CPF ร่วมสร้างยุวเกษตร ส่งมอบโอกาสให้น้องๆ“รร.บ้านบุเขว้า”จ.นครราชสีมา ในโครงการคอนเน็กซ์ อีดี

การส่งเสริมการเรียนรู้นอกห้องเรียน สร้างประสบการณ์และแรงบันดาลใจให้กับโรงเรียนขยายโอกาส  ซึ่งภาคเอกชนอย่าง บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ มีโอกาสร่วมพัฒนาการศึกษาของไทย  ด้วยการส่งมอบความรู้ และทักษะด้านอาชีพถ่ายทอดให้กับน้องๆ โรงเรียนในความรับผิดชอบ ภายใต้ “โครงการสานอนาคตการศึกษา คอนน็กซ์ อีดี  (CONNEXT ED)”

โรงเรียนบ้านบุเขว้า จังหวัดนครราชสีมา  เป็นโรงเรียนขนาดกลางที่มีจำนวนนักเรียน 126 คน คุณครู 12  ท่าน  และเป็น 1  ใน 298 โรงเรียน ที่ซีพีเอฟดูแล โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากบริษัทฯ ดำเนินโครงการเลี้ยงไก่พันธุ์ไข่  ในปีการศึกษา 2562  และดำเนินโครงการอย่างต่อเนื่องด้วยตัวเอง  ด้วยเงินทุนหมุนเวียนจากการจำ หน่ายผลผลิตไข่ไก่ในโครงการฯ

ผลสัมฤทธิ์จากการดำเนินโครงการเลี้ยงไก่พันธุ์ไข่  เข้ามาเสริมโครงการยุวเกษตรที่โรงเรียนดำเนินการอยู่แล้วให้แข็งแกร่งและยั่งยืน ส่งผลให้กลุ่มยุวเกษตรของโรงเรียน ได้รับรางวัลที่ 1 สถาบันเกษตรกรดีเด่นระดับประเทศ ประเภทกลุ่มยุวเกษตรกร  และได้รับรางวัลที่ 1 บุคคลทางการเกษตรดีเด่นระดับประเทศ ประเภท ที่ปรึกษากลุ่มยุวเกษตรกร  โดยได้เข้ารับพระราชทานรางวัลในวันพืชมงคล ประจำปี 2565

นายอนันต์ ขำโพธิ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านบุเขว้า  กล่าวว่า  โรงเรียนฯขอขอบคุณโครงการสานอนาคตการศึกษา คอนน็กซ์ อีดี  โดยมีซีพีเอฟเข้ามาสนับสนุนโรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่   ทำให้นักเรียนได้รับประทานอาหารที่มีคุณภาพ และปลูกฝังทัศนคติที่ดีต่ออาชีพเกษตรกรรม  สร้างนิสัยรักการทำงานจากการที่นักเรียนได้ฝึกปฏิบัติจริง  ทำให้เกิดทักษะการทำงานเป็นกลุ่ม   ได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ก่อให้เกิดรายได้ระหว่างเรียนหรือสามารถนำไปประกอบอาชีพในอนาคตได้ รวมทั้งได้สืบสานตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง  นอกจากนี้  กิจกรรมของกลุ่มยุวเกษตรกรใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับนักเรียน ชุมชน และกลุ่มยุวเกษตรกรเครือข่ายทั้งในอำเภอและจังหวัดนครราชสีมา โดยสมาชิกยุวเกษตรกรสามารถให้ข้อมูลและถ่ายทอดความรู้ในแต่ละกิจกรรมให้กับผู้ที่เข้ามาศึกษาเยี่ยมชมได้

คุณครูประทุมรัตน์  จงคูณกลาง คุณครูที่ปรึกษากลุ่มยุวเกษตร รร.บ้านบุเขว้า เล่าว่า  กลุ่มยุวเกษตรของโรงเรียนมีสมาชิก 35 คนเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่   5 และ 6  ที่สนใจกิจกรรมด้านเกษตร โดยที่กลุ่มยุวเกษตรมีการแบ่งกิจกรรมออกเป็น  3 ส่วน  คือ งานรวม  ประกอบด้วย  ปลูกข้าว ปุ๋ยหมัก สหกรณ์  และออมทรัพย์ งานกลุ่มย่อย  อาทิ การเลี้ยงไก่พันธุ์ไข่ เพาะเห็ด เลี้ยงปลาดุก  ปลูกไม้ผล และงานส่วนบุคคล  เป็นกิจกรรมที่เด็กๆเรียนรู้จากที่โรงเรียน นำไปใช้ต่อที่บ้าน เช่น การเลี้ยงไก่ พร้อมเรียนรู้ช่องทางการจำหน่ายผลผลิตไข่ไก่ ผ่านช่องทางออนไลน์โดยเด็กๆ ไลฟ์ผ่านเพจเฟซบุ๊กของโรงเรียน https://www.facebook.com/bukwau?mibextid=ZbWKwL

Advertisement

“โรงเรียนนำโครงการเลี้ยงไก่พันธุ์ไข่ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากซีพีเอฟ เป็นโครงการชูโรงในการเข้าประกวดรางวัลเชิดชูเกียรติเกษตรกร บุคคลทางการเกษตร และสถาบันเกษตรกรดีเด่น ประจำปี 2565  และทำให้โรงเรียนประสบความสำเร็จ ได้รับรางวัลสถาบันเกษตรกรดีเด่นระดับประเทศ เป็นโครงการที่ทำให้เด็กๆ มีช่องทางในการประกอบอาชีพที่หลากหลาย เด็กนักเรียนได้เรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติจริง และนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง ” คุณครูประทุมรัตน์ ซึ่งเป็นที่ปรึกษากลุ่มยุวเกษตรของ รร.บ้านบุเขว้า กล่าว

Advertisement

ด.ช. ธณัฐพล บ่อกลาง หรือน้องเนย นักเรียนชั้น ป.6  ประธานกลุ่มยุวเกษตรกร เล่าว่า น้องๆชั้น ป. 5 จำนวน 20 คน ได้รับมอบหมายให้ดูแลโครงการเลี้ยงไก่พันธุ์ไข่   ทำให้ได้เรียนรู้การเลี้ยงไก่ไข่ตลอดกระบวนการ ทั้งการให้อาหารไก่   ให้น้ำ สังเกตอาการของไก่  เก็บผลผลิตไข่ไก่  ทำความสะอาดโรงเรือน เก็บมูลไก่เพื่อนำไปทำปุ๋ย รวมไปถึงการถ่ายทอดประสบการณ์ให้น้องๆ เช่น การชั่งน้ำหนักของไข่ตามเบอร์  โครงการนี้่ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซื้อวัตถุดิบเพื่อนำมาทำอาหารกลางวันให้กับนักเรียน  และผมได้นำประสบการณ์เเรียนรู้การเลี้ยงไก่ไข่ไปใช้กับการเลี้ยงไก่ที่บ้าน

ทางด้านด.ญ. ลลิตภัทร โอโน หรือ น้องวิ้ง กำลังศึกษาชั้น ป. 6  เช่นเดียวกับน้องเนย และเป็นเลขาฯกลุ่มยุวเกษตร  กล่าวว่า ได้เรียนรู้การเลี้ยงไก่ไข่มาตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ป.5   ซึ่งโรงเรียนของเราให้เด็กนักเรียนได้เรียนรู้การเลี้ยงไก่ไข่เปรียบเทียบกันระหว่างการเลี้ยงแบบปล่อยซึ่งมีพี่ๆซีพีเอฟมาให้ความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยง และที่โรงเรียนยังได้เลี้ยงไก่แบบกรงตับด้วย  คุณครูเล่าให้ฟังว่าโครงการยุวเกษตรและโครงการเลี้ยงไก่พันธุ์ไข่ ทำให้กลุ่มยุวเกษตรของโรงเรียนได้รับรางวัลฯ รู้สึกภูมิใจ และคิดว่าหลังจากที่จบการศึกษาจากโรงเรียนนี้ไปแล้ว จะนำความรู้ที่ได้รับไปถ่ายทอดให้กับเพื่อนๆที่โรงเรียนแห่งใหม่  เป็นตัวอย่างของโรงเรียนอื่นได้และบอกต่อให้คนอื่นๆสามารถนำความรู้ไปใช้ได้

ซีพีเอฟ เป็น 1 ใน 12 องค์กรภาคเอกชนที่ร่วมก่อตั้งมูลนิธิสานอนาคตการศึกษาคอนเน็กซ์ อีดี  ยกระดับการพัฒนาการศึกษาของไทย ลดความเหลื่อมล้ำ ซึ่งปัจจุบัน  มีโรงเรียนในความดูแลของบริษัทฯ 298 แห่ง  ครอบคลุมพื้นที่  4 จังหวัด  ได้แก่ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ชัยภูมิ และสระบุรี โดยในปี 2566 นี้ ซีพีเอฟ มีเป้าหมายขับเคลื่อน โครงการคอนเน็กซ์ อีดี  โดยเน้นโครงการด้านวิชาการควบคู่กับโครงการที่ส่งเสริมทักษะอาชีพให้กับเด็กๆ  โดยนอกจากบริษัทฯ สนับสนุนงบประมาณในการดำเนินโครงการต่าง ๆ  ของโรงเรียนในความดูแลแล้ว  ยังได้สนับสนุนให้พนักงานสมัครเป็นผู้นำเพื่อการพัฒนาการศึกษา  (School Partner :SP)เพื่อเป็นคู่คิดกับผู้บริหารของสถานศึกษา จัดทำแผนพัฒนาโรงเรียนคอนเน็กซ์อีดีให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ มุ่งสร้างเด็กดีและเด็กเก่ง  เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไป .

ติดตามข่าวสาร โครงการคอนเน็กซ์ อีดี ของซีพีเอฟ ได้ที่  https://www.facebook.com/cpfconnexted