ม.มหิดล ส่งเสริมชุมชนเกษตรปลอดการเผา

ข้อมูลจาก สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ในช่วงเดือนมกราคม-พฤษภาคม เปรียบเทียบระหว่างปี พ.ศ. 2563 พ.ศ. 2564 และ พ.ศ. 2565 ชี้ให้เห็นนิมิตหมายอันดีว่า พื้นที่ประเทศไทยพบจุดความร้อน (hot spot) ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยการเผาในพื้นที่เกษตรก็ลดลงอย่างต่อเนื่องเช่นกัน คาดว่าส่วนหนึ่งเป็นผลพวงจากการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการพยายามนำวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรไปใช้ให้เกิดประโยชน์ทดแทนการเผา

“โครงการพฤติกรรมเชิงลึกของเกษตรกรและคนในชุมชนเพื่อพัฒนาชุมชนเกษตรปลอดการเผา” สนับสนุนโดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (สกสว.) และมหาวิทยาลัยมหิดล นำโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุกัญญา เสรีนนท์ชัย อาจารย์ประจำคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

จากการลงพื้นที่ดำเนินการวิจัยและถอดบทเรียนการพัฒนาชุมชนเกษตรปลอดการเผาในจังหวัดชัยนาท ซึ่งเป็นแหล่งปลูกข้าวที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย ระหว่างเดือนตุลาคม 2563-มีนาคม 2565 เพื่อรวบรวมและประมวลทางเลือกในการจัดการตอซังฟางข้าว ซึ่งเป็นวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร ให้สามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชนให้ได้มากที่สุด

ความสำเร็จจากการดำเนินโครงการที่ผ่านมา นอกจากการได้รับตีพิมพ์เผยแพร่บทความวิจัย ซึ่งได้ทำความเข้าใจพฤติกรรมการจัดการตอซังฟางข้าวในแต่ละรูปแบบ และเสนอแนวทางการสื่อสารเพื่อการนำฟางข้าวมาใช้ประโยชน์ในวารสารวิชาการระดับนานาชาติเมื่อปีที่ผ่านมาแล้ว ยังได้จัดทำเป็น “คู่มือฟางข้าว…ทำอะไรได้บ้าง” เพื่อเป็นแนวคิดให้เกษตรกรได้นำไปสร้างสรรค์ต่อยอด “ทำฟางข้าวให้เกิดเป็นรายได้” เลี้ยงชุมชนได้ต่อไป

ตัวอย่างแนวคิดการใช้ประโยชน์จากฟางข้าวที่ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุกัญญาได้แนะนำไว้ในคู่มือ ได้แก่ ใช้ฟางข้าวคลุมดิน เป็นอาหารเลี้ยงสัตว์ เพาะเห็ดไถกลบฟางข้าว ทำปุ๋ยหมักฟางข้าว อัดฟางข้าวขาย และทำผลิตภัณฑ์ เช่น แปรรูปฟางข้าวสู่กระถางชีวภาพ ที่นอกจากใช้เป็นภาชนะปลูกพืชแล้ว ยังสามารถอุ้มน้ำให้ความชุ่มชื้นต่อพืชในกระถางไปด้วยในตัว ซึ่งหากสามารถนำไปประยุกต์ต่อยอดด้วยเทคโนโลยีที่เหมาะสมแล้ว จะยิ่งทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น