เผยแพร่ |
---|
ถ้าพูดถึงอวัยวะข้างในร่างกาย ตับถือว่าเป็นเครื่องในที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและมีความสำคัญมาก แต่หลายคนก็ยังคงมองข้ามเครื่องในอย่างตับไป และไม่เคยรู้ว่าตับสำคัญอย่างไร ตับมีหน้าที่อะไรในร่างกายเรา จนกระทั่งเมื่อมีปัญหาสุขภาพอันเกี่ยวเนื่องมาจากตับ จึงเริ่มใส่ใจตับกันมากขึ้น
ก่อนที่จะไปถึงจุดนั้น ควรรู้หน้าที่ของตับ ว่าตับทำหน้าที่อะไร แล้วเราควรดูแลตับยังไงให้โรคภัยไม่ถามหา
หลายๆ คน คงเคยได้ยินมาบ้างแล้วว่า เมื่อตับดี สุขภาพก็ดีตามไปด้วย ทางที่ดีเราควรฟื้นฟูตับแบบค่อยเป็นค่อยไป และวิธีที่ใช้ก็คือ การรับประทานอาหารนี่เอง จะอย่างไร มาดูผัก ผลไม้ ที่ช่วยฟื้นฟูตับกันเถอะ
- ลิ้นจี่ (ผลไม้บำรุงตับ) รู้หรือไม่ว่า ลิ้นจี่ อุดมไปด้วยโปรตีน ไขมัน กลูโคส ซูโครส วิตามิน เอ, บี, และกรดซิตริก โดยตามศาสตร์การแพทย์แผนจีน ลิ้นจี่ถือเป็นผลไม้ที่มีฤทธิ์อุ่น ช่วยบำรุงตับและบรรเทาอาการตับอักเสบ ได้คำแนะนำคือ ผู้ที่มีอาการคอแห้ง เจ็บคอ ปวดฟัน หรือท้องผูก ไม่ควรรับประทานลิ้นจี่ในปริมาณที่มาก เพราะลิ้นจี่มีฤทธิ์อุ่น ซึ่งอาจส่งผลให้อาหารเหล่านี้ทวีคูณ
- แครอต (ผลไม้บำรุงตับ) รู้หรือไม่ว่า แครอตไม่ได้ช่วยแค่เรื่องผิวพรรณหรือดวงตาเท่านั้นนะ แต่ยังช่วยในเรื่องของตับด้วย เพราะแครอตอุดมไปด้วยวิตามินหลากชนิด ไม่ว่าจะเป็น วิตามินเอ, บี 1, บี 2, ซี, ดี และวิตามินเค รวมทั้งยังมีกรดโฟลิก ฟอสฟอรัส โซเดียม โพแทสเซียม ธาตุเหล็ก สังกะสี และทองแดง ในด้านการแพทย์แผนจีนนับว่าแครอตเป็นผักที่มีฤทธิ์อุ่น จึงช่วยบำรุงตับ บำรุงเลือดได้ดี และช่วยแก้อาการอาหารไม่ย่อยได้อีกด้วย
- เกรปฟรุต (ผลไม้บำรุงตับ) ผลไม้ชนิดนี้อุดมไปทั้งวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็น 2 ตัวช่วยที่สำคัญในการล้างพิษตับ และช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งตับ โดยเราสามารถรับประทานแบบสดๆ หรือจะนำไปคั้นน้ำดื่มก็ได้
- อะโวกาโด (ผลไม้บำรุงตับ) นอกจากกรดไขมัน โอเมก้า 3 และ 6 ที่อุดมอยู่ในอะโวกาโดแล้ว กลูต้าไธโอนยังเป็นจุดเด่นของอะโวกาโดอีกด้วย สิ่งนี้คือ สิ่งที่ช่วยดูแลตับได้เป็นอย่างดี เจ้าอะโวกาโดช่วยล้างพิษที่สะสมในตับและช่วยลดโอกาสเกิดโลหะหนักสะสมในตับได้อีกด้วย
- วอลนัท (ผลไม้บำรุงตับ) สิ่งที่ตับต้องการจากวอลนัทก็คือ กรดไขมันโอเมก้า 3 และกลูต้าไธโอน ตัวช่วยสำคัญในกระบวนการขับสารพิษออกจากตับ ช่วยบำรุงการทำงานของตับให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
- กะหล่ำปลี (ผักช่วยบำรุงตับ) สำหรับคนที่ต้องรับประทานยารักษาโรคเป็นประจำ แถมยังต้องเผชิญมลภาวะตามท้องถนนที่แออัดเร่งรีบ จนอาจทำให้เสี่ยงต่อโรคตับพิการ รู้หรือไม่ว่า กะหล่ำปลี ช่วยเพิ่มสารกลูต้าไธโอนที่มีคุณสมบัติช่วยล้างควันพิษและสารเคมีจากยาที่สะสมในตับได้ด้วย
- ผักใบเขียว (ผักช่วยบำรุงตับ) ไม่ว่าจะเป็น ผักโขม ผักกาดหอม รวมถึงผักใบเขียวชนิดอื่นๆ มีคุณสมบัติป้องกันการเกิดโลหะหนักในตับและชะล้างสารเคมีที่สะสมในตับ โดยเฉพาะสารเคมีประเภทยาฆ่าแมลงที่ร่างกายมักจะได้รับจากการบริโภคอาหารที่ไม่สะอาด คำแนะนำ คือควรบริโภคผักปลอดสารหรือผักริมรั้วที่ปลูกได้เอง
- ชาเขียว (ผักช่วยบำรุงตับ) ชาเขียว ถือว่ามีสารต้านอนุมูลอิสระอย่างดีเยี่ยม และแน่นอนว่ามันย่อมช่วยในเรื่องของการบำรุงตับด้วย แถมยังมีสรรพคุณช่วยป้องกันมะเร็งตับได้เป็นอย่างดี
- ผักประเภทหัว (ผักช่วยบำรุงตับ) นอกจากกะหล่ำปลียังมีบร็อกโคลี่ มันเทศ ที่มีกลูโคโซโนเลต สารอาหารที่หาได้จากพืชผัก แต่มีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการผลิตเอนไซม์ในตับอ่อนเพื่อช่วยต่อต้านสารพิษ และยังมีเอนไซม์ที่ช่วยย่อย รู้ไหมว่าการย่อยเกี่ยวกับอะไร เมื่อระบบย่อยทำงานได้เป็นปกติก็ถือว่าตับได้ล้างสารพิษออกจากตัวเองด้วยเช่นกัน
- ขมิ้นชัน (สมุนไพรช่วยบำรุงตับ) ถ้าต้องการขับพิษออกจากตับ ขมิ้นชันคือ คำตอบที่ตรงใจที่สุด นอกจากช่วยขับพิษสะสมในตับแล้ว สรรพคุณของขมิ้นชันยังช่วยบำรุงฟื้นฟูและล้างสารพิษออกจากตับได้ เราสามารถเลือกรับประทานขมิ้นชันแบบแคปซูลก่อนนอน เพื่อบำรุงตับ และควรกินวันละ 5,000-8,000 มิลลิกรัม ต่อวัน
- เก๋ากี้ (สมุนไพรช่วยบำรุงตับ) ขึ้นชื่อว่าเป็นสุดยอดของแหล่งสารอาหาร ประโยชน์ของเก๋ากี้ไม่สามารถบรรยายตรงนี้ได้ครบ เอาเป็นว่าช่วยป้องกันไขมันพอกตับ ช่วยให้ตับทำงานได้ดีขึ้น สามารถรับประทานได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นต้มชาดื่ม ปรุงเป็นโจ๊ก หรือนำไปเป็นส่วนผสมของแกง ต้มจืด เครื่องตุ๋นยาจีน เป็นต้น
- กระเทียม (สมุนไพรช่วยบำรุงตับ) เนื่องจากกระเทียมมีสรรพคุณช่วยกระตุ้นให้ตับผลิตเอนไซม์ตัวที่ช่วยขับสารพิษออกไป อีกทั้งกระเทียมยังมีสารอัลลิซินและซีลีเนียม สององค์ประกอบนี้เป็นส่วนสำคัญจากธรรมชาติที่ช่วยดีท็อกซ์พิษตับออกไปอย่างเป็นธรรมชาติ
- มะขามป้อม (สมุนไพรช่วยบำรุงตับ) รู้หรือไม่ว่า มะขามป้อม มีวิตามินซีมากกว่าแอปเปิ้ลถึง 160 เท่า ซึ่งวิตามินซีในมะขามป้อมจะช่วยรักษาอาการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ป้องกันการเกิดพิษโลหะหนักในตับ และลดความเสี่ยงโรคมะเร็งตับได้
ขอบคุณที่มา : http://sukkaphap-d.com