ร็อตต์ไวเลอร์ หมาใหญ่ ใจเต็มร้อย

อย่าเพิ่งตกใจ หากจะบอกว่า สุนัขพันธุ์ร็อตต์ไวเลอร์เป็นสุนัขที่ขี้เล่นไม่น้อย แม้ภาพลักษณ์ภายนอกจะแสดงออกมาให้เห็นถึงความดุดันขันแข็งที่ไม่ยอมใคร ถึงจะเป็นคนใกล้ชิดภายในบ้าน หากไม่ใช่เจ้าของโดยแท้ แต่เพราะมีโอกาสได้พูดคุยกับ คุณสกล ทักษิณาภินันท์ชัย เจ้าของฟาร์มสุนัขร็อตต์ไวเลอร์ “More than dog” ซึ่งตั้งอยู่ตำบลแม่กลอง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม ทำให้มีความเข้าใจในนิสัยลึกๆ ของร็อตต์ไวเลอร์อย่างลึกซึ้งมากเข้าไปอีก ว่าภาพลักษณ์ที่เห็นจากการแสดงออกทั่วไป กับการแสดงออกเมื่ออยู่กับเจ้าของนั้น เป็นอย่างไร

คุณสกล เป็นชายร่างใหญ่ ที่หลงใหลการเลี้ยงสัตว์มาตั้งแต่เด็ก แต่สบโอกาสเมื่อเริ่มก้าวเข้าสู่วัยทำงานตอนปลาย ทิ้งตำแหน่งหน้าที่และเงินเดือนในเมืองหลวงกลับบ้านเกิดที่แม่กลอง และลองผิดลองถูกกับชีวิตด้วยการทำงานตามใจอยาก และเปิดร้านอาหารกึ่งผับ ตามอุปนิสัยของคนที่ชอบความท้าทายและเต็มที่กับทุกสิ่ง แต่ในช่วงท้ายของการทำงานที่ไม่ประสบความสำเร็จ กลับมีความโชคดีเข้ามา เมื่อเพื่อนของภรรยายกสุนัขพันธุ์ร็อตต์ไวเลอร์ให้

คุณสกล ทักษิณาภินันท์ชัย

“ร็อตต์ไวเลอร์ที่เพื่อนของภรรยายกให้เป็นสุนัขพันธุ์ดี แต่ขาไม่ค่อยดี เราก็คิดว่าไม่เป็นไร อย่างน้อยก็ได้สุนัขที่สายพันธุ์แท้มาเลี้ยง ได้มาแรกๆ ก็เริ่มเปิดอินเตอร์เน็ตศึกษา ไปเจอพันธุ์อื่นๆ ใกล้เคียง ผมเห็นว่าสวยก็หาซื้อมาอย่างละตัว มาเลี้ยงด้วยกัน แต่สุดท้ายนิสัยของร็อตต์ไวเลอร์ก็ถูกใจผมมากที่สุด”

ในช่วงที่คุณสกลตัดสินใจว่าจะเลิกเลี้ยง เพราะประสบภาวะขาดทุนหนักในธุรกิจที่ทำอยู่ แม้กระทั่งอาหารสุนัขที่เลี้ยงไว้ก็ยังหาอาหารดีให้สุนัขไม่ได้ คุณแม่ของคุณสกลทักท้วงขอให้อยู่ต่อ และยอมให้ทุนตั้งต้น 1 ก้อน ในการทำฟาร์มสุนัข จึงเป็นจุดเริ่มต้นของฟาร์ม More than dog นับตั้งแต่นั้นมา

ตลอดเวลา 16 ปี ของการเลี้ยงสุนัขร็อตต์ไวเลอร์ คุณสกล บอกว่า เขาเข้าใจสุนัขร็อตต์ไวเลอร์ถ่องแท้เพียงแค่ 10 ปีเท่านั้น ก่อนหน้านั้น 6 ปี ถือว่าอยู่ระหว่างการเรียนรู้ ที่ทำให้คุณสกลมีเทคนิคการเลี้ยงสุนัขพันธุ์ร็อตต์ไวเลอร์ให้มีคุณภาพในปัจจุบัน

คำถามแรกที่ต้องการไขข้อสงสัย สำหรับคนที่ยังไม่เคยสัมผัสสุนัขพันธุ์ร็อตต์ไวเลอร์คือ สุนัขพันธุ์ร็อตต์ไวเลอร์เลี้ยงอย่างไรไม่ให้ดุ คุณสกล แนะนำว่า ถิ่นกำเนิดของสุนัขพันธุ์นี้อยู่ที่ประเทศเยอรมนี สุนัขจะถูกเลี้ยงเพื่อนำทางและใช้งาน จึงต้องมีโครงสร้างร่างกายที่แข็งแรง พร้อมเป็นผู้นำ นอกจากนี้ ยังถูกเลี้ยงมาเพื่อช่วยในการล่าสัตว์ แต่การเลี้ยงไม่ให้สุนัขพันธุ์ร็อตต์ไวเลอร์ก้าวร้าวหรือดุนั้น เกิดจากระเบียบและกติกาที่ผู้เลี้ยงเป็นผู้สร้างขึ้น ดังนั้น ควรเลี้ยงสุนัขให้เป็นสุนัข

“โดยธรรมชาติของสุนัขพันธุ์ร็อตต์ไวเลอร์จะรักเจ้านายมาก หากเขาพบว่า บุคคลที่อยู่ใกล้เจ้านายเขามีพฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจ เขาจะพร้อมกัดทันที เพราะความปลอดภัยของนาย การกัดของสุนัขพันธุ์ร็อตต์ไวเลอร์จะสร้างความเจ็บปวดมาก เพราะเขี้ยวใหญ่และแรงกระชากสูง ปากแผลจะเปิด พฤติกรรมการกัดของสุนัขพันธุ์ร็อตต์ไวเลอร์จะไม่กัดพร่ำเพรื่อ กัดน้อย แต่ให้ตรงเป้าหมายมากที่สุด”

อีกประการ ที่อาจมองดูเหมือนเป็นสัญลักษณ์ของสุนัขพันธุ์ร็อตต์ไวเลอร์คือ ส่วนหาง ที่หากไม่ใช่คนรักสุนัขพันธุ์ร็อตต์ไวเลอร์จริงอาจมีข้อสงสัย ทำไมบางตัวหางกุด บางตัวหางยาว คุณสกล ไขข้อสงสัยให้ว่า ธรรมชาติของสุนัขทุกตัวมีหาง สุนัขพันธุ์ร็อตต์ไวเลอร์ก็มีหาง แต่ที่เห็นว่าสุนัขพันธุ์ร็อตต์ไวเลอร์บางตัวหางกุด เป็นเพราะในอดีตการใช้งานสุนัขพันธุ์ร็อตต์ไวเลอร์คือ การนำฝูงเพื่อล่าสัตว์ หากมีหาง ส่วนหางอาจกวัดแกว่งถูกใบไม้หรือกิ่งไม้เกิดเสียงดังทำให้สัตว์ตื่น จึงตัดหางสุนัขออก ทำให้มีคนรักร็อตต์ไวเลอร์บางกลุ่มชอบให้มีหาง แต่บางกลุ่มชอบแบบหางกุด

สำหรับ More than dog คุณสกล บอกว่า ที่นี่มีทั้งหางกุดและมีหาง คุณสกลจะเป็นคนเลือกเองว่า สุนัขตัวไหนต้องตัดหางให้กุดหรือปล่อยหางไว้ตามปกติ หากตัวไหนต้องตัดหางให้กุด จะตัดให้กับลูกสุนัขหลังคลอด อายุไม่เกิน 1 สัปดาห์ ซึ่งการตัดใช้วิธีตัดสดแล้วเย็บแผล และต้องตัดให้หางยาวแค่ 1 ข้อกระดูกจากก้นกบของสุนัขเท่านั้น หากลูกสุนัขอายุเกินกว่า 1 สัปดาห์ ก็สามารถทำได้ แต่สุนัขจะเจ็บ เสียเลือดมาก และการดูแลยากขึ้น

หลังเริ่มต้นทำฟาร์มสุนัขจริงจัง คุณสกล หาเงินลงทุนซื้อแม่พันธุ์จากต่างประเทศ ราคากว่า 200,000 บาท และเดินเข้าหาการประกวดสุนัข เพราะเข้าใจว่า การจะทำฟาร์มให้เป็นที่รู้จัก สุนัขของฟาร์มจะต้องชนะการประกวด ซึ่งปัจจุบันคุณสกล บอกว่า เป็นความเข้าใจผิด เพราะการทำฟาร์มให้ลูกค้ารู้จักและถูกใจในคุณภาพสุนัขของเรา ไม่จำเป็นต้องมีพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ที่ได้รางวัลจากการประกวด แต่เราควรผลิตลูกสุนัขให้มีคุณภาพดี มีโครงสร้างที่ดี ตรงตามคุณลักษณะของสุนัขในสายพันธุ์นั้นๆ ก็ถือว่าเป็นฟาร์มสุนัขที่มีคุณภาพได้แล้ว

คุณสกล ดูแลฟาร์ม More than dog กับภรรยาเพียง 2 คน ทุกๆ วันต้องตื่นประมาณ 6 โมงเช้า เพื่อปล่อยสุนัขให้วิ่งออกกำลังกาย การปล่อยสุนัขต้องปล่อยครั้งละชุด ชุดละ 2-4 ตัว ครั้งละประมาณ 1 ชั่วโมง สุนัขในฟาร์มมีทั้งหมดกว่า 20 ตัว ทำให้การปล่อยสุนัขให้วิ่งออกกำลังกายหมดไปเกือบตลอดทั้งวัน

การให้อาหาร หากเป็นฟาร์มทั่วไปอาหารหลักจะเป็นอาหารเม็ดสำเร็จรูปเกรดพรีเมี่ยม มีอาหารเสริมให้ในทุกสัปดาห์ แต่สำหรับ More than dog คุณสกล ใช้ประสบการณ์จากการเลี้ยงสุนัขมา 16 ปี เริ่มคิดค้นสูตรอาหารของตนเองมา 3-4 ปีแล้ว และเชื่อว่าอาหารที่ดีของสุนัขพันธุ์นี้ ต้องเป็นของสดเท่านั้น ซึ่งสูตรอาหารของ More than dog ในแต่ละวันจะไม่ซ้ำกัน เช่น โครงไก่สด 4 โครง ต่อตัว วันต่อไปเป็นเนื้อไก่ก้อนขนาดพอดีคำ โรยด้วยโยเกิร์ต แอปเปิ้ลไซเดอร์ ยีสต์ น้ำมันไก่ คลุกเคล้าให้เข้ากัน เป็นต้น และทุกวันจะดูลักษณะของสุนัข หากเห็นว่ามีความต้องการธาตุอาหารใดเป็นพิเศษก็เพิ่มวัตถุดิบส่วนนั้นเข้าไป เช่น หากสุนัขผิวหนังแห้ง จะเพิ่มน้ำมันไก่และเก็บดอกอัญชันมาใส่เพิ่มในอาหาร เพื่อลดความแห้งของผิวหนังสุนัข

เมื่อถามว่า สูตรอาหารได้จากที่ไหน คุณสกล ตอบทันทีว่า จากความใกล้ชิดสุนัขพันธุ์ร็อตต์ไวเลอร์ ทำให้รู้ว่า สัดส่วนที่สุนัขพันธุ์นี้ควรได้รับมีอะไรบ้าง เช่น หากปริมาณอาหาร 100 เปอร์เซ็นต์ ควรมีโปรตีนเป็นส่วนผสมไม่น้อยกว่า 22 เปอร์เซ็นต์ ไขมัน 13 เปอร์เซ็นต์ เป็นต้น ดังนั้น การผสมอาหารให้กับสุนัขในแต่ละวัน แม้จะใช้วัตถุดิบที่ไม่เหมือนกัน แต่การคำนวณเปอร์เซ็นต์ของอาหารก็ต้องให้ได้ตามที่ร่างกายสุนัขต้องการ

ทุกสัปดาห์ สุนัขจะได้รับอาหารที่แตกต่างกันในทุกวัน โดยมี 1 วันในแต่ละสัปดาห์ที่งดให้อาหารสุนัข หรือให้เป็นผลไม้แทน เช่น กล้วย ส้มโอ ชมพู่ม่าเหมี่ยว ส้มเขียวหวาน ขึ้นกับวัตถุดิบที่หาได้ในช่วงนั้นๆ

ว่ายน้ำ กิจกรรมหนึ่งที่ชื่นชอบ

ในบางครั้งอาจมีข้อสงสัยว่า การนอนหลับของสุนัขนั้นยาวนานแค่ไหน คุณสกล ให้คำตอบว่า แท้ที่จริงสุนัขต้องการการนอนหลับ 18 ชั่วโมง หรือ 3 ใน 4 ของวัน แต่สามารถหลับยาวต่อเนื่องได้นาน 6 ชั่วโมง ที่เหลือเป็นการนอนหลับแบบหลับๆ ตื่นๆ เพราะสุนัขจะมีลักษณะพิเศษคือ หูไว จมูกรับกลิ่นไว ซึ่งเป็นปัจจัยทำให้สุนัขตื่นได้ง่าย

โรคในสุนัขพันธุ์ร็อตต์ไวเลอร์ ได้รับคำแนะนำจากคุณสกล ว่าโรคของสุนัขทุกสายพันธุ์เหมือนกัน อยู่ที่การดูแล หากเลี้ยงในระบบปิด โอกาสที่สุนัขจะป่วยด้วยโรคติดเชื้อเป็นไปได้ยาก และด้วยประสบการณ์การเลี้ยงสุนัขที่ผ่านมา ทำให้คุณสกล ดูแลรักษาอาการป่วยทั่วไปของสุนัขด้วยตนเอง โดยใช้สมุนไพรหรือภูมิปัญญาไทย เช่น เป็นแผลเลือดออกก็นำยางของต้นหนุมานนั่งแท่นมาทาเพื่อห้ามเลือด หากสุนัขตัวร้อน ให้กินยาเขียวตราใบโพธิ์ ปริมาณลดลงตามน้ำหนักตัวของสุนัขเมื่อเทียบกับคน (กรณีให้ยาของคน) ยกเว้นการให้วัคซีนและการถ่ายพยาธิ จำเป็นต้องทำให้ครบ

ทุกๆ ปี คุณสกลจะผสมลูกสุนัขให้ได้เฉลี่ยปีละ 20 ตัว แต่ละครั้งของการผสม จะพยายามผสมให้ได้ 2 แม่พันธุ์ในระยะเวลาใกล้เคียงกัน สำหรับลูกค้าที่ต้องการซื้อลูกสุนัข 2 ตัวในคราวเดียว เป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการผสมภายในเครือญาติที่ใกล้ชิดกันเกิดขึ้น นอกจากนี้ แม่พันธุ์แต่ละตัวจะถูกกันไว้สำหรับการผสมพันธุ์ 2 ปี ต่อครั้ง เท่านั้น เพื่อไม่ให้สุนัขโทรม

คุณสกล กำชับว่า ผู้ที่ต้องการเลี้ยงสุนัขพันธุ์ร็อตต์ไวเลอร์ ควรพูดคุยกับผู้ที่เคยเลี้ยงมาก่อน เพื่อเป็นการทดสอบว่า พันธุ์ร็อตต์ไวเลอร์เป็นพันธุ์ที่รักจริงๆ หรือไม่ และถ้าต้องการเลี้ยงจริง การเลือกซื้อสุนัขพันธุ์นี้ควรซื้อเมื่อสุนัขอายุ 4 เดือนขึ้นไป เพราะหากสุนัขอายุต่ำกว่านั้น โอกาสเสี่ยงสุนัขตายมีสูง

สำหรับ More than dog จะจำหน่ายลูกสุนัขเมื่อลูกสุนัขอายุ 10 สัปดาห์ขึ้นไป และยินดีต้อนรับ หากคนที่สนใจจะมีสุนัขพันธุ์ร็อตต์ไวเลอร์ไปเลี้ยงเข้ามาเลือกเองที่ฟาร์ม ราคาลูกสุนัขอยู่ที่การตกลงกันระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย และขึ้นอยู่กับความสวย โครงสร้าง ลักษณะนิสัยของลูกสุนัขแต่ละตัว ดังนั้น หากเดินทางมาเลือกเองที่ฟาร์มจะดีที่สุด โดยสามารถติดต่อ คุณสกล ทักษิณาภินันท์ชัย ได้ที่ โทรศัพท์ (089) 143-6967 และ (081) 857-0941 ที่ตั้งฟาร์มหาไม่ยาก อยู่ในตำบลแม่กลอง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม