กศน. ยะลา น้อมนำ “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” พัฒนาต่อยอดอาชีพเกษตร สร้างรายได้ยั่งยืนสู่ชุมชน

สืบเนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายเร่งขับเคลื่อนการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในภาคการเกษตร โดยน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาปฏิบัติเพื่อให้ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น

คุณขนิษฐา มะลิสุวรรณ ผู้อำนวยการ สำนักงาน กศน. จังหวัดยะลา จึงได้จัดโครงการพัฒนาศักยภาพและต่อยอดหลักปรัชญา “เศรษฐกิจพอเพียง” นำวิถียั่งยืนสู่ชุมชน ระหว่าง วันที่ 27-28 มิถุนายน 2561 ให้กับกลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็นตัวแทนปราชญ์ในพื้นที่ กศน. ตำบล ตำบลละ 1 คน รวม 58 คน โดย พันเอกหญิง สุนทรี ไตรภูมิ เป็นวิทยากร ให้ความรู้เรื่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และมีผู้แทน กอ.รมน. จังหวัดยะลา ผู้บริหาร กศน. อำเภอ ครู กศน. ตำบล เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้

คุณขนิษฐา มะลิสุวรรณ ผู้อำนวยการ สำนักงาน กศน. จังหวัดยะลา

วัตถุประสงค์หลักของการจัดกิจกรรมในครั้งนี้เพื่อขยายผลการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยสนับสนุนให้ผู้นำศูนย์เรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และครู กศน. ที่เข้าร่วมโครงการ ได้เข้าเยี่ยมชมศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง อำเภอธารโต และสวนดาวทอง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจในการดำเนินกิจกรรมการเกษตรตามแนวทฤษฎีใหม่ โดยยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันและการประกอบอาชีพได้

พลเอก วิษณุ ไตรภูมิ ที่ปรึกษาสำนักงาน กศน. ในฐานะประธานโครงการอบรมครั้งนี้ กล่าวว่า “เศรษฐกิจพอเพียง” คือ ปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงชี้แนวทางการดำเนินชีวิตให้แก่ปวงชนชาวไทยมาเป็นระยะเวลานาน ตั้งแต่ก่อนเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ เพื่อมุ่งให้พสกนิกรได้ดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างยั่งยืน มั่นคง และปลอดภัย ภายใต้ความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามกระแสโลกาภิวัตน์

พลเอก วิษณุ ไตรภูมิ บรรยายเรื่อง “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง”

ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนั้น เป็นแนวทางการดำรงชีวิตและการปฏิบัติตนของประชาชนทุกระดับ โดยยึดแนวทางการพัฒนาที่มีคนหรือประชาชนเป็นศูนย์กลาง ซึ่งสิ่งเหล่านี้เองจะเป็นตัวการที่นำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน การพัฒนาตามหลักแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง คือการพัฒนาที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของทางสายกลางและความไม่ประมาท โดยคำนึงถึงความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว ตลอดจนใช้ความรู้ความรอบคอบและคุณธรรมประกอบการวางแผน การตัดสินใจและการกระทำ

คาดหวังว่า กิจกรรมครั้งนี้ จะทำให้ผู้ร่วมกิจกรรมได้นำความรู้ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน มีความตระหนักถึงการใช้จ่ายอย่างพอประมาณ มีเหตุผลในการใช้จ่าย มีภูมิคุ้มกัน เป็นบุคคลที่มีคุณธรรม จริยธรรม มีความสามัคคีในครอบครัว ชุมชน สามารถสร้างเป็นอาชีพได้ มีรายได้ ลดรายจ่าย มีความเป็นอยู่ดีขึ้น และอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข

ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง อำเภอธารโต

สำนักงาน กศน. จังหวัดยะลา พาผู้เข้าร่วมโครงการไปเยี่ยมชม ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) อำเภอธารโต จังหวัดยะลา ซึ่ง คุณจรัส ชุมนุมมณี รับหน้าที่เป็นประธาน ศพก. อำเภอธารโต และบุตรชาย คือ คุณโอ๊ค “ธำรงศักดิ์ ชุมนุมมณี” Young Smart Farmer ทำหน้าที่เป็นวิทยากรหลัก ของ ศพก. อำเภอธารโต

ตัวแทนเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการต่อยอดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

ศพก.อำเภอธารโต โดดเด่นในเรื่องการถ่ายทอดการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต “ทุเรียน” ที่นี่กำหนดฐานการเรียนรู้ จำนวน 10 ฐาน ได้แก่ 1. ฐานการเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง 2. ฐานการเรียนรู้การใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า 3. ฐานการเรียนรู้การลดต้นทุนการผลิตทุเรียน 4. ฐานการเรียนรู้โรคและแมลงศัตรูทุเรียน 5. ฐานการเรียนรู้การพัฒนาคุณภาพผลผลิตทุเรียน 6. ฐานการเรียนรู้การแปรรูปผลผลิตทุเรียน 7. ฐานการเรียนรู้บัญชี 8. ฐานการเรียนรู้สหกรณ์ 9. ฐานการเรียนรู้ประมง (เสริมรายได้) 10. ฐานการเรียนรู้ปศุสัตว์ (เสริมรายได้)

ที่ผ่านมา สำนักงานเกษตรจังหวัดยะลานิยมมาจัดกิจกรรมการถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ (Field day) ประจำปี 2561 ในแต่ละฐานการเรียนรู้ ณ ศพก. อำเภอธารโตแห่งนี้ และในอนาคตจะพัฒนาศูนย์แห่งนี้ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรของอำเภอธารโต

คุณขนิษฐา มะลิสุวรรณ พาเกษตรกรเยี่ยมชมงาน ศพก. อำเภอธารโต

ปัจจุบัน ศูนย์แห่งนี้ มีรายได้จากการปลูกพืชหลักคือ ทุเรียน ยางพารา และรายได้หมุนเวียนจากการปลูกพืชเกษตรผสมผสาน เช่น คะน้า กวางตุ้ง แตงโม ฟักทอง ถั่วฝักยาว แตงกวาญี่ปุ่น ฯลฯ ร่วมกับการเลี้ยงสัตว์นานาชนิด เช่น เป็ดไข่ ไก่ไข่ ไก่เนื้อ นกกระทา นกยูง ไก่ฟ้า แพะนม

ทุเรียนยะลา อร่อยสุดๆ

ทุเรียนพันธุ์พวงมณีและทุเรียนหมอนทอง นับเป็นผลไม้ที่เป็นพระเอกหลักของจังหวัดยะลา ทุเรียนยะลาเป็นสินค้าขายดี เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศ เนื่องจากทุเรียนพวงมณีและหมอนทองของยะลาอร่อยที่สุดในประเทศไทย เพราะเป็นทุเรียนที่มีการปลูกบนที่ราบสูง ภูเขา ที่จะมีรสชาติที่อร่อย หอมหวาน เนื้อแห้ง ละเอียด ขายได้ราคาดี

ทุเรียนพวงมณี รสชาติอร่อย

ดังนั้น คุณอนุชิต ตระกูลมุทุตา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา จึงได้อนุมัติงบประมาณ 150,000 บาท เพื่อส่งเสริมให้เกิดการขยายพื้นที่ปลูกทุเรียนให้มากขึ้น ประมาณ 1,200 ไร่  แหล่งปลูกทุเรียนส่วนใหญ่ของจังหวัดยะลาอยู่ในพื้นที่อำเภอเบตงและอำเภอธารโต กว่า 50,000 ไร่

ทุกวันนี้ เกษตรกรเจ้าของสวนทุเรียน หันมานิยมปลูกทุเรียนพันธุ์พวงมณี ซึ่งเป็นสายพันธุ์ดั้งเดิมของไทยแล้ว ยังสนใจปลูกทุเรียนพันธุ์มูซานคิงของมาเลเซียกันมากขึ้นด้วย เพราะทุเรียนพันธุ์มูซานคิง กำลังได้รับความนิยมสูงในตลาดต่างประเทศ เช่น มาเลเซีย และสิงคโปร์ ทำให้มีการสั่งซื้อต้นพันธุ์ทุเรียนมูซานคิง 1,000 ต้น ลงปลูกในท้องถิ่น เพื่อเพิ่มปริมาณส่งออกทุเรียนไทยในเวทีตลาดโลก เช่น มาเลเซีย จีน และสิงคโปร์

ผู้ที่สนใจสามารถศึกษาดูงาน ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) อำเภอธารโต จังหวัดยะลาได้ตลอด โดยติดต่อขอเยี่ยมชมงานกับ คุณโอ๊ค หรือ คุณธำรงศักดิ์ ชุมนุมมณี เลขที่ 36/1 หมู่ที่ 5 ตำบลธารโต อำเภอธารโต จังหวัดยะลา 95150 โทร. (084) 967-0481 หรือทางเฟซบุ๊ก “Oak Thamrongsak Chumnummani” ได้ทุกวัน

ทุเรียนหมอนทอง สินค้าขายดี