‘ห้วยตาดข่า’ ยิ้มออก สยามคูโบต้าลุยตั้งศูนย์เรียนรู้ชุมชนพลังเกษตรสร้างสุข ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต

อุดรธานี เป็นหนึ่งในพื้นที่ซึ่งประสบปัญหาผืนดินแข็งกระด้าง สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย ยากต่อการปลูกพืชให้เจริญงอกงาม “สยามคูโบต้า” จึงร่วมกับจังหวัดอุดรธานี และวิสาหกิจชุมชนทำนาห้วยข่า ตำบลหนองอ้อ อำเภอหนองวัวซอ จัดตั้ง “ศูนย์เรียนรู้ชุมชนพลังเกษตรสร้างสุข สยามคูโบต้า-ห้วยตาดข่า” ซึ่งเป็นต้นแบบวิสาหกิจชุมชนกลุ่มที่เข้มแข็ง พร้อมนำการเกษตรที่หลากหลายมาปรับใช้กับระบบ KUBOTA (Agri) Solutions เพื่อนำเข้ามาพัฒนาด้านการทำเกษตรสมัยใหม่ เทคโนโลยี เพื่อช่วยเกษตกรลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และสร้างรายได้อย่างยั่งยืน

สีลา ภูจำเริญ ประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มห้วยตาดข่า เล่าว่า สยามคูโบต้าได้ช่วยส่งเสริมสนับสนุนด้านองค์ความรู้ด้านเกษตรในด้านต่างๆ เช่น การบริหารจัดการด้านเครื่องจักรกลทางการเกษตร มีการแปรรูปเพื่อผลผลิตเพื่อสร้างให้เกิดมูลค่า อีกทั้งยังช่วยเข้ามาประสานงานกับทางภาครัฐและเอกชน จึงทำให้ชุมชนมีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เช่น การนำความรู้และวิธีการเพาะปลูกโดยได้นำระบบ KUBOTA (Agri) Solutions คือการเลือกใช้เครื่องจักรกลการเกษตรและวิธีการปลูกให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ เพื่อให้เกษตรกรได้ผลผลิตเพิ่มขึ้น ข้าว ผลผลิตที่ได้เพิ่มขึ้นเป็น 733 กก.ต่อไร่ ถ้าหากเปรียบเทียบกับวิธีการทำแบบดั้งเดิม เช่น การหว่านโดยใช้แรงงานคน ผลผลิตจากเดิมจะได้ 556 กก.ต่อไร่ และแบบดำมือ จะได้ผลผลิต 694 กก.ต่อไร่ ส่วนมันสำปะหลัง ผลผลิตที่ได้ก็จะได้เพิ่มขึ้นจากเดิมคือ 1 ตันต่อไร่ ในส่วนของอ้อย ผลผลิตจะเพิ่มขึ้นจากเดิมเป็น 4 ตันต่อไร่

สมศักดิ์ มาอุทธรณ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น จำกัด เล่าว่าจากสภาพอากาศที่แปรปรวน ทำให้เกษตรกรได้รับผลกระทบจำนวนมาก จำเป็นที่จะต้องนำนวัตกรรมที่สามารถควบคุมตัวแปรการเพาะปลูกให้ได้มากที่สุด เช่น ระบบการจัดการน้ำ เข้ามาเป็นตัวช่วยที่สำคัญ และปัจจุบันเกษตรกรมีอายุที่มากขึ้น ส่วนใหญ่เกษตรกรจะอายุอยู่ที่ 50 ปีขึ้นไป จึงทำให้เกษตรกรทำการเกษตรลำบากขึ้นตลอดระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา

“ในส่วนของแปลงมันสำปะหลัง การปลูกแบบดั้งเดิมของเกษตรกร มักจะพบปัญหาเรื่องการเตรียมดินที่ความลึกไม่เพียงพอ ทำให้ไม่สามารถรักษาความชื้นในดินได้ รวมทั้งยังขาดองค์ความรู้ด้านการดูแลรักษาที่เหมาะสม คูโบต้าจึงเข้าไปให้ความรู้และนำเทคโนโลยีของเครื่องจักรกลการเกษตรมาช่วยเรื่องของการเตรียมแปลงให้มีความลึกที่เหมาะสม ด้วยวิธีระเบิดดินดาน เพื่อทำให้ดินสามารถเก็บความชื้นได้ดี ใช้เครื่องปลูกทดแทนแรงงานคนก็ช่วยให้เกษตรกรปักกิ่งได้ตรงและสม่ำเสมอ นอกจากนี้ยังมีการใส่ปุ๋ยในปริมาณที่เหมาะสมตามค่าวิเคราะห์ดิน ทำให้ลดการใช้ปุ๋ยจาก 3 ครั้ง เหลือเพียง 2 ครั้ง โดยรอบแรกจะใส่ปุ๋ยรองพื้นก่อนปลูก และอีก 2 เดือนจึงจะใส่ปุ๋ยอีกครั้ง การปลูกแบบดั้งเดิมจะมีผลผลิตอยู่ที่ 2.3 ตันต่อไร่ แต่เมื่อปลูกด้วยวิธี KUBOTA (Agri) Solutions จะได้ผลผลิตอยู่ที่ 3.4 ตันต่อไร่” สมศักดิ์กล่าว

สีลา ภูจำเริญ-สมศักดิ์ มาอุทธรณ์-จีน พระชัย

ด้าน จีน พระชัย เกษตรกรต้นแบบ บอกว่า สำหรับแปลงนาข้าว จากวิธีการปลูกแบบดั้งเดิมของเกษตรกรนั้นจะใช้วิธีดำมือ ปัญหาคือค่าจ้างแรงงานสูง เกษตรกรบางส่วนจึงหันไปใช้วิธีการทำนาหว่าน เพื่อลดต้นทุน แต่ก็ยังประสบปัญหาผลผลิตต่ำ พอคูโบต้าเข้ามาช่วยด้วยนวัตกรรม KUBOTA (Agri) Solutions เพื่อใช้รถดำนาทดแทนการดำมือและการหว่าน และใช้ปุ๋ยสั่งตัดให้เหมาะสมกับค่าวิเคราะห์ดิน ทำให้ต้นทุนต่ำลง ทั้งค่าแรงและค่าใช้จ่ายเรื่องเมล็ดพันธุ์

เนื่องจากหากทำนาหว่านแบบดั้งเดิมเกษตรกรจะใช้เมล็ดพันธุ์มากถึง 30 กก.ต่อไร่ แต่หากทำนาโดยวิธีใช้รถดำนา จะใช้เมล็ดพันธุ์เพียงแค่ 3-5 กก.ต่อไร่เท่านั้น

“เดิมการทำนาหว่านจะได้ผลผลิตอยู่ที่ 556 กก.ต่อไร่ พอใช้รถดำนาแทน ผลผลิตเพิ่มเป็น 733 กก.ต่อไร่ เพราะมีการปลูกข้าวได้เว้นระยะห่างอย่างเหมาะสม มีการให้ปุ๋ยตรงชนิดกับที่ดินขาด ในส่วนของกำไร การทำแบบนาหว่านจะได้กำไรอยู่ที่ 3,396 บาทต่อไร่ แบบนาดำมือ กำไรจะอยู่ที่ 3,923 บาทต่อไร่ และวิธีการปลูกแบบ KUBOTA (Agri) Solutions จะได้กำไรมากถึง 5,001 บาทต่อไร่ นอกจากนี้ หลังการเก็บเกี่ยวข้าว สยามคูโบต้ายังได้ส่งเสริมให้มีการปลูกถั่วเหลืองหลังการเก็บเกี่ยวเพื่อสร้างรายได้เพิ่ม โดยมีกำไรในการปลูกถั่วเหลืองอยู่ที่ 1,000 บาทต่อไร่ และการปลูกถั่วเหลืองยังเป็นการบำรุงดิน ทำให้การทำนาข้าวในครั้งต่อไปมีผลผลิตมากขึ้นอีกด้วย”

ทั้งนี้ ศูนย์เรียนรู้ชุมชนพลังเกษตรสร้างสุข สยามคูโบต้า-ห้วยตาดข่า จังหวัดอุดรธานี ยังมุ่งจะดำเนินแนวทางการพัฒนาให้มีความสอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐ ภายใต้โครงการ “แปลงใหญ่ประชารัฐ เกษตรสมัยใหม่” ให้เชื่อมโยงกัน ทั้งด้านการปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ และการแปรรูปผลผลิต เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับชุมชน เพื่อเป็นต้นแบบหลักที่สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและประสิทธิภาพของการร่วมแรงร่วมใจอย่างแข็งขัน จริงจังและต่อเนื่องของเกษตรกร อันจะเป็นพลังที่เข้มแข็งในการขับเคลื่อนภาคเกษตรกรรมที่เป็นภาคการผลิตที่สำคัญของประเทศอย่างแท้จริง

ผู้บริหารคูโบต้าเปิดงานศูนย์เรียนรู้ชุมชนพลังเกษตรสร้างสุข สยามคูโบต้า-ห้วยตาดข่า จังหวัดอุดรธานี

ที่มา : มติชนรายวัน ผู้เขียน : สิริพร ประสานเวช