บิ๊กตู่ สั่งผู้ว่าฯแจ้งเตือน นักท่องเที่ยว-ชาวประมง ระวังพายุ ติดตามพยากรณ์อากาศ

วันที่ 3 พฤศจิกายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจราชการที่ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อติดตามการให้ความช่วยเหลือและแก้ไขปัญหา พร้อมพบปะให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัย โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับประชาชน ข้าราชการ ชาวปากพนัง ช่วงหนึ่งว่า

ข้อห่วงใยวันนี้คือกรณีที่มีฝนตกหนักแน่น หนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ข้อให้ประชาชนระมัดระวัง ผลกระทบจากดีเปรสชั่นเกือบทุกจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้เป็นพื้นที่เสี่ยงได้รับผลกระทบ คลื่นลมแรง 2-3 เมตร เพราะฉะนั้นชาวประมงต้องระมัดระวัง ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องไปจัดการ

“ โดยเฉพาะเรื่องของการท่องเที่ยวในหลายจังหวัดหลายพื้นที่ขอให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดช่วยเตือนนักท่องเที่ยว ผู้ประกอบการหลายคนอาจจำเป็นเรื่องอาชีพเรื่องสร้างรายได้แต่ก็ต้องระมัดระวังความเสี่ยงของนักท่องเที่ยวที่มีสูงด้วย ต้องติดตามสภาพพยากรณ์อากาศไว้ล่วงหน้า ต้องรับผิดชอบอย่าให้มีเรือร่ม อย่าให้มีนักท่องเที่ยวได้รับอันตรายจากการท่องเที่ยวเด็ดขาดไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือคนต่างประเทศ” นายกฯย้ำ

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า ถ้าฝนมันตกมากขนาดนี้และมันผ่านช้าก็จะมีน้ำสะสมมาก หากตกนานขึ้นมันก็จะไหลท่วมนอง ส่วนหนึ่งก็มาจากน้ำในระบบชลประทาน โดยในภาคใต้มีขนาดใหญ่ 4 แห่ง ขนาดเล็ก 39 แห่ง มีเขื่อน 4-5 แห่ง ถ้าน้ำล้นน้ำเกินก็ต้องหาทางพร่องน้ำไว้ก่อนจำนวนหนึ่ง และต้องคำนึงว่าจะเหลือน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งปีหน้าด้วย ทุกพื้นที่ฝนตกเหมือนกันหมดมันก็ไหลมารวมกันน้ำก็จะมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเราหน่วงน้ำนานเกินไปก็ไม่ได้ถ้าเราปล่อยน้ำมากเกินไปก็ไม่ดี ต้องทยอยปล่อยน้ำไว้เรื่อยๆ วันนี้ทางเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าปล่อยน้ำเหลือ 20 % เพราะถ้าเก็บน้ำไว้ 70 % 80% 90 % ฝนตกมาอีกนิดน้ำก็ล้นเข้าท่วมบ้านคนแล้ว บวกกับฝนที่ตก น้ำท่าที่มีอยู่แล้วก็กลายเป็นน้ำท่วมทุ่ง มันก็ท่วมมากขึ้นอีก เพราะฉะนั้นวันนี้อยากให้เอาตัวอย่างภาคกลางที่มีการทำพื้นที่แก้มลิง 12 แห่ง มีพื้นที่รองรับน้ำจำนวนล้านกว่าไร่ ซึ่งรัฐบาลคุยกับประชาชนไว้แล้วว่าขอให้ใช้เป็นพื้นที่รับน้ำ ถ้าไม่มีพื้นที่รองรับน้ำตรงนี้ไว้ น้ำก็จะล้นไปท่วมที่อื่นนี้คือการบริหารจัดการน้ำ ไม่ใช่กักน้ำถ่วงน้ำปล่อยน้ำช้า ถึงเวลาก็กันไม่ได้ทั้งน้ำทุ่งน้ำท่าไหลรวมกันหมดมันก็เกิดเหตุการณ์เหมือนที่เกิดขึ้นมาแล้ว เราต้องช่วยกันไม่ให้มันเกิดขึ้นมาอีก

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า อย่าไปคุยการเมืองอย่างเดียว ไปคุยกันด้วยว่าจะอยู่ยังไงกินยังไงอนาคตเป็นยังไง ผมก็ดูแลทุกท่านอยู่แล้วเป็นไปตามขั้นตอน อยู่ที่ว่าเราจะอยู่ยังไงในวันหน้าปีหน้าอนาคตข้างหน้า อนาคตของท่านคือลูกหลาน ถ้าเราไม่ทำอะไรให้เขา เขาก็จนแบบท่าน ลำบากแบบท่าน ถ้าเราสร้างวันนี้ให้เขาโตขึ้นมามีอาชีพมีงานที่ดีรองรับ เขาก็มาดูแลท่านให้มีความสุขดีกว่าอยู่ที่เดิม ต้องช่วยกันหาศักยภาพของภาคท่านให้เจอว่ามีอะไร ภาคใต้ก็มี 1 การท่องเที่ยว 2 เกษตร ยางพารา สวนผลไม้ 3 การประมง นี้คือศักยภาพของท่าน

 

ที่มา : มติชนออนไลน์