“เพาะเห็ดแครงขาย” อาชีพที่น่าสนใจยุคโควิด-19 ราคาดี คนเพาะน้อย เป็นที่ต้องการของตลาด

เห็ดแครง หรือ เห็ดตีนตุ๊กแก เป็นเห็ดที่เจริญเติบโตได้ดีในเขตร้อนชื้น เกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติ พบเห็นได้บ่อยบนท่อนไม้ยางพาราและไม้เนื้ออ่อนทั่วไป โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ ปัจจุบันชาวบ้านส่วนใหญ่นิยมนำมาประกอบอาหารเป็นหลากหลายเมนู เช่น เห็ดแครงหมกสมุนไพร คั่วกลิ้ง แกงกะหรี่ ห่อหมก ลวกยำ ลาบ หรือไข่เจียวเห็ดแครงก็อร่อยไม่น้อย ซึ่งนอกจากความอร่อยเด็ดแล้ว เห็ดแครงยังอุดมไปด้วยธาตุอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากมาย ทั้งโปรตีน ไฟเบอร์ที่สูง และยังมีสารที่มีคุณสมบัติในการต้านไวรัส ซึ่งด้วยจุดเด่นของเห็ดแครงที่มีรอบด้าน ทำให้ในปัจจุบันได้มีการพัฒนาเพาะเลี้ยงระบบปิดในโรงเรือนที่มีมาตรฐานปลอดภัย และสามารถเพาะเลี้ยงผลผลิตให้ออกได้ทั้งปี

คุณบุญเลิศ ไชยคง หรือ พี่เลิศ

คุณบุญเลิศ ไชยคง หรือ พี่เลิศ อยู่บ้านเลขที่ 49/4 หมู่ที่ 4 ตำบลบ้านทำเนียบ อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ยังสมาร์ทฟาร์มเมอร์ ที่มีฝีมือการเพาะเห็ดไม่เป็นสองรองใคร ใช้เวลาคลุกคลีอยู่กับการเพาะเห็ดมานานกว่า 7 ปี เรียนรู้พัฒนาจนเข้าใจธรรมชาติของเห็ดหลากหลายชนิดตามที่ตลาดต้องการ เช่น เห็ดนางฟ้า เห็ดหูหนู เห็ดหลินจือ เห็ดขอนขาว และเห็ดแครง ที่เป็นเห็ดน้องใหม่ของฟาร์มแต่ได้กลายมาเป็นพระเอกช่วยสร้างรายได้หลัก ราคาดีกิโลกรัมละ 250 บาท รวมไปถึงการต่อยอดทำเห็ดแครงอบแห้งเพิ่มมูลค่าขึ้นมาเป็นหลักพันบาทต่อกิโลกรัม

พี่เลิศ เล่าถึงจุดเริ่มต้นการเพาะเห็ดว่า ตนเองได้ประกอบอาชีพเพาะเห็ดมาเป็นเวลากว่า 7 ปี โดยในช่วงแรกเป็นการเพาะเห็ดชนิดที่หาซื้อได้ง่ายตามตลาดทั่วไป ต้องประสบกับปัญหาที่คู่แข่งเยอะ รายได้ไม่ดีเท่าที่ควร จึงได้กลับมาคิดหาความแตกต่าง ทำอะไรที่คนอื่นไม่ค่อยทำหรือมีคนทำน้อย จนได้นึกไปถึงวิถีชีวิตของคนรุ่นปู่ย่าตายายที่มีมาช้านานแต่ตนเองได้มองข้ามไป นั่นคือเห็ดแครง ที่เป็นวัตถุดิบหลักในการประกอบอาหารสะท้อนวิถีชีวิตของคนสุราษฎร์ธานีมานาน แต่ในปัจุบันหารับประทานได้ยาก เนื่องด้วยปัจจัยหลายอย่าง เช่น สภาพภูมิอากาศ เห็ดแครงจะมีให้เก็บแค่ในเฉพาะฤดูฝนเท่านั้น รวมไปถึงวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลง เพราะเมื่อก่อนชาวบ้านจะเก็บเห็ดแครงตามขอนไม้ยางพารา ตามพื้นที่ธรรมชาติ ซึ่งต่อมาไม้ยางพารามีการซื้อขาย ยิ่งส่งผลทำให้เห็ดแครงค่อนข้างหารับประทานได้ยากยิ่งขึ้น นี่จึงเป็นจุดประกายไอเดียในการต่อยอดการเพาะเห็ดแครงสร้างรายได้เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งชนิด จนได้รับมาตรฐานเป็นเห็ดแครงออร์แกนิกไทยแลนด์อีกด้วย

“เพาะเห็ดแครงสร้างรายได้”
ขายได้ทั้งเห็ดสดและแปรรูป

เจ้าของบอกว่า นอกเหนือจากคุณประโยชน์ทางโภชนาการแล้ว ในแง่ของการทำตลาดนั้นเห็ดแครงก็มีไม่น้อย ซึ่งก็เป็นเรื่องที่สืบเนื่องมากจากคุณประโยชน์ที่มีหลากหลาย ทำให้เห็ดแครงมีตลาดที่กว้าง เป็นที่ถูกอกถูกใจทั้งในกลุ่มคนทั่วไป และกลุ่มคนรักสุขภาพ กินเจและมังสวิรัติ รวมไปถึงกลุ่มคนต้องการลดน้ำหนัก จึงถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะนำเห็ดแครงมาขยายการเพาะเลี้ยงและขยายการตลาดเพื่อรองรับความต้องการของตลาดในอนาคตที่จะยิ่งมีเพิ่มมากขึ้น

การแขวนก้อนเชื้อเห็ดในโรงเรือน

การเพาะเห็ดแครง โดยธรรมชาติของเห็ดแครง จะชอบอากาศที่ร้อนชื้น เจริญเติบโตได้ดีแถบพื้นที่ภาคใต้ หรือหากเกษตรกรที่อยู่ภาคอื่นๆ สนใจเพาะก็สามารถทำได้ หากท่านสามารถควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสมก็สามารถที่จะเพาะเลี้ยงได้ทั่วประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาทางภาคอีสานก็มีการนำเห็ดแครงไปเพาะเลี้ยงบ้างแต่ไม่ได้ทำเป็นอาชีพจริงจัง เนื่องด้วยสภาพอากาศและวัตถุดิบที่สำคัญ

ในการทำก้อนเชื้อเห็ดไม่เอื้ออำนวยเท่าที่ควร ก็จะกลายเป็นต้นทุนที่สูง

โรงเรือนเพาะเห็ด ของที่ฟาร์มตอนนี้มีโรงเรือนไว้สำหรับเพาะเห็ดแครงโดยเฉพาะ อยู่ทั้งหมด 3 โรงเรือน มีขนาดความกว้าง 4.50 เมตร ยาว 8 เมตร มุงหลังคาเมทัลชีต ส่วนโครงสร้างเป็นเหล็ก ด้านข้างกั้นด้วยซาแรนและผ้ายาง เพื่อให้ระบายอากาศได้ง่าย สำหรับโรงเรือนขนาดกว้าง 4.50×8 เมตร สามารถบรรจุเห็ดได้ประมาณ 1,000 ก้อน และสะดวกในการควบคุมอุณหภูมิได้ง่าย

ผลิตก้อนเชื้อเห็ด

วิธีการเพาะ ที่ฟาร์มเป็นการเพาะเห็ดแครงอินทรีย์ เริ่มจากการทำก้อนเชื้อเห็ดมีวัตถุดิบหลักสำคัญแค่ 2 อย่าง คือ ขี้เลื่อยยางพาราและรำละเอียด ผสมในสัดส่วน ขี้เลื่อยไม้ยางพารา 100 กิโลกรัม รำละเอียด 50 กิโลกรัม คลุกเคล้าวัตถุดิบให้เข้ากัน พรมด้วยน้ำสะอาดให้มีความชื้นพอเหมาะ ใส่อาหารเสริมและอาหารชีวภาพลงไปเพื่อให้ดอกเห็ดมีน้ำหนัก มีเนื้ออร่อย หลังจากได้ส่วนผสมแล้วบรรจุใส่ถุงพลาสติกเพาะเห็ด ขนาด 6.5×10 นิ้ว ประมาณ 3 ใน 4 ของถุง นำไปนึ่งในหม้อนึ่ง อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 3-4 ชั่วโมง นับจากน้ำเดือด เมื่อครบกำหนดเวลาพักไว้ให้เย็น ลำเลียงไปไว้ในห้องเขี่ยเชื้อ แล้วรีบใส่เชื้อ อย่าทิ้งไว้ให้เกิน 24 ชั่วโมง จะทำให้การปนเปื้อนของเชื้อสูง เห็ดแครงจะใช้เวลาบ่มก้อนเชื้อ 15-20 วัน เชื้อก็จะเดินเต็มก้อนพร้อมนำไปเปิดดอกในโรงเรือน ซึ่งสาเหตุที่ใช้วัตถุดิบเพียง 2 อย่างในการทำก้อนเชื้อนี้ได้มีการทดลองมาแล้วว่าผลลัพธ์ที่ได้ไม่แตกต่างกันเท่าไร เพียงแค่เชื้อเห็ดจะเดินช้ากว่าปกติประมาณ 4-5 วัน

โรงเรือนเพาะเห็ด อากาศถ่ายเทสะดวก

การเปิดดอกเห็ด ใช้มีดกรีดถุงก้อนเชื้อเป็นแนวยาว 5-6 แนว แบบทแยง 3 วันแรกรดน้ำที่พื้นและผนังโรงเรือน เพื่อเพิ่มความชื้นในโรงเรือน เห็ดแครงเจริญเติบโตได้ดีในสภาพอุณหภูมิ 30-35 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 70-80% ทำให้เห็ดแครงสามารถเปิดดอกได้ตลอดทั้งปี

หลังจากกรีดถุงและรดน้ำพื้นให้ชื้น ประมาณ 2-3 วัน ดอกเห็ดจะเริ่มออกตุ่มดอกออกมาเรื่อยๆ หลังจากนั้น ประมาณวันที่ 6-7 ดอกเห็ดจะโตพอที่จะเก็บเกี่ยวได้ แนะนำให้ใช้มีดคมๆ เฉือนตรงโคนดอกเห็ดที่ดอกบานเต็มที่แล้วเก็บได้รุ่นแรก จะให้ผลผลิตเฉลี่ยประมาณ 80-100 กรัมต่อเห็ด 1 ก้อน หลังจากเก็บเห็ดรุ่นแรกแล้ว รออีก 6-7 วัน จึงจะสามารถผลผลิตรุ่นที่ 2 โดยจะได้ผลผลิตเฉลี่ย 20-30 กรัม ตามลำดับ

เห็ดแครงพร้อมเก็บ

เห็ด 1 ก้อน ส่วนใหญ่นิยมเก็บ 2 ครั้ง แต่ที่ฟาร์มจะเก็บผลผลิตแค่ครั้งเดียว เพื่อควบคุมคุณภาพของดอกเห็ด เนื่องจากครั้งแรกเห็ดแครงจะให้ผลผลิตดดอกที่ใหญ่ รับประทานแล้วจะรู้สึกถึงความกรุบกรอบ ดอกจะออกมาสวยเสมอกันหมดทุกก้อน แต่ถ้าไปเก็บรอบ 2 ข้อเสียคือจะได้ดอกที่เล็กลง และจะเกิดปัญหาราดำ ราเขียวตามมา เสี่ยงต่อการปนเปื้อน ซึ่งในลำดับถัดไปที่ฟาร์มจะนำก้อนเห็ดมาทำเป็นปุ๋ยมาใช้ในฟาร์มเกษตรอินทรีย์ต่อไป

เก็บเกี่ยวผลผลิตอย่างมีความสุข

การแขวนก้อนเชื้อเห็ด เพื่อประหยัดต้นทุนและช่วยกระจายความชื้นได้ทั่วถึงกว่าชั้นวาง โดยใน 1 แถวมัดก้อนเห็ดได้ 7 ก้อน ความยาวของเชือกจากราวแขวนสู่พื้นยาว 2 เมตร เป็นระดับที่กำลังพอดีไม่สูงไม่ต่ำจนเกินไป หรือหากท่านใดสะดวกทำเป็นชั้นวางก็ได้แต่ด้วยชั้นวางต้องใช้เป็นตะแกรงเหล็ก ถือเป็นการเพิ่มต้นทุน แต่ก็จะได้ถึงความสะดวก ง่ายต่อการบริหารจัดการ

ผลิตภัณฑ์เห็ดแครงแห้ง เพิ่มมูลค่า

การแปรรูป โดยทั่วไปเห็ดแครงนิยมรับประทานสด เพราะมีรสชาติที่อร่อยมากๆ แต่ด้วยการเก็บรักษาที่ค่อนข้างยาก ยกตัวอย่าง เมื่อเก็บเห็ดสดมาชั่งกิโลในครั้งแรกได้น้ำหนัก 1 กิโลกรัม แต่เมื่อปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลาสัก 2 ชั่วโมง แล้วกลับมาชั่งอีกที น้ำหนักของเห็ดจะลดหายไปอย่างรวดเร็ว ชั่งอีกทีเหลือ 7 ขีด จึงต้องหาทางออกด้วยการนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เห็ดแครงอบแห้ง ด้วยพาราโบลาโดมและเห็ดแครงทรงเครื่องทอดกรอบ ขายในราคาเห็ดแครงสดกิโลกรัมละ 250 บาท อบแห้งกิโลกรัมละ 1,350 บาท หรือท่านใดอยากซื้อไปทดลองชิมก่อนก็มีขนาดเล็กให้เลือก 3 ขนาด 1. ปริมาณ 25 กรัม ราคา 50 บาท 2. ปริมาณ 50 กรัม ราคา 80 บาท และ 3. ปริมาณ 100 กรัม ราคา 150 บาท

แนะนำเพาะเห็ดแครง
อาชีพเสริมยุคโควิด-19

“จริงๆ แล้วเกษตรกรหลายท่านมองว่าอาชีพเกษตรกรเป็นอะไรที่เหนื่อย แต่ด้วยประสบการณ์ผมมองว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับความตั้งใจ ความตั้งใจต้องมาก่อน ไม่ว่าจะปลูกผักหรือเพาะเห็ดก็ตาม หลายๆ ท่านบอกว่าการเพาะเห็ดยากจัง ไหนจะต้องควบคุมอุณหภูมิ เขี่ยหน้าก้อน ทำโรงเรือน แต่จริงๆ แล้วถ้าเรารู้นิสัยของพืชผักหรือเห็ดว่าเป็นอย่างไร เริ่มจากการทดลองและสังเกต หรือว่าดูข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ถ้าไม่เข้าใจก็ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก็จะประสบผลสำเร็จได้เร็วขึ้น อย่างที่ฟาร์มก็มีเทคนิคง่ายๆ มีเป็นคลิปวิดีโอเพาะให้เห็นแล้วทำตามได้เลย และยิ่งในช่วงสถานการณ์แบบนี้ การเพาะเห็ดถือเป็นอาชีพที่ตอบโจทย์เลย เพราะว่าท่านสามารถนำก้อนเห็ดแค่ 20-40 ก้อน นำไปเปิดดอกที่บ้าน และไม่จำเป็นต้องมีโรงเรือน แค่มีภาชนะที่เหลือใช้ เช่น กล่องลัง กล่องโฟม โอ่งที่ไม่ได้ใช้แล้ว ก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้เพาะเห็ดได้ ส่วนเรื่องของผลผลิตนั้นจะมีให้เก็บนานหรือไม่ ก็ต้องขึ้นอยู่กับชนิดของเห็ดที่เลือกเพาะด้วย” คุณบุญเลิศ กล่าวทิ้งท้าย

photo credit : เพจเฟซบุ๊ก บุญทิพย์ ฟาร์มเกษตรอินทรีย์

สอบถามรายละเอียดการเพาะเห็ดแครงเพิ่มเติม หรือสนใจสั่งซื้อก้อนเชื้อเห็ดติดต่อได้ที่เบอร์โทร. 087-277-1491

ผลิตภัณฑ์เห็ดแครงทรงเครื่องทอดกรอบ