ผลการวิจัยเตือนหลายเมืองร้อนจะขึ้นอีก 8 องศาเซลเซียส ภายในปี ค.ศ.2100

(FILES) This file illustration photo taken on November 04, 2015 shows a small globe above the flames of a gas ring to illustrate global warming. When the world triumphantly celebrated the signing of the landmark Paris climate pact last December, it was hard to imagine that only a year later it might face an existential threat. Then again, who could have predicted at the time that a self-promoting reality TV impressario -- and avowed climate sceptic -- was months away from capturing the White House?"The Paris Agreement was bound to be tested sooner or later," said Myles Allen, head of the climate research programme at the University of Oxford's Environmental Change Institute. / AFP PHOTO / LIONEL BONAVENTURE

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงาน ผลการวิจัยของฟรานซิสโก เอสตราดา และทีมจากสถาบันเพื่อการศึกษาสิ่งแวดล้อม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่เผยแพร่ในวารสารเนเจอร์ ไคลเมท เชนจ์ เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคมที่ผ่านมา เตือนว่า ภายในปี ค.ศ.2100 ในกรณีที่เลวร้ายที่สุดในเรื่องโลกร้อน จะมีหลายเมืองทั่วโลกที่จะมีอุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นถึง 8 องศาเซลเซียส อันเป็นผลจากภาวะโลกร้อน และปรากฏการณ์เกาะความร้อน หรือเกาะความร้อนเมือง (ยูเอชไอ)

ผลวิจัยระบุว่า อุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นดังกล่าว จะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัย ซึ่งจะทำให้บริษัทและอุตสาหกรรมขาดแคลนบุคลากรในการทำงาน นอกจากนี้ ยังส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ อย่างเช่นน้ำ

ทั้งนี้ การคาดการณ์ดังกล่าวตั้งอยู่บนพื้นฐานของกรณีที่เลวร้ายที่สุดของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างต่อเนื่องตลอดศตวรรษที่ 21 โดยผลการวิจัยยังศึกษาไปถึงผลกระทบที่มีต่อเศรษฐกิจหากอุณหภูมิสูงขึ้น โดยพบว่า เมืองที่มีอุณหภูมิสูงขึ้นจะทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ลดลงไปเฉลี่ย 1.4-1.7 เปอร์เซ็นต์ ภายในปี 2050 และภายในปี 2100 จีดีพีจะลดลงไป 2.3-5.6 เปอร์เซ็นต์