| ที่มา | เทคโนฯ เกษตร |
|---|---|
| เผยแพร่ |
ต้นเนยถั่ว หรือพีนัทบัตเตอร์ ที่หลายคนรู้จักกันเป็นผลไม้ที่เรียกว่ากำลังมาแรง ต้นเนยถั่วชื่อที่ได้มานี้ เพราะมีรสชาติและเนื้อสัมผัสที่คล้ายกับการกินเนยถั่ว เป็นต้นไม้ขนาดกลางที่คนไทยพึ่งนำเข้ามาปลูกไม่นานมานี้ สามารถปลูกเพื่อนกินผล หรือปลูกเพื่อเป็นไม้ล้อม ไม้ตกแต่งสวนก็ได้ เพราะต้นเนยถั่วเมื่อออกดอกจะมีดอกสีเหลืองที่สวยงามมาก
ด้วยสภาพภูมิประเทศ และสภาพอากาศของบ้านเรา ทำให้การปลูกและการเจริญเติบโตของต้นเนยถั่วเป็นไปได้ด้วยดี ออกผลให้ได้เก็บเกี่ยวตลอดปี และตลาดของผลไม้ชนิดนี้ยังน้อย ทำให้โอกาสในการขายมีมากขึ้น ได้ราคาดีอีกด้วย
ต้นเนยถั่ว ถือเป็นผลไม้แปลกน่าปลูก ที่มีรสชาติดี และเมล็ดยังสามารถกินได้อีกด้วย เนื่องจากต้นเนยถั่วเป็นไม้ขนาดกลาง ความสูง 2-4 เมตร ลักษณะแผ่กิ่งก้าน ใบเป็นรูปหอกสั้น และมีหนาม ขอบใบเป็นคลื่น ดอกจะออกเป็นช่อที่ซอกใบ และดอกกะเทยจะออกที่ก้านใบ ผลมีผิวบาง สีออกส้มแดง ความยาวผล 1 นิ้ว มีเมล็ดด้านใน 2 เมล็ด
คุณณิชาภัส ทองพะวา เจ้าของสวนคุณเหมียว หมู่ที่ 4 ตำบลปากช่อง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ประกอบอาชีพเป็นเกษตรกรเพาะพันธุ์ไม้แปลกหายาก จบการศึกษาคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คุณณิชาภัสกล่าวถึงจุดเริ่มต้นของการเข้ามาทำเกษตร ย้อนกลับไปหลังเรียนจบใหม่ๆ ได้เข้าทำงานในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ ในตำแหน่งฟันเฟืองเล็กๆ ของบริษัท อายุการทำงาน 5 ปี การทำงานเป็นไปด้วยดีและมีความสุข
เมื่อถึงจุดอิ่มตัวในการทำงานประจำ จึงเริ่มมองหาอาชีพใหม่จากสิ่งเดิมที่มีอยู่คือ พื้นที่ 1 งาน ในปากช่อง และได้แนวคิดจากงานเกษตรแฟร์ โซนต้นไม้ ทำให้รู้จักไม้แปลกๆ และเริ่มจากการปลูกต้นมะเดื่อฝรั่ง และขยับมาปลูกไม้ผลชนิดอื่นๆ ใช้ระยะเวลาวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ ในการกลับไปต่างจังหวัดเพื่อทดลอง เมื่อการสั่งสมความรู้มากพอแล้ว ก็ได้ลาออกจากงานประจำ ออกมาทำเกษตรเต็มตัว ด้วยการเพาะพันธุ์ไม้แปลก พันธุ์ไม้โบราณหายาก
ปัจจุบันสวนแห่งนี้เกิดขึ้นมาแล้ว 6 ปี บนพื้นที่ 1 งาน และปัจจุบันกำลังขยายพื้นที่เป็น 1 ไร่ มีพันธุ์ไม้แปลก พันธุ์ไม้โบราณหายาก ที่สามารถสร้างรายได้ตลอดทั้งปี ถือเป็นธุรกิจครอบครัวที่คุณณิชาภัส คุณสามี และลูกสาว ช่วยกันทำเกษตรมุ่งตลาดไม้แปลก ไม้หายาก หลากหลายชนิด แต่วันนี้คุณณิชาภัสจะมายกตัวอย่างการเพาะพันธุ์และดูแลต้นเนยถั่วให้ได้ผลผลิตดี
การทำเกษตรบนพื้นที่ 1 งาน
สวนของเราจะใช้พลาสติกคลุมดิน เพื่อป้องกันวัชพืช คลุมเต็มพื้นที่ 1 งาน อาจมีต้นทุนสูงในการลงทุนครั้งแรก แต่สามารถลดเวลาการถอนหญ้า วัชพืช เมื่อมีหญ้าน้อย แหล่งที่อยู่ของแมลงศัตรูพืช รวมถึงโรคพืชที่มากับแมลงก็น้อยลงไปด้วย
โรงเรือนอนุบาลกล้าไม้
ใช้เสาปูนหรือเสาไม้ตามงบที่เรามี ระยะห่างของเสา 3 เมตร ใช้เสาสูง 3 เมตร (ฝังลงดิน 0.5 เมตร หรือ 50 เซนติเมตร คงเหลือความสูง 2.5 เมตร ซึ่งเป็นระดับความสูงที่เหมาะสม ในการทำงานรวมถึงการระบายอากาศได้ดีภายในโรงเรือน) และใช้ซาแรนพรางแสงสีดำ ซาแรนสีดำให้แสงที่เหมือนกับแสงธรรมชาติ ตัดแค่ความเข้มและความร้อนของแสงออกไป ระดับความเข้มที่ใช้ คือ 50-60 เปอร์เซ็นต์
หากเป็นซาแรนสีเขียว จะตัดแสงสีเขียวออกไป และซาแรนสีฟ้า ตัดแสงสีฟ้าออกไป ซึ่งทำให้ต้นไม้ได้รับช่วงแสงไม่สมบูรณ์ เป็นข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ เรื่องแสงและการเจริญเติบโตของต้นไม้
เพาะเมล็ดต้นเนยถั่ว
ต้นเนยถั่วนิยมขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด เพราะระยะเวลาในการเติบโตไม่ต่างจากการปักชำหรือตอนกิ่ง เริ่มต้นจากการนำเมล็ดล้างทำความสะอาด จากนั้นสามารถนำเมล็ดปักลงดินในถาดเพาะได้เลย (ปักเมล็ดลงดินไม่ลึก) ช่วงระยะเวลาที่อยู่ในถาดพืชจะดูดกินสารอาหารจากเมล็ดของมันเอง ดังนั้น ไม่จำเป็นต้องใส่ปุ๋ย
ระยะเวลาผ่านไปไม่นานก็จะมีต้นอ่อนๆ งอกออกมา ให้นำต้นอ่อนออกมาเพาะพันธุ์ต่อในถุงปลูกขนาด 3×6 นิ้ว และต้นกล้าจะพร้อมลงแปลงปลูกได้เมื่อมีอายุ 5-6 เดือน สามารถสังเกตได้จากราก หากรากเยอะแปลว่ารากแข็งแรงดี ถือเป็นต้นกล้าที่สมบูรณ์พร้อมลงแปลงปลูกแล้ว
ระบบน้ำ
ใช้ระบบมินิสปริงเกลอร์ ตำแหน่งการติดตั้งให้ครอบคลุมทั้งพื้นที่ ส่วนมุมอับใช้สายยางฉีด การรดน้ำจะรดในช่วงเช้าของทุกวัน 1 ครั้ง แต่หากวันไหนที่อากาศไม่ร้อน หน้าดินยังชุ่มชื่นก็ไม่จำเป็นต้องรดน้ำ ต้นเนยถั่วชื่นชอบน้ำ หากได้น้ำที่พอดีก็สามารถออกผลผลิตตลอดทั้งปี ถึงแม้ต้นเนยถั่วจะชอบความชุ่มชื่น แต่ไม่ชอบความชุ่มแฉะเพราะอาจทำให้เกิดโรครากเน่าโคนเน่าและตายได้
ปุ๋ยที่ใช้ภายในสวน
ปุ๋ยหลักๆ เราใช้ออสโมโคท หรือปุ๋ยสูตรละลายช้า ซึ่งจะค่อยๆ ปลดปล่อยธาตุอาหารออกมาอย่างช้าโดยไม่เป็นอันตรายต่อพืช และเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง ใส่ 1 ครั้ง อยู่ได้ถึง 3 เดือน หรือใช้มูลไส้เดือนโรยหน้าดินเดือนละครั้ง (ปรับเปลี่ยนตามสะดวก) การใส่ปุ๋ยสำหรับพันธุ์ไม้ทุกชนิดของสวนจะใส่พร้อมๆ กัน ตามระยะเวลาที่กำหนดไปข้างต้น เพื่อสะดวกต่อการจดจำในการใส่ปุ๋ยรอบถัดไป และต้นพันธุ์มีการเติบโตที่เสมอกัน
ในส่วนของศัตรูพืช เช่น เพลี้ยไฟ ไรแดง เพลี้ยอ่อน เพลี้ยแป้ง เราจะใช้น้ำส้มควันไม้ ในการป้องกันก่อน ถ้าการระบาดรุนแรงควบคุมยากก็จะใช้เคมี สามารถหาซื้อและปรึกษาได้ตามร้านขายเคมีเกษตรทั่วไป โดยจะเอาตัวอย่างใบหรือยอดที่แมลงเข้าทำลาย ไปให้ทางร้านวินิจฉัยและจัดยาให้ตรงตามโรคที่เป็น
ตลาด
กลุ่มลูกค้าทั่วไป ทุกเพศ ทุกวัย ทุกอาชีพ ที่สนใจปลูกผลไม้แปลก ไม้หายาก ผลไม้ใหม่ๆ ในการบริโภค รวมไปถึงไม้แต่งสวน และการทำเกษตรแบบผสมผสาน โดยช่องทางจัดจำหน่ายเป็นการขายออนไลน์ 100 เปอร์เซ็นต์ ขนส่งผ่านไปรษณีย์ไทย หรือนัดรับหน้าสวน และในอนาคตมีแผนออกงานแฟร์เพื่อขยายฐานลูกค้า
“หัวใจสำคัญของการขาย หรือการทำธุรกิจขายกล้าไม้นี้คือ ความจริงใจ ความซื่อตรง จุดขายของเราเน้นความถูกต้องชัดเจนของสายพันธุ์ โดยจะปลูกจนติดผล ถึงสามารถทำต้นพันธุ์จำหน่าย หรือถ้าไม้ตัวใหม่เพิ่งนำเข้ามาก็จะระบุที่มาที่ไปของสายพันธุ์ ผลิตต้นพันธุ์ที่แข็งแรง รวมถึงให้คำแนะนำการปลูก การดูแล และยิ่งขายทางออนไลน์แล้ว การสร้างตัวตนช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือ เพราะหลายคนก็เจอมิจฉาชีพหลอกขายพันธุ์ไม้ปลอม”
สำหรับท่านใดที่สนใจ กล้าไม้แปลก ไม้โบราณ ไม้หายาก ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณณิชาภัส ทองพะวา โทรศัพท์ 088-985-6610 ติดตามความเคลื่อนไหวได้ทางเฟซบุ๊ก : สวนคุณเหมียว
