“เชียงราย” แก้ปัญหาพัสดุยาเสพติด ต้องแสดง “บัตรประชาชน”

เชียงราย – นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วย พ.อ.สิงหนาท โลสุยะ ผู้แทนจากมณฑลทหารบกที่ 37 พ.ต.อ.ธนะรัชต์ ชุ่มสวัสดิ์ ผู้แทนจาก ภ.จว.เชียงราย เป็นตัวแทนหน่วยงานภาครัฐร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงหรือเอ็มโอยูในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการลักลอบส่งยาเสพติดทางระบบขนส่ง ร่วมกับ ผู้ประกอบการขนส่งพัสดุด่วนเอกชนจำนวน 16 ราย และการขนส่งพัสดุด้วยรถโดยสารประจำทางอีก 7 ราย โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม เช่น สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ภาค 5 ขนส่งจังหวัด ฯลฯ

การลงนามเอ็มโอยูเพื่อจะร่วมกันเข้มงวดกวดขันการส่งพัสดุภัณฑ์ให้เป็นไปตามกฎหมาย เพื่อไม่ให้ขบวนการค้ายาเสพติดใช้เป็นช่องทางในการขนยาเสพติดได้ พร้อมเผยว่าสถานการณ์การลักลอบนำเข้ายาเสพติดที่ผ่านมาพบว่ากลุ่มขบวนการมักจะขนไปจากช่องทาง 2 จังหวัดของภาคเหนือคือ จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่ เท่านั้น และใช้วิธีการที่หลากหลายเพื่อเลี่ยงด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ โดยหนึ่งในนั้นคือการลักลอบนำไปทางพัสดุภัณฑ์ดังกล่าว

“ดังนั้นจึงได้มีความร่วมมือกันในครั้งนี้เพื่อให้ภาครัฐและเอกชนได้ร่วมกัน โดยเฉพาะภาคเอกชนขอให้มีการตรวจสอบบัตรประจำตัวประชาชน หมายเลข 13 หลักที่บัตร ตัวบุคคล หากมีกำลังก็ขอให้มีกล้องเพื่อเก็บภาพผู้นำไปฝากส่งด้วย จะเป็นการป้องปรามและหากตรวจพบยาเสพติดที่ปลายทางก็จะสามารถขยายผลติดตามจับกุม ผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้ต่อไป”

ทั้งนี้มีการตรวจยึดยาเสพติดที่มีการขนส่งได้หลายราย โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตรวจยาไอซ์ได้จำนวน 172 ถุง น้ำหนักประมาณ 201 กิโลกรัม บรรจุในกล่องพัสดุภัณฑ์จำนวน 7 กล่องที่ถูกนำไปส่งที่เอกชนรายหนึ่ง นอกจากนี้ยังยึดของกลางที่ปลายทางอีกหลายครั้งด้วย ต่อไปนี้จะมีรถเอกซเรย์ของด่านศุลกากรแม่สายเข้าไปตรวจสอบสถานที่รับส่งพัสดุภัณฑ์ต่างๆ ร่วมด้วยต่อไป

ขอขอบคุณข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์ข่าวสดรายวัน ฉบับวันเสาร์ที่ 21 เมษายน 2561