ผู้เขียน | กาญจนา จินตกานนท์ |
---|---|
เผยแพร่ |
เมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ นำโดย คุณฉัตรชัย ศักดิ์ศิลปะชัย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน และ รศ.ดร. อัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ที่ปรึกษาศึกษาความต้องการสินค้าเกษตร และจับคู่เจรจาธุรกิจ โครงการส่งเสริมศักยภาพด้านการตลาดสินค้าเกษตร ได้จัดกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจ (Business Matching) ระหว่างผู้นำเข้าผลไม้อินเดีย จำนวน 12 บริษัท กับผู้ประกอบการของไทยในจังหวัดตราด จันทบุรี และภาคใต้ ภาคเหนือ และภาคกลาง 12-13 บริษัท ที่โรงแรมบ้านปูรีสอร์ท อำเภอเมืองตราด จังหวัดตราด ในงานนี้ ทีมคณะวิจัย ของ ผศ.ดร. รณฤทธิ์ ฤทธิรณ คือ ดร. สุรีพร ณรงค์วงศ์วัฒนา และ คุณศุทธหทัย โภชนากรณ์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน ได้สาธิตการใช้ “เครื่องวิเคราะห์ ความอ่อน-แก่ของทุเรียน”…นวัตกรรมใหม่ในวงการธุรกิจตลาดทุเรียนที่น่าสนใจ
ผศ.ดร. รณฤทธิ์ ฤทธิรณ อาจารย์หัวหน้าห้องปฏิบัติการ Near Infrared (NIR) Technology ประจำภาควิชาวิศวกรรมการอาหาร คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน กล่าวถึงที่มาของการคิดประดิษฐ์ “เครื่องวิเคราะห์ ความอ่อน-แก่ของทุเรียน” ว่า ปัญหาทุเรียนอ่อนที่ทำลายตลาดการค้าทุเรียนของไทยในต่างประเทศ โดยเฉพาะการตัดทุเรียนที่เปอร์เซ็นต์ของเนื้อแป้งหรือค่าน้ำหนักเนื้อแห้ง (Dry Matter,DM) ไม่ได้ตามมาตรฐานสินค้าเกษตร มกษ.33-2556 ซึ่งได้กำหนดค่าคุณภาพทุเรียนแก่ที่เหมาะสมกับการเก็บเกี่ยว เช่น พันธุ์หมอนทอง ไม่ต่ำกว่า 32% ชะนี และพวงมณี 30% กระดุม 27% อย่างไรก็ตาม การจะทราบค่าน้ำหนักเนื้อแห้งของทุเรียน ต้องผ่าผลและนำเอาเนื้อทุเรียนมาอบแห้ง นานถึง 48 ชั่วโมง และยังเป็นการทำลายผล นำไปซื้อ-ขาย ต่อไม่ได้
ด้วยเหตุผลดังกล่าว ผศ.ดร. รณฤทธิ์ ฤทธิรณ และทีมนักวิจัยห้องปฏิบัติการ Near Infrared (NIR) Technology จึงได้คิดค้นและพัฒนา “เครื่องวิเคราะห์ ความอ่อน-แก่ของทุเรียน” โดยใช้หลักการทำงานของเทคโนโลยีอินฟราเรดย่านใกล้ (NIR Technology) ซึ่งจะวัดค่าการดูดกลืนของพลังงานแสงของทุเรียน โดยองค์ประกอบภายในของทุเรียน เช่น แป้ง น้ำตาล สามารถดูดกลืนแสงอินฟราเรดย่านใกล้ในตำแหน่งความยาวคลื่นจำเพาะและปริมาณที่ดูดกลืนจะสะท้อนถึงปริมาณองค์ประกอบที่มีอยู่ภายในตัวอย่าง ซึ่งหลักการทำงานทำให้สามารถตรวจสอบคุณภาพทุเรียนได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ใช้สารเคมี ไม่ทำลายตัวอย่าง และได้ผลการวิเคราะห์ที่ไม่ต่างจากค่าวิเคราะห์ด้วยวิธีอบอย่างมีนัยสำคัญ ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
ดร. สุรีพร ณรงค์วงศ์วัฒนา ทีมวิจัยกล่าวเพิ่มเติมขณะสาธิตวิธีการใช้เครื่องวิเคราะห์ความอ่อน-แก่ทุเรียนว่า ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ สามารถใช้งานได้ยาวนาน 8 ชั่วโมง พกพาได้สะดวก วิธีการใช้งานง่ายมาก เพียงนำหัววัดของเครื่องแนบที่ผิวของทุเรียนให้สนิท บริเวณร่องหนาม ในตำแหน่งที่ต้องการวัด จากนั้นกดปุ่มวัด แสงจากเครื่องจะผ่านเปลือกเข้าไปในผลทุเรียน เครื่องจะประมวลผลและแสดงค่าน้ำหนักเนื้อแห้งบนหน้าจออย่างรวดเร็วภายใน 3 วินาที แต่การใช้งานมีข้อควรระมัดระวังที่อาจจะทำให้ค่าเปลี่ยนแปลง เนื่องจากอาจจะมีปัญหาสภาพภูมิอากาศ ผลทุเรียนเปียกชื้น รูปทรงผลผิดปกติ ปลายหัววัดไม่สามารถแนบกับเปลือกได้
ทางด้าน คุณฉัตรชัย ศักดิ์ศิลปะชัย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า เครื่องมือนี้ทางกรมการค้าภายในได้สนับสนุนงบประมาณในการวิจัยเครื่องต้นแบบ ต่อไปจะสนับสนุนให้พัฒนาเครื่องมือ ให้สามารถตรวจสอบได้หลายสายพันธุ์ เพราะงานวิจัยยังทดลองกับสายพันธุ์หมอนทองเท่านั้น เนื่องจากมีปริมาณส่งออกต่างประเทศมาก ซึ่งจะส่งผลให้การซื้อขายทุเรียนในตลาดทั้งภายในและต่างประเทศ เป็นทุเรียนที่มีคุณภาพ เป็นการยกระดับมาตรฐานทุเรียน ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของทุเรียนไทย และพัฒนาเครื่องมือให้มีน้ำหนักเบาขึ้นจากเครื่องต้นแบบ น้ำหนัก 2 กิโลกรัม และประหยัดต้นทุนการประดิษฐ์จากงบประมาณในการวิจัย จำนวน 300,000 บาท อาจจะประมาณ 50,000-60,000 บาท ต่อจากนั้นจะนำไปจดทะเบียนเป็นทรัพย์สินทางปัญญาของกรมการค้าภายใน สำหรับภาคเอกชนที่สนใจพัฒนาเชิงธุรกิจพาณิชย์ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ ผศ.ดร. รณฤทธิ์ ฤทธิรณ e-mail [email protected]
เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของงานวิจัยนวัตกรรมที่สร้างสรรค์และนำมาใช้ประโยชน์ในเชิงเศรษฐกิจได้อย่างแท้จริง…
ระหว่าง วันที่ 24-27 พฤษภาคม 2561 นิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน จะจัดงานเกษตรมหัศจรรย์ขึ้น ที่สกายฮอลล์ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว ในงานมีพันธุ์ทุเรียนมาแสดง กว่า 100 พันธุ์ พร้อมทั้ง “เครื่องวิเคราะห์ ความอ่อน-แก่ของทุเรียน” ก็จะนำมาสาธิตในงานด้วย