “หอมมะลิ” ราคาขยับ วอนรัฐช่วยอีกนิด-ต้นทุนสูง

สุรินทร์ – จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งมีพื้นที่ปลูกข้าวหอมมะลิทั่วทั้งจังหวัดกว่า 3 แสนไร่ ขณะนี้ข้าวที่ปลูกนาปีมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม มีข้าวหอมมะลิ พันธุ์ กข 15 กำลังสุกเหลืองอร่ามทั่วทุ่งนา อยู่ในช่วงเก็บเกี่ยว และข้าวหอมมะลิ พันธุ์ กข 105 ใกล้สุก จะเก็บเกี่ยวได้เช่นกัน ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิมีบริษัทมารับซื้อ ที่สหกรณ์การเกษตร

ด้านนายภีรภัทร มีแก้ว เกษตรกร บ.หนองคู ต.หนองขวาว อ.ศีขรภูมิ เผยว่ามาเข้าคิวรอขายข้าวเปลือกตั้งแต่ตีห้า เป็นข้าวสดที่เพิ่งเกี่ยวขึ้นจากนาโดยที่ยังไม่ต้องตากแห้ง ทางผู้รับซื้อก็จะคัดข้าวดูว่ามีข้าวเมล็ดแดงปะปนมามากน้อยเพียงใด หากว่ามีข้าวอื่นปนมาเยอะมีความชื้นสูง รับซื้อในราคากิโลกรัมละ 9 บาท หากมีสิ่งเจือปนน้อย รับซื้อในราคากิโลกรัมละ 9.50 เป็นข้าวที่ตากแห้งสิ่งเจือปนน้อยก็จะรับซื้อในราคาตามป้าย กิโลกรัมละ 12.50 บาท ขายแล้วรับเงินสดไปเลย หรืออย่างช้าจะได้เงิน ไม่เกินสองวัน ชาวนาพอใจในระดับหนึ่ง ดีกว่าปีที่ผ่านมา ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิ รับชื้อในช่วงเวลานี้ ราคาเพียงกิโลกรัมละ 8 บาท น้อยมาก อยากให้รัฐบาลเข้ามาดูแล ให้ราคาข้าวสูงกว่านี้เพราะต้นทุนทำนาสูง

นายสังวาล ดัชถุยาวัตร เกษตรกร บ.บ่อน้ำใส ต.ตรึม อ.ศีขรภูมิ เผยเพิ่มเติมว่ารถเกี่ยวข้าวจะว่าจ้างเกี่ยวไร่ละ 500 บาท วันหนึ่งรถก็จะเกี่ยวได้ประมาณ 30 ไร่ต่อวัน หากรถเกี่ยวข้าวเป็นอุ้ม จะคิดราคา อุ้มละ 300 บาท หากที่นาไม่ไกลมาก ราคาต่ำลงมาอาจจะอุ้มละ 150-200 บาท

นายสังวาลกล่าวอีกว่า ปัญหาที่ชาวนาทั่วไปกำลังประสบ เดือดร้อนทุกปีคือ ไม่มีที่ตากข้าวต้องจำใจขายข้าวเปลือกที่ยังมีความชื้น และได้ราคาต่ำ ตอนนี้ จะเห็นข้าวเปลือกของชาวนาตากตามถนน สนามโรงเรียนบ้าง ลานวัดบ้างผลัดเปลี่ยนกัน ใครตากแห้งก่อนก็เก็บกู้กรอกใส่ถุงปุ๋ยขึ้นไว้ในยุ้งฉางเพื่อรอไว้ขายในตอนที่ราคารับซื้อสูงขึ้น เปนปัญหาสำคัญของชาวนา

ขอขอบคุณข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์ข่าวสด รายวัน ฉบับวันเสาร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2560