ปวดกล้ามเนื้อหลังต้นขา

อาการปวดบริเวณน่อง คนทั่วไปมักเข้าใจว่าเป็นอาการของโรคข้อเข่าเสื่อม แท้จริงแล้วเป็นการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อด้านหลังต้นขาบริเวณใกล้น่อง ซึ่งเกิดจากการใช้งานของกล้ามเนื้อมากเกินไป

นพ. ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ ให้ข้อมูลว่า การเล่นกีฬาประเภทวิ่งหรือกระโดด โดยเฉพาะนักวิ่ง นักกีฬา นักเต้น พฤติกรรมดังกล่าวทำให้กล้ามเนื้อต้นขาด้านหลังถูกฉีกกระชากจนกล้ามเนื้อบางส่วนฉีกขาดและเกิดการอักเสบ รวมถึงการนั่งทำงานเป็นเวลานาน เพราะกล้ามเนื้อต้องอยู่ในท่าที่หดเกร็งโดยไม่ขยับเขยื้อนนานจนกล้ามเนื้อตึง ทำให้เกิดอาการแพลงหรืออักเสบได้ง่าย ซึ่งระดับความรุนแรงจากการอักเสบ แบ่งเป็นระดับเล็กน้อยและหายได้จนถึงกล้ามเนื้อฉีกขาดทั้งหมด และใช้เวลานานในการรักษา สำหรับอาการที่พบจากการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อด้านหลังต้นขาคือ ปวดแปลบที่กล้ามเนื้อต้นขาแบบเฉียบพลัน บวมในช่วง 2-3 ชั่วโมงแรกหลังได้รับบาดเจ็บ ฟกช้ำ หรือมีสีผิดปกติที่ขาด้านหลังใต้หัวเข่าในช่วง 2-3 วันแรก และกล้ามเนื้อด้านหลังต้นขาอ่อนแรงนานเป็นสัปดาห์

อาการข้างต้นจะต่างจากโรคข้อเข่าเสื่อมที่มีอาการข้อเข่าฝืด ตึง ปวดบริเวณข้อและมีเสียงในข้อเข่าเวลาขยับเคลื่อนไหว เนื่องจากการสึกหรอของข้อต่อภายหลังการใช้งานมานานและอายุที่มากขึ้น

นพ. สมพงษ์ ตันจริยภรณ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเลิดสิน กล่าวว่า การรักษามี 3 วิธี 1. รักษาแบบไม่ผ่าตัด โดยหยุดกิจกรรมที่ทำให้เกิดการอักเสบเพิ่มขึ้น ใช้ถุงน้ำแข็งประคบประมาณ 20 นาที 2. ทำกายภาพบำบัด ด้วยการเหยียดแบบเบาๆ และ 3. ผ่าตัด เมื่อเส้นเอ็นฉีกขาดจากกระดูกอย่างสมบูรณ์ ส่วนการป้องกัน โดยอบอุ่นร่างกาย ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ และผ่อนคลายกล้ามเนื้อก่อนและหลังเล่นกีฬา ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ดื่มน้ำให้เพียงพอ กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกาย และหมั่นเคลื่อนไหวร่างกายเป็นประจำ

ที่มา : ขอบคุณข้อมูลจากมติชนรายวัน