สวนฝรั่งเจ๊อ้วนอ่างทอง

สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่รักและคิดถึงทุกท่าน ลมหนาวพัดมาวอยๆ กรุ่นกลิ่นควันไฟในไอหนาวทำให้นึกถึงบรรยากาศแบบบ้านน้อกบ้านนอก หาเผือกหามันมาหมกในขี้เถ้า คนก็ได้อิงไออุ่น มีปลาก็เอามาใส่ตับไม้ปิ้งย่างกัน ได้อรรถรสแห่งวิถีที่เรียบง่ายและงดงาม นึกถึงความไม่เร่งรีบในเมืองที่รีบเร่ง ผมพลอยยิ้มด้วยความสุขในห้วงคำนึง

เจ๊อ้วนอ่างทอง

ช่วงนี้เป็นฤดูกาลเก็บเกี่ยว หากเป็นสมัยก่อนเราจะได้เห็นวัฒนธรรมการลงแรงช่วยกันทำงาน หรือที่เรียกว่า “ลงแขก” จากบ้านนี้ไปบ้านนั้นบ้านโน้น จนวนมาครบทุกแปลงนา เกี่ยวข้าว ตากข้าว มัดข้าว รวมลาน นวด สี ฝัด กระทั่งขนเข้ายุ้งฉาง กิจกรรมอันหลากหลายล้วนใช้แรงงานของคนในชุมชนด้วยกัน ทั้งญาติพี่น้อง เพื่อนบ้าน ทุกคนใช้แรงมาแลกกันทำงาน หุงข้าวทำกับข้าวเลี้ยงดูกัน การทำงานก็สนุก มีเรื่องราวมากมายให้ได้พูดคุยหัวเราะหัวใคร่กัน

ผลผลิตที่ดกจริงๆ

ปัจจุบันทุกอย่างล้วนเปลี่ยนไป กิจกรรมการเกษตรอาศัยพลังงานเครื่องจักรกลมากขึ้น การไปมาหาสู่ของผู้คนก็ลดลง กิจกรรมต่างๆ ที่ชุมชนเคยมีก็หดหายไป พร้อมกับการย่างก้าวเข้ามาของระบบทุนนิยม ชาวนาบางส่วนต้องขายที่ดินเพื่อใช้หนี้ทั้งในและนอกระบบ การทำนาเพียงขายข้าวเปลือกสร้างปัญหาเรื่องราคาอยู่ทุกฤดูกาลผลิต ในขณะที่ราคาข้าวสารแพงอยู่ตัว แต่ราคาข้าวเปลือกกลับต่ำชั้นจนมิอาจเทียบได้ ไม่รู้จะมีใครมาช่วยดูแลในส่วนนี้

ไข่มุกขาว ผลทรงหยดน้ำ สวยและดกมาก

ผมรู้จักกับ เจ๊อ้วนอ่างทอง มาหลายปี เรียก พี่อ้วน เจ๊อ้วนบ้างตามแต่ใจอยากเรียก ชื่อจริงของแกคือ นางสาวณหทัย น้ำดอกไม้ เบอร์โทร. (094) 342-1789 เกษตรกรคนเก่งแห่งบ้านโพสะ อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง ผู้ที่ใช้พื้นที่ไม่มากมาสร้างมูลค่าให้มีรายได้พอเลี้ยงตัวเองได้โดยไม่เดือดร้อน โดยตัวเจ๊อ้วนเองนั้นเรียนจบวิทยาลัยเกษตรกรรม สาขาพืชสวน แล้วชีวิตก็จับพลัดจับผลูไปสร้างตัวตนในนามสื่อมวลชนสายปศุสัตว์ เปิดหนังสือเกี่ยวกับเรื่องราวของโคมากมายหลายเล่ม อาทิ ฅนโคบาล, ยินดีไทยแลนด์, ครบเครื่องเรื่องอินดูบราซิล, สุดยอดโคงามอินดูบราซิล ฯลฯ

สภาพสวนที่ดูแลอย่างดี

“สถานการณ์ตอนนั้น เป็นยังไงบ้างครับพี่”

“รวยสิ ขายน้ำเชื้อกันรวยสุดๆ มีพ่อโคงามๆ ที่สร้างชื่อให้เจ้าของมากมาย ทั้งอาเสี่ย นักการเมือง และผู้คนทั่วไป”

“แล้วทำไมเลิก”

กิ่งตอนที่ชำไว้รอจำหน่าย

“คงอิ่มตัวนะ หนังสือเริ่มอืด เรียกว่าสื่อสิ่งพิมพ์เริ่มไปไม่ไหว ก็เลยเลิก กลับมาบ้านดีกว่า”

มีเงินติดตัวกลับมา 1 ก้อน เจ๊อ้วนก็มีโจทย์ใหม่ จะทำอะไรกินดีหนอ? หันไปมองดูที่ดินที่มีแปลงหนึ่งเนื้อที่ 3 งาน ถูกปล่อยทิ้งร้างไว้ มีเพียงหญ้าและวัชพืชปกคลุม ประกอบกับในช่วงนั้นสื่อสารกันในโซเชียลจนสร้างกลุ่มชุมชนคนแบ่งปัน มีการแจก แลกเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์กันไปปลูกทั่วประเทศ ในช่วงนั้นเจ๊อ้วนก็ได้รับความเมตตาจาก พี่เพชร ที่อยู่ประเทศไต้หวัน พี่เพชรจะแจกเมล็ดผลไม้ที่ชิมแล้วอร่อยส่งมาให้แจกในกลุ่ม และเจ๊อ้วนก็เลยทดลองเพาะ ปลูก ดูแลอยู่ ส่วนมากจะเป็นเมล็ดฝรั่งที่พี่เพชรชิมแล้วอร่อยถูกใจ ทั้งไส้แดงและไส้ขาว

อีกหนึ่งสายพันธุ์ที่รอลุ้น (สีสวยมาก)

เมื่อผ่านไปปีครึ่ง ฝรั่งเริ่มมีผลผลิต เจ๊อ้วนก็จะคัดสายพันธุ์ที่ตั้งเป้าไว้คือ ดก รสอร่อย ต้นอื่นที่ไม่ผ่านก็ตัดทิ้ง และจากโลกของโซเชียลนั่นเอง ในวันหนึ่งเจ๊อ้วนถ่ายภาพต้นฝรั่งที่ดกๆ ในสวน ผ่าให้เห็นไส้ในสีแดงน่ากินยิ่งนัก และส่งผ่านในกลุ่มให้พี่เพชรชม ซึ่งเราจะรียกว่าเป็นการส่งการบ้าน นอกจากพี่เพชรแล้ว สมาชิกท่านอื่นก็เห็นภาพนั้นด้วยและอยากได้บ้าง จึงเป็นที่มาของการเริ่มตอนกิ่งขยายพันธุ์ ส่วนหนึ่งปลูกเอง และส่วนหนึ่งก็จำหน่ายให้สมาชิก

ปัจจุบัน ในสวนเจ๊อ้วนมีสายพันธุ์ฝรั่งที่เกิดจากการเพาะเมล็ดและคัดสายพันธุ์ไว้ได้ 6-7 สายพันธุ์ เช่น หงซิน หงส์แดง ไข่มุกแดง ไข่มุกขาว น้ำดอกไม้ เพชรโพสะ ซึ่งแต่ละสายพันธุ์ก็จะมีความแตกต่างกันที่รูปทรงผล ขนาดผล สีของไส้ใน กระทั่งรสชาติ แต่ทั้งหมดล้วนแล้วแต่ดกและรสอร่อยทั้งนั้น

ดกจริงๆ ออกทุกข้อตากันเลย

ที่สวนในพื้นที่ 3 งาน เริ่มเต็ม จึงหันมาผลิตฝรั่งเป็นเรื่องเป็นราว ไม้อื่นๆ ที่ตอนแรกก็ปลูกผสมผสานมากมายก็ถึงเวลาต้องเชิญออก มะรุม น้อยหน่า กล้วย มะละกอ มัลเบอรี่ ฟิกส์ มะนาว เพกา ถูกตัดคืนพื้นที่เพื่อปลูกฝรั่ง และยังมีอีกแปลงในพื้นที่ 5 งาน ก็ลงฝรั่งทั้งหมด เรียกว่าเดินมาถูกทางแล้ว แม้จะขาดแคลนน้ำ แต่ก็อาศัยน้ำประปามาช่วยอยู่บ้าง พี่อ้วนวางแผนการทำสวนแบบพอเพียง ส่วนหนึ่งก็เพราะพี่อ้วนเองก็อยู่ในกลุ่ม 1 ไร่ พอเพียง อยู่แล้วด้วย กิจกรรมที่ทำสอดคล้องกับทางกลุ่ม คือ ทำให้พื้นที่เพียง 1 ไร่ ให้สามารถสร้างอาหารและเลี้ยงตัวเองให้ได้ โดยเจ๊อ้วนตั้งเป้าให้ตัวเองในการสร้างรายได้จากสวน สัปดาห์ละ 3,000 บาท

“พอไหมพี่”

“บ้านไม่เช่า ปลูกผักไว้กินด้วย เหลือเก็บได้เลยแหละ”

“แล้วทำได้ไหมพี่ กับพื้นที่แค่นี้”

“ได้สิ บางทีก็เกินเป้าด้วยซ้ำ”

ถามถึงเทคนิคการทำสวนฝรั่งของเจ๊อ้วน หนึ่ง คือคัดเลือกสายพันธุ์ที่ดี ผลดก รสชาติต้องอร่อย การขยายพันธุ์ที่สวนจะเน้นการตอนกิ่งเท่านั้น เพราะพิสูจน์แล้วว่าปลูกจากกิ่งตอนจะโตเร็วกว่า แข็งแรงกว่า การทำแปลงโดยการยกร่องเป็นลูกฟูกก็สำคัญ เพราะอ่างทองมักเจอน้ำท่วมในช่วงหน้าน้ำบ่อยๆ เรายกร่องไว้ก่อนจะดีกว่า ปุ๋ยก็ใช้ปุ๋ยคอกเป็นหลัก ทั้งขี้วัว ขี้นกกระทา เมื่อติดผลเล็กขนาดหัวแม่มือก็ต้องห่อไว้หน่อย ไม่งั้นแมลงวันทองมาเจาะเสียหายหมด

เพื่อนๆ สมาชิกแวะเวียนหากัน

การปลูกจากกิ่งตอนเจ๊อ้วนแนะนำว่า ให้นำไปชำในถุงดำ หรือกระถาง ไว้สัก 15-20 วัน ในที่รำไร ให้รากเต็มสักนิด แล้วค่อยเอามาปลูก แนะนำให้ขุดหลุม ขนาด 50x50x50 ผสมปุ๋ยคอกกับดินเก่าคลุกเคล้าให้เข้ากัน นำกิ่งที่ชำแล้วลงปลูก ปักไม้แล้วมัดให้แน่นกันลมโยก กลบดินและรดน้ำให้ชุ่ม ระยะปลูกที่เหมาะสมก็อาจเป็น 4×4 หรือ 3×3 ดูแลเรื่องหญ้า เรื่องน้ำให้ดี พออายุได้ 5-6 เดือน ก็เริ่มให้ติดผลได้แต่ไม่เยอะ เพราะต้นยังสาวยังไม่สมบูรณ์เต็มที่ จนอายุได้สัก 1 ปี ค่อยปล่อยให้ติดผลเต็มที่

“พี่ หากมีสมาชิกมาขอดูงานพี่สะดวกไหมครับ”

“ได้เลย โทร.มานัดก่อนนะ (094) 342-1789 หากบอกว่าอ่านเจอจากเทคโนโลยีชาวบ้านจะมีพิเศษให้ด้วย”

“ขอบคุณครับพี่”

…………………………….

เผยแพร่ในระบบออนไลน์เป็นครั้งแรก เมื่อวันพุธที่ 25 ธันวาคม พ.ศ.2562