ผู้เขียน | ข่าวสดออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
วันที่ 30 พ.ค. นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยหลังจากนำทีมผู้บริหาร และสื่อมวลชน ลงพื้นที่ จ.เพชรบุรี และ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระหว่างวันที่ 25 – 27 พ.ค.ที่ผ่านมา ตามโครงการ “พช.สัมพันธ์สัญจร” ครั้งที่ 2 เพื่อดูความคืบหน้างาน “ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัติวิถี” ว่าโครงการดังกล่าวถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของพช. ในการปลุกการท่องเที่ยวระดับชุมชน ที่เรียกว่า “แอ่งเล็ก” ให้เกิดการรวมตัวขึ้นมาสร้างอาชีพที่ยั่งยืน
และสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้มั่นคง โดยใช้นวัตกรรมบวกกับวิถีชีวิตของชุมชน สร้างความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้กับหมู่บ้าน สำหรับพื้นที่เป้าหมายใน จ.เพชรบุรี คือ พื้นที่ บ.ดอนใน ต.แหลมผักเบี้ย อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี ซึ่งมีการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวในหมู่บ้าน และชุมชน ในหลายมิติ ในส่วน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ไปดูงานที่ บ.โคนมพัฒนา ม.6 ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นชุมชนท่องเที่ยวซึ่งเริ่มได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว
เพราะมีธรรมชาติที่งดงามของป่าละอู รวมทั้งมีผลิตภัณฑ์ที่เป็นอัตลักษณ์ของท้องถิ่น เช่น ทุเรียนป่าละอู ซึ่งมีลักษณะพิเศษคือเม็ดลีบเล็ก เนื้อมาก รสหวาน หอม อร่อย เป็นที่ต้องการของตลาด รวมทั้งมีกิจการโฮมเสตย์ และกิจกรรมการเลี้ยงโคนม อาหารพื้นบ้านของชาวไทยภูเขาเผ่ากะเหรี่ยง การทอผ้าพื้นเมือง เป็นต้น
นายอภิชาติ กล่าวต่อว่า สิ่งที่ได้จากโครงการพัฒนาชุมชนโอท็อปนวัตวิถี มีหลายประการ คือ ชุมชนเกิดความเข้มแข็ง ทุกหมู่บ้านต้องลุกขึ้นมาพัฒนาพื้นที่ให้สะอาด น่าอยู่ ดึงดูดความสนใจนักท่องเที่ยว รวมถึงรายได้ในชุมชนหมู่บ้านจะเริ่มเปลี่ยนไป จะมีการกระจายไปสู่ทุกคนในชุมชน
ส่วนข้อแตกต่างของความเป็นโอท็อปชุมชน แบบดั้งเดิมกับ “ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี คือ ชุมชนโอท็อปแบบดั้งเดิมนั้นรัฐบาลจะต้องเข้าไปช่วยชุมชนในทุกๆด้าน แต่ถ้าเป็นแบบนวัตวิถี คนในชุมชนต้องลุกขึ้นมาทำงานร่วมกัน นำภูมิปัญญา เสน่ห์พื้นบ้านมาหลอมรวมสร้างสรรค์จุดขายให้แก่นักท่องเที่ยว และร่วมกันหาวิธีสร้างความประทับใจเพื่อให้นักท่องเที่ยวกลับไปเที่ยวซ้ำๆ และเป็นการกระจายรายได้ให้คนทุกอาชีพในชุมชนได้อย่างทั่วถึง