“กล้วยหอมกะเหรี่ยง” รสชาติอร่อยสุดๆ ของฝากน่าซื้อ เมืองหัวหิน

หากใครมีโอกาสไปเที่ยวหัวหิน และแวะช็อปปิ้งที่ “ตลาดฉัตรไชย” ตลาดเก่าแก่ที่อยู่คู่หัวหินมานานกว่า 80 ปี ขอแนะนำให้ลองซื้อ “กล้วยหอมกะเหรี่ยง” ติดมือกลับบ้านด้วย เนื่องจากผลไม้ชนิดนี้มีลักษณะพิเศษกว่ากล้วยหอมทั่วไป กล้วยหอมกะเหรี่ยง มีรสชาติหวานหอมปนเปรี้ยวนิดๆ เนื้อสุกเหนียวหนึบอร่อยมาก รสชาติไม่หวานจัด เผลอกินมาก ก็ไม่ต้องห่วงว่าจะเกิดอาการจุกแน่นหน้าอกเหมือนกับกินกล้วยหอมทั่วไป ทำให้ กล้วยหอมกะเหรี่ยง ขายดีเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้บริโภคคนไทยและต่างชาติจำนวนมาก

เอกลักษณ์เด่นประจำสายพันธุ์อีกอย่างของกล้วยหอมกะเหรี่ยงก็คือ เมื่อผลสุกงอม เปลือกเปลี่ยนเป็นสีดำ เมื่อปอกเปลือกสีดำออกไป เนื้อกล้วยที่อยู่ภายในยังคงเหนียวหนึบรับประทานได้ มีรสชาติอร่อยเช่นเดียวกับผลสุกใหม่ๆ ทุกอย่าง

ขณะที่กล้วยหอมทั่วไป เมื่อเปลือกเปลี่ยนเป็นสีดำ เนื้อในมักจะเน่าเสีย จนกินไม่ได้เลย กล้วยหอมกะเหรี่ยงมีวิตามินซี แคลเซียม ในปริมาณสูง ช่วยรักษากระดูก ฟัน และเหงือก ให้แข็งแรงแล้ว ที่สำคัญมีวิตามิน A มากที่สุด ถือว่า กล้วยชนิดนี้มีวิตามิน A มากกว่ากล้วยไข่เสียอีก ทำให้ช่วยบำรุงสายตาและผิวพรรณได้อย่างดีเยี่ยม

ความจริง กล้วยหอมกะเหรี่ยง ไม่ได้ปลูกเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น ประเทศฟิลิปปินส์ ก็ปลูกกล้วยหอมกะเหรี่ยงเช่นกัน ชาวฟิลิปปินส์เรียกผลไม้ชนิดนี้ ในภาษาท้องถิ่นว่า “Lakatan” ชาวฟิลิปปินส์ปลูกกล้วยหอมกะเหรี่ยงเพื่อบริโภคภายในประเทศ และส่งออกไปขายในตลาดโลก

กล้วยหอมกะเหรี่ยง อยู่ในวงศ์ MUSACEAE เป็นสายพันธุ์กล้วยที่ได้กลายพันธุ์จากกล้วยป่า มีชื่อเรียกแตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่น เช่น กล้วยหอมพิจิตร กล้วยหอมน้ำผึ้ง กล้วยหอมแม้ว และกล้วยหอมเชียงราย

ในอดีตกล้วยหอมกะเหรี่ยงนิยมปลูกเฉพาะหมู่บ้านชาวกะเหรี่ยงตามตะเข็บชายแดน ไทย-พม่า ในแถบ จ.กาญจนบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ต่อมาโครงการหลวงได้แนะนำให้ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอหัวหินปลูกกล้วยชาวกะเหรี่ยง เพื่อบริโภคภายในครอบครัว ปัจจุบัน กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรตำบลหินเหล็กไฟ ได้รวมตัวกันจัดตั้งกลุ่มแปรรูปกล้วยหอมกะเหรี่ยง ในลักษณะกล้วยหอมกะเหรี่ยงทอดกรอบ ถือเป็นของฝากรสอร่อยที่น่าลิ้มลองอีกชนิดของอำเภอหัวหิน

“ คุณโอม – สุภิณยา สันตะกิจ” นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ สำนักงานเกษตรอำเภอหัวหิน เล่าว่า กล้วยหอมกะเหรี่ยงมีลักษณะลำต้นแข็งแรง เมื่อตกเครือ ไม่จำเป็นต้องใช้ไม้ค้ำเหมือนกับกล้วยหอมทอง ทนทานต่อสภาพแห้งแล้งได้ดี ลำต้นสูง 2.5-3 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางมากกว่า 15 เซนติเมตร ก้านใบเปิดกว้าง มีปีก กาบลำต้นด้านนอกมีปื้นหนาสีดำ ด้านในมีสีชมพู ก้านช่อดอกมีขน ใบประดับรูปไข่สีม่วงเข้ม ปลายแหลมและม้วนขึ้น ดอกตัวผู้สีงาช้าง จะหลุดร่วงหลังจากใบประดับหลุดแล้ว

ส่วนดอกตัวเมีย มีสีเหลือง ก้านตรง ดอกตัวผู้และดอกตัวเมียมีความยาวใกล้เคียงกัน กลีบรวมใหญ่สีเหลืองอ่อน ปลายสีเหลือง กลีบรวมเดี่ยวสีขาวใส มีรอยหยักที่ปลายในหนึ่ง เครือจะมี 8-12 หวี หวีละ 14-18 ผล มีขนาดใกล้เคียงกับกล้วยหอมทองแต่สั้นกว่าและปลายผลทู่ เมื่อสุกผลมีสีเหลืองทอง เนื้อสีส้มอ่อน ไม่มีเมล็ด มีรสชาติหวานหอมปนเปรี้ยว เปลือกหนา ทนทานต่อการขนส่ง สามารถเก็บได้นาน ไม่เน่าเสียง่าย

เกษตรกรนิยมปลูกขยายพันธุ์ด้วยหน่อ หลังแยกหน่อมาจากต้นแม่ต้น จะขุดหลุมปลูก ขนาด 50 x 50 ซม. ความลึก ประมาณ 50 ซม. รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอก หลังจากนำหน่อปลูกลงไปจะใช้ดินกลบรอบโคนต้น และรดน้ำให้ชุ่ม กล้วยหอมกะเหรี่ยง เป็นพืชที่ชอบน้ำ หลังปลูกประมาณ 1 เดือน หน่อกล้วยจะแทงยอดขึ้นมา ใช้มีดเฉือนให้ได้ระยะจากพื้นดิน ประมาณ 50 ซม. เพื่อจะง่ายในการดูแล หลังจากนั้นดูแลให้ปุ๋ยและน้ำตามปกติ หลังปลูกใช้เวลาเพียง 8 เดือน ต้นกล้วยหอมกะเหรี่ยงก็จะตกเครือ

“ด้วงงวงสีดำ” นับเป็นศัตรูพืชที่สำคัญของกล้วยหอมกะเหรี่ยง โดยเจาะบริเวณโคนใบแล้วไข่ลงไป ตัวอ่อนจะชอนไชเข้าไปตามก้านใบ จนถึงเนื้อเยื่อของกล้วยหอมเพื่อดูดกินน้ำเลี้ยง ทำให้ลำต้นมีน้ำยางไหลออกมา อาหารที่จะไปเลี้ยงกล้วยหอมไม่พอ ทำให้ต้นกล้วยให้ผลผลิตไม่สมบูรณ์ จึงต้องหมั่นตรวจบริเวณโคนต้น หรือลำต้นอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการรบกวนของโรคแมลงศัตรู

นอกจากนี้ ยังมีแมลงศัตรูพืช ที่ชาวบ้านเรียกว่า “ตัวไถเปลือก” เข้าทำลายเปลือกกล้วยให้เป็นลายทาง ทำให้จำหน่ายผลสดไม่ได้ราคา จึงจำเป็นต้องฉีดยาฆ่าแมลง ในช่วงกล้วยเริ่มตั้งท้อง เพื่อป้องกันล่วงหน้า เพราะถ้าฉีดตอนกล้วยออกเครือแล้ว จะทำให้ผลมีสีเหลือง หรือเกิดอาการไหม้ได้

กล้วยหอมกะเหรี่ยง มีลักษณะ “กล้วยหวงหน่อ” เพราะแตกหน่อน้อยกว่ากล้วยชนิดอื่นๆ จุดอ่อนนี้ สามารถแก้ปัญหาได้โดยใช้วิธีการพูนโคนกล้วยอยู่เสมอ ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาโคนลอย และคอยใส่ปุ๋ยคอกบำรุงตลอดเวลา เพื่อช่วยเพิ่มปริมาณธาตุอาหารแก่ต้นแม่ ให้เจริญเติบโตไวและแตกหน่อได้ดี

เมื่อต้องการแยกหน่อไปปลูกในแหล่งใหม่ ควรขุดแยกหน่อที่มีสภาพสมบูรณ์ และไม่ติดกับต้นแม่จนเกินไป เพื่อไม่ให้การขุดหน่อกระทบต่อต้นแม่ หลังจากนั้นให้ตัดยอดออก เพื่อลดการคายน้ำ หากใครสนใจมีข้อสงสัยเกี่ยวกับ กล้วยหอมกะเหรี่ยง สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานเกษตรอำเภอหัวหิน โทร. 032-512-458 ได้ ในวันและเวลาราชการ