ชาวสุรินทร์เจ๋ง!ใช้เสียงล่อจับแมงกระชอนขายวันละ100โล

เมื่อวันที่ 4 เม.ย. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านในพื้นที่ชนบทที่ว่างเว้นจากการทำไร่ทำนา ต่างมองหาอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นหาของป่าขาย ปลูกพืชผักสวนครัวขาย สร้างงานอาชีพแฮนด์เมกต่างๆ หรือไปรับจ้างเป็นกรรมกรอยู่ที่ต่างจังหวัด แต่กลับพบว่ามีอีกหลายครอบครัวในพื้นที่หมู่บ้านโชกใต้ ต.อู่โลก อ.ลำดวน จ.สุรินทร์ ที่ได้พบกับอาชีพเสริมแบบใหม่ จากการเลียนแบบต่อๆกันและดูข่าวในโลกโซเชี่ยลต่างๆว่า มีวิธีการที่สามารถล่อ “แมงกระชอน” หรือภาษาอีสานเรียกอีกอย่างว่า “แมงอีซอน” ให้ออกมา และสามารถจับได้จำนวนมากๆ คือการใช้เสียงแมงกระชอนที่โหลดจากยูทูปและในอินเทอเน็ต มาเปิดต่อใส่เครื่องเสียง ลำโพงหรือฮอน หลอกล่อให้บินมาตกลงในกาละมังที่ใส่น้ำไว้ พร้อมเปิดไฟสีล่อจับ

โดยเฉพาะครอบครัวของนางไล สมนึก อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116 ม.4 บ.โชกใต้ ต.อู่โลก อ.ลำดวน จ.สุรินทร์ ที่ได้ลงทุนซื้ออุปกรณ์ล่อจับแมงกระชอนถึง 5 ชุด ในราคากว่า 3 หมื่นบาท โดยแต่ละชุด ประกอบด้วย เครื่องขยายเสียง,ลำโพงฮอน 2-3 ตัว ,เครื่องเล่นเสียงหรือโทรศัพท์มือถือ โหลดเสียงแมงกระชอนจากยูทูป,หลอดไฟสี,สายไฟ,กะละมัง, และแบ็ตเตอรี่รถยนต์ ราคาชุดละ 5-7 พันบาท ก่อนจะพาครอบครัวออกเดินสายหาทำเลที่เหมาะสม ทั้งในพื้นที่ ทั้งต่างหมู่บ้าน ต่างตำบลและต่างอำเภอก็ไป ซึ่งจะต้องเป็นพื้นที่ๆดินจะต้องแข็ง ไม่แฉะหรือชุมน้ำ แต่หากอยู่ใกล้แหล่งน้ำจะดี เพราะแมงกระชอนจะออกมามากกว่า ก่อนจะพากันขุดให้พอดีกะละมัง จากนั้นใส่กะละมังลงไปในหลุม ก่อนที่จะนำดินเหนียวมาพอกที่ขอบกะละมังเพื่อเปิดรูที่ขุดให้มิดชิดติดกับละละมัง ป้องกันแมงกระชอนมุดดินหนีลงในรู แล้วเติมน้ำครึ่งกะละมังเพื่อให้แมงกระชอนที่บินลงมาเปียกน้ำและไม่สามารบินหนีขึ้นมาได้ ก่อนจะต่อชุดเครื่องเสียงกับแบตเตอรี่ เพื่อเปิดเสียงแมงกระชอน และนำหลอดไฟไปวางพาดบนกะละมัง จากนั้นก็พากันไปนอนและออกมาเก็บแมงกระชอนเป็นระยะๆ โดยเวลาที่แมงกระชอนจะมาประมาณ 20.00 น.-05.00 น. เมื่อได้จำนวนที่ต้องการก็ใช้ตะกร้าที่มีรู ตักช้อนแมงกระชอนไปใส่ไว้ในกระสอบปุ๋ยและมัดปากถุงไว้ ส่วนปัจจัยที่ส่งผลให้แมงกระชอนออกมาน้อยคือ ถ้ามีฝนตก อากาศหนาว หรือเดือนหงาย จะไม่ออกมา

โดยในแต่ละวันครอบครัวของนางไล สมนึก สามารถล่อจับแมงกระชอนได้วันละกว่า 80- 110 กิโลกรัมขึ้นไป จากนั้นก็จะนำไปล้างน้ำ แบ่งแพ็คใส่ถุงๆละ 1 กิโลกรัม หรือ 5 กิโลกรัม ก่อนใส่แช่ไว้ในถังน้ำแข็ง รอลูกค้ามารับ ขายส่งตั้งแต่ราคา 80 – 100 บาท แล้วแต่ช่วง อยู่ที่ช่วงไหนมีแมงกระชอนออกสู่ตลาดมาก ราคาก็จะถูก หากมีออกสู่ตลาดน้อยราคาก็จะแพงตามลำดับ ซึ่งในช่วงนี้ชาวบ้านที่จับ จะขายส่งกันในราคากิโลกรัมละ 80 บาท เพราะเป็นช่วงที่แมงกระชอนออกมามาก โดยมีลูกค้ามารับซื้อถึงที่ ทั้งแม่ค้าจากตลาดทั่วไป และมีขาประจำจาก จ.ยโสธร ที่เดินทางมารับซื้อครั้งละ 100 กิโลกรัมขึ้นไป โดย 2 วัน จะมารับซื้อครั้งหนึ่ง หากวันไหนที่ไม่พอกับที่ลูกค้าสั่ง ชาวบ้านก็จะนำไปขายรวมกัน โดยวิธีการล่อแมงกระชอนดังกล่าว สะดวกและง่ายกว่าการจับแมงกระชอนแบบโบราณเดิมๆ ด้วยการรดน้ำแล้วเดินเหยียบย่ำเอาตามทุ่งนา ซึ่งกว่าจะได้แต่ละตัวก็ใช้เวลานาน

นางไล กล่าวว่า เห็นวิธีการล่อจับแมงกระชอน มาจากเพื่อนบ้าน เลยลองทำดู พบว่าได้แมงกระชอนมากขึ้นทุกวัน และขายได้ทุกวัน มีรายได้เพิ่มขึ้น ดีกว่าอยู่บ้านเฉยๆ ส่วนช่วงที่หาแมงกระชอนได้มากก็จะเป็นช่วงหน้าแล้ง เดือนมีนาคม-เมษายน เวลาประมาณ 2 ทุ่ม ถึง ตี 5 ซึ่งมีแม่ค้ามารับซื้อถึงบ้านทุกวัน ขายส่งตั้งแต่ราคา 80-100 บาท ขึ้นลงตามราคาตลาด ลงทุนก็ชุดละประมาณ 7 พันกว่าบาท ส่วนแมงกระชอน สามารถทำเมนูอาหารได้หลายอย่าง อาทิ ทอด คั่ว ยำ แกงขี้เหล็ก ชุบแป้งทอด และตำน้ำพริก รสชาติอร่อย หากใครสนใจ สามารถสั่งซื้อได้ที่เบอร์โทรศัพท์หมายเลข 0807275495

ที่มา : มติชนออนไลน์