เพชรบูรณ์อ่วม เจอพายุถล่มต้นไม้ล้ม-บ้านพังเสียหาย เตรียมประกาศเขตประสบภัยฯ

พายุถล่มเมืองเพชรบูรณ์ยับ ต้นสักถูกแรงพัดถอนยวงล้มระเนระนาดทับบ้านพังเสียหายยับ ในขณะที่ผู้ประสบภัยและผู้ป่วยติดเตียงแตกตื่นอพยพหนีตายกันอลหม่าน เตรียมประกาศเขตประสบภัยฯ เพื่อเข็ญงบฯ ช่วยราษฎร

วันที่ 27 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดวาตภัย โดยมีพายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำในเขตพื้นที่อ.เมืองเพชรบูรณ์ กินพื้นที่เป็นบริเวณกว้างในหลายตำบล เมื่อช่วงเย็นของ วันที่ 26 เมษายน ที่ผ่านมา จนทำให้บ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหายจำนวนหลายร้อยหลัง โดยเฉพาะที่ ต.น้ำร้อน ซึ่งมีรายงานว่าได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อนหนักที่สุด เนื่องจากมีป่าสัก จำนวนกว่า 30 ต้น ภายในสวนป่าสักเนินแดง หมู่ที่ 5 ถูกแรงลมพายุพัดกระหน่ำจนโค่นล้มระเนระนาด นอกจากนี้ ยังล้มทับบ้านเรือนราษฎรกว่า 27 หลัง ที่อยู่บริเวณใต้ต้นสักและบริเวณใกล้เคียง จนทำให้ราษฎรที่ประสบภัยต่างพากันตื่นตกใจและหนีตายกันอลหม่าน โดยราษฎรบางส่วนอพยพไปหลบพายุฝนในบ้านพักข้างเคียง โดยใช้ระยะเวลาเกือบ 2 ชั่วโมง พายุจึงสงบ แต่เนื่องจากเป็นช่วงเวลาค่ำมืดและกระแสไฟฟ้าดับ จึงทำให้ราษฎรที่ประสบภัยเหล่านี้ต้องทนอยู่ในความมืดมิด

ล่าสุด เวลา 09.00 น. ของวันนี้ คณะเจ้าหน้าที่ทหารกองพันทหารม้าที่ 26 กรมทหารม้าที่ 3 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ รวมทั้งพนักงาน อบต. น้ำร้อน และป่าไม้จากหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พช.10 (ตะเบาะ) นำโดย พ.ท.ทรงภพ ชาญเดช ผบ.ม.3 พัน 26, นายสมบัติ หลวงเทพ ปลัดอำเภอเมืองฯ, นายกฤษณ์หิรัญ สาราช ปลัดอำเภอเมืองฯ, นายนิยม ฉมมา รองนายก อบต. น้ำร้อน และนายวันชัย ศรีพิมพ์ กำนันตำบลน้ำร้อน ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายบริเวณสวนป่าสักเนินแดง หมู่ที่ 5 บ้านหนองตาวง ต.น้ำร้อน โดยพบต้นสักทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก จำนวนกว่า 37 ต้น ถูกแรงลมพายุพัดถอนรากถอนโคนและหักโค่นล้มระเนระนาดเต็มพื้นที่ ในขณะที่บางส่วนยังล้มทับบ้านพักราษฎรได้รับความเสียหาย จำนวน 27 หลัง อีกด้วย แต่ทั้งนี้ยังโชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุวาตภัยดังกล่าว

นอกจากนี้ อยู่ระหว่างเร่งจัดเก็บและเคลียร์สิ่งของและทรัพย์สินที่เปียกปอนออกจากบ้านพัก ส่วนบ้านพักที่ได้รับความเสียหายเล็กน้อยราษฎรเริ่มซ่อมแซมกันเองแล้ว อย่างไรก็ตาม ระหว่างการสำรวจ พ.ท. ทรงภพ ได้เยี่ยม นายประสิทธิ์ พาลี อายุ 60 ปี ผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งบ้านพักได้รับความเสียหายจากลมพายุเช่นกัน โดย นายประสิทธิ์ เล่าว่า ช่วงเกิดลมพายุนอนอยู่ในบ้าน จากนั้นได้ยินเสียงต้นไม้ล้มลงด้านข้างก็ตกใจกลัว ภายหลังหลานชายเข้ามาอุ้มพาหลบออกจากบ้านพักและพามาพักที่บ้านญาติ จากนั้น พ.ท. ทรงภพ ได้มอบถุงยังชีพเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น พร้อมรับปากจะส่งกำลังเจ้าหน้าที่ทหารมาช่วยตัดเคลียร์ต้นไม้ออก พร้อมช่วยซ่อมแซมบ้านพักให้

ในขณะที่ นายนิยม ฉิมมา รองนายก อบต. น้ำร้อน กล่าวย้ำว่า พายุฤดูร้อนครั้งนี้รุนแรงในรอบ 30 ปี และยังสร้างความเสียหายค่อนข้างหนัก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจ โดยเบื้องต้นได้รับรายงานว่ามีบ้านเรือนราษฎรได้รับผลกระทบ จำนวน 103 หลัง โดยหมู่ทีี่ 5 บ้านหนองตาวง ค่อนข้างหนัก อย่างไรก็ตาม ก็จะเร่งให้ความช่วยเหลือราษฎรที่ประสบวาตถัยต่อไป

ด้าน นายสมศักดิ์ หลวงเทพ ปลัดอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้บ้านเรือนเสียหายมาก เพราะราษฎรปลูกบ้านพักอยู่ใต้ต้นสัก เมื่อเจอลมพายุแรงๆ จึงล้มง่าย เพราะต้นสักไม่มีรากแก้ว ยังเคราะห์ดีที่ไม่ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต เพราะบ้านพักบางหลังถูกต้นสักขนาดใหญ่ทับพังยุบทั้งหลังอย่างกรณีรายแม่ลูกนั่งอยู่ใต้ถุนบ้านช่วงเกิดเหตุ ต้นสักขนาดใหญ่ล้มทับบ้านเต็มๆ เห็นสภาพแล้วไม่น่ารอด

“ส่วนความช่วยเหลือเร่งด่วนในขณะนี้ จะระดมกำลังเจ้าหน้าที่นำอุปกรณ์เครื่องมือเข้าเคลียร์ต้นสักที่ล้มทับบ้านเรือนราษฎรก่อน และรายงานทางจังหวัดเพื่อประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยสาธารณะและเขตการให้ช่วยเหลือผู้ประสบภัย และให้ทางท้องถิ่นสำรวจความเสียหายเพื่อให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น แต่หากเกินศักยภาพโดยงบฯ ไม่เพียงพอ ก็ให้ขอความช่วยเหลือสนับสนุนงบสำรองราชการในอำนาจทางผู้ว่าราชการจังหวัดต่อไป”นายสมศักดิ์ กล่าว

ที่มา มติชนออนไลน์