ทะเลชุมพรเน่า ‘ปู-ปลา’ ตายเกลื่อน

เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ที่ร้านอาหารชมเล หมู่ 5 ตำบลละแม อำเภอละแม จังหวัดชุมพร นายสุพัชรพงษ์ วรประดิษฐ์ นายอำเภอละแม พร้อมด้วย นางสาวราตรี จันทรัตน์ ประมงอำเภอละแม เดินทางมาพบกับ นายอริน มะหะหมัด อายุ 47 ปี บ้านเลขที่ 140 หมู่ 5 ตำบลละแม อาชีพประมง นายพิศิษฐ์      ศรีกาญจน์ อายุ 45 ปี ประธานกลุ่มประมงละแม และ นางประกิตต์ศรี ศรีกาญจน์ เลขานุการกลุ่มประมง ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุน้ำทะเลเน่าในอ่าวหลังสวน-ละแม สัตว์น้ำตายจำนวนมาก จากนั้นชาวประมงได้เตรียมเรือประมงเล็กพาทั้งหมดเดินไปตรวจสอบจุดที่เกิดน้ำเน่า ห่างชายฝั่งละแมประมาณ 5 ไมล์ทะเล หรือ 8 กิโลเมตร พบว่าห่างจากชายฝั่งประมาณ 2 กิโลเมตร น้ำทะเลเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเขียวเหลืองคล้ำ ส่งกลิ่นเหม็นเน่ารุนแรง แนวน้ำเน่าเสียแผ่เป็นวงกว้างสุดสายตา ชาวประมงทะเลบอกว่า ลักษณะ  สีน้ำทะเลและกลิ่นเน่าเหม็นพบในพื้นที่ตั้งแต่ อำเภอหลังสวน อำเภอละแม จังหวัดชุมพร จนถึง อำเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นพื้นที่ที่กลุ่มประมงชายฝั่งกลุ่มนี้ออกทำประมง ส่วนจะกว้างออกไปอีกมากกว่านี้หรือไม่ก็ไม่ทราบ

นายอริน กล่าวว่า แทบไม่มีปู ปลา ปลาหมึก ติดลอบเลย มีเพียงปูตัวเล็กๆ ลอบละ 3-4 ตัว รวมปลาบ้างเล็กน้อยเท่านั้น ปกติจะมีเข้ามาไม่น้อยกว่า 20-30 ตัว อีกทั้งปูปลาแต่ละตัวจะตายติดลอบ เนื้อจะเละเหลวเน่าเหม็นจนไม่สามารถนำไปกินได้ ตามปกติปูปลาติดลอบในทะเลจะมีชีวิตอยู่ได้นานถึง 3 วัน ชาวประมงจะวางลอบช่วงเช้าและมาเก็บลอบในช่วงเช้าอีกวัน และปูปลาที่ติดลอบไม่ตายแต่อย่างใด เท่าที่สังเกตจะเป็นสัตว์น้ำทะเลที่หากินติดดินในท้องทะเล เมื่อชาวประมงดำลงไปดูที่ผิวดินก็พบว่ามีสีเขียวคล้ำ มีกลิ่นเหม็น ผิดไปจากที่เคยเป็นมา ทำให้พื้นที่น้ำทะเลในช่วง 3 อำเภอ ไม่มีสัตว์น้ำทะเลให้จับมาขายหรือกินได้เลย เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นมา 5 วันแล้ว ส่งผลให้ชาวประมงเดือดร้อนอย่างหนักไม่มีรายได้เลย เหตุการณ์ดังกล่าวไม่เคยพบมาก่อนในช่วง 40-50 ปี เพิ่งมาพบเมื่อ 5 วันที่ผ่านมา

ที่มา : ขอบคุณข้อมูลจากมติชนรายวัน