ลอสแองเจลิส (ตอนที่ 6)

อาการหวัดลงคอยังไม่ทุเลา เข้าใจว่าเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ต้องกินยาปฏิชีวนะถึงจะหายได้ แต่ที่นี่ ไม่อยากไปหาหมอเพราะไม่ได้ซื้อประกันสุขภาพมา จะรอให้หายเอง คงจะทุเลาสักวันหนึ่ง

ที่เกิดขึ้นเพราะเป็นคนอ่อนแอในเรื่องอากาศเย็นอยู่แล้ว จึงประมาทตัวเองมาก เพราะอากาศที่นี่ถึงจะเป็นฤดูร้อน แต่ตอนกลางคืน อุณหภูมิก็ลดต่ำลงขนาดฤดูหนาวที่เมืองไทย น่าจะใส่เสื้อคลุมให้เพียงพอ แต่ไม่ได้ทำเช่นนั้น ไม่ได้คิดว่าการเจ็บป่วยจะเกิดกับตัวเองได้

เมื่อวานนี้ ได้ไป Mall ที่ใหญ่กว่าที่เคยไป ระยะทางไกลจาก Mall เดิมอีก แต่ที่นี่จัดแต่งสถานที่ได้บรรยากาศสวยงามมาก ก็เหมือนกัน ทุกๆ Mall แต่ไม่เห็นคนมาเดินเที่ยว Mall มากเหมือนประเทศไทย เพราะมีแต่ร้านจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ร้านอาหาร และ play ground สำหรับเด็กหลายวัย เช่น ม้าหมุน พื้นที่ที่สร้างภูเขาเล็กๆ ให้ปีนป่าย ฯลฯ ที่นี่มีร้าน Northstorm ซึ่งไม่ได้เข้าไปเดิน เพราะเลยวัยที่จะแต่งตัวให้สวยๆ แล้ว แต่ไปเดิน Target ซึ่งคิดว่าเป็นร้านของถูก ในอดีต เคยซื้อกางเกงใน ถุงเท้าในร้านเหล่านี้ไปใช้ พบว่าเนื้อนิ่ม เบา ยืดหยุ่นดี แต่ไม่ทนทานมากนัก

เมื่อวานนี้ได้พบเหตุการณ์พิเศษ ที่ไม่เกี่ยวกับวันประกาศอิสรภาพ คือมีหญิงวัยเกือบกลางคน สติคงไม่ดี เดินสาดน้ำเป็นฝอยๆ เข้าไปในร้านที่สวยหรูร้านหนี่ง พนักงานของร้านซึ่งเป็นหญิงวัยเดียวกัน ผิวสีเดียวกัน มาห้าม ปรากฏว่าเกิดการต่อสู้ปล้ำกัน ทึ้งผมกันอยู่หน้าร้าน ลูกค้าผู้ชายที่เดินๆ แถวนั้น ก็รีบมาแยกแต่ไม่สำเร็จ ไม่นาน รปภ.ก็มาถึงและแยกได้สำเร็จ ตอนนี้เขาไม่ให้เข้าไปดู แต่ทราบว่า รปภ. ใส่กุญแจมือหญิงที่เป็นต้นเหตุ และรอตำรวจมารับตัวและทำคดีต่อไป สิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้ ก็พบเห็นในประเทศเราเหมือนกัน แต่ของเราไม่ถึงกับทำร้ายกัน แค่พูดจาดุด่าท้าทาย หรือถ้าทำร้ายมักจะหนักไปเลย อาจถึงชีวิต หลักพุทธศาสนาเขียนไว้ชัดเจนมาก ที่ให้ละความโกรธ ความโลภ และความหลง มีอะไรไม่สบอารมณ์ ก็อย่าไปโกรธแค้นลงมือทำร้ายกัน ลองคิดให้อภัย แล้วพอถึงเวลาพักผ่อน ก็กลับไปนอนบ้าน หลับสบาย ที่นอนอยู่ในคุก หลายๆ คนไม่ได้เป็นคนร้ายโดยสันดาน แค่มีความโกรธแค้น หรือทำอะไรที่ประมาท เท่านั้น

การฉลองวันประกาศอิสรภาพ ซึ่งสำคัญสำหรับคนอเมริกัน แต่ที่ขับรถผ่านจากบ้านไป Mall ก็เห็นเงียบๆ ที่นี่คงไม่มีอะไร ถือว่าเป็นวันหยุดที่สงบ แต่พอมืดแล้ว ลูกและครอบครัวได้พาไปบนที่จอดรถสูงๆ ชั้น 6 ที่อยู่ใกล้บ้าน ไปดูการจุดดอกไม้ไฟ ซึ่งมีการจุดดอกไม้ไฟหลายๆ แห่ง เห็นไกลๆ รอบๆ อาคารจอดรถ มีคนขึ้นไปดูเป็นคู่ หรือครอบครัว หรือที่ไปเดี่ยวก็มีประปราย อาจจะเป็น 20 คัน และจักรยาน 4-5 คัน ประมาณนั้น กลับมาที่บ้าน ดูทีวีถ่ายทอดในแหล่งอื่นๆ เห็นมีการฉลองกันคึกคัก น่าจะเหมือนกับวันปีใหม่ของเรา ที่มีกิจกรรมเป็นจุดๆ กระจายไปทั่วประเทศ

กล่าวถึง อาหารการกินที่นี่ ที่ได้ทำมื้อเย็นที่บ้านรู้สึกว่าผักสดและอ่อน มีคุณภาพน่ากินมากๆ อาหารทุกชนิดคงได้รับความคุ้มครองจากทางการ ให้มีแต่อาหารที่มีคุณภาพ แม้แต่ร้านอาหารก็ต้องสะอาด รวมถึงห้องน้ำด้วย ที่เดินทางมานี้ ต้องเข้าห้องน้ำบ่อย เพราะอายุมาก เมื่อมาเปรียบเทียบ เห็นว่าร้านอาหารไทยที่ไปกิน เมื่อ 2 วันก่อนนั้น ไม่ค่อยสบอารมณ์กับห้องน้ำ เพราะใส่ลูกเหม็นเข้าไป กลิ่นฉุนมาก ร้านอาหารใดที่ห้องน้ำไม่ดี ก็ไม่อยากไปกินอีกเป็นครั้งที่ 2

ขอเขียนไปวันๆ นะครับ ไม่มีแผน ไม่มีพล็อตเรื่อง นึกอะไรได้ก็ใส่ๆ เข้าไปให้ได้อ่าน ถ้ามีธุระไม่ว่าง ก็คงกดผ่านไป ไม่มีเนื้อหาอะไรที่ชวนจดจำ ไว้พบกันฉบับต่อไป