คลิกออฟ 4 ตลาดแม็กเนต ‘ทุเรียน’ ดึงนักท่องเที่ยวหนุน ศก.ท้องถิ่นบูม

ผลสวยๆ ของหลงลับแล

พาณิชย์คลิกออฟตลาดแม็กเนตทุเรียน 4 จังหวัดเป้าหมาย พ.ค.นี้ หวังดึงดูดนักท่องเที่ยวจีน 10 ล้านคน รมช.สนธิรัตน์ เซอร์เวย์ตลาดแม็กเนตชายหาดกมลา จังหวัดภูเก็ต หนุนยื่นจดคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (จีไอ) ทุเรียนกมลา

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงเตรียมเปิดตลาดดึงดูด (Magnet Market) ซึ่งเป็นตลาดสินค้าเฉพาะ โดยเริ่มเปิดนำร่องในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต เชียงใหม่ จันทบุรี และชลบุรี (พัทยา) ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะจากจีนเดินทางเข้ามาไม่ต่ำกว่าปีละ 10 ล้านคน โดยจะเริ่มดำเนินการโครงการอย่างเป็นทางการนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2560

“จากการลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเมื่อเร็วๆ นี้ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่รายงานว่าสินค้าทุเรียนขายดีมากกับนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งทั้ง 4 จังหวัดนี้เป็นจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวจีนเข้ามาเป็นจำนวนมาก หากสนับสนุนนักท่องเที่ยวให้ซื้อทุเรียนกลับเป็นของฝากทั้งในรูปแบบสดและแปรรูป จะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรและผู้ประกอบการอีกด้วย”

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์จะเชื่อมโยงผลไม้ชนิดอื่นๆ อาทิ ลองกอง ลำไย ซึ่งเป็นผลไม้ตามฤดูกาลมาจำหน่ายในตลาดดังกล่าวด้วย เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการทำตลาดผลไม้ช่วยเพิ่มรายได้เกษตรกร

โดยขณะนี้กระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างการพิจารณาสถานที่ให้มีความเหมาะสมมากที่สุดในจังหวัดที่มีการคัดเลือกเพื่อจัดตั้งตลาดแม็กเนต โดยพื้นที่นี้ควรเป็นแบบถาวร เพื่อให้เป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยวและเป็นพื้นที่เพื่อให้คนในชุมชนรวมไปถึงผู้ประกอบการได้เข้ามาค้าขาย นำสินค้าที่มีมาจำหน่าย เพื่อเป็นการสร้างรายได้ก่อให้เกิดเงินหมุนเวียนในพื้นที่ แต่หลักๆ ยังเป็นตลาดที่จำหน่ายสินค้าเฉพาะอย่างคือ ทุเรียน ส่วนรายละเอียดสินค้าอื่นๆ ที่จะจำหน่ายอยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบอยู่

“เบื้องต้นได้ข้อสรุปว่าจะใช้พื้นที่ชายหาดกมลา จังหวัดภูเก็ต เป็นตลาดแม็กเนต ซึ่งเป็นพื้นที่ตั้งอนุสรณ์สึนานิ จึงมีพื้นที่ที่มีความพร้อมที่จะจัดกิจกรรมได้ โดยไม่ต้องปรับปรุงและลงทุนเพิ่มเติมมากนัก เนื่องจากสถานที่มีความพร้อมพอสมควร ซึ่งจะเน้นสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานในพื้นที่และผู้ประกอบการ ส่วนอีก 3 จังหวัดอยู่ระหว่างการพิจารณา”

ทั้งนี้ ตลาดแม็กเนต จังหวัดภูเก็ต จะเน้นจำหน่ายทุเรียนกมลา เพราะเป็นสายพันธุ์ที่ปลูกเฉพาะในจังหวัดภูเก็ต มีรสชาติดี การเก็บจะปล่อยให้ลูกหล่นเองจากต้น ผลผลิตเพียง 4-5 ตัน ต่อปี ผลผลิตออกมากในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายนของทุกปีเท่านั้น ราคาจำหน่าย ปัจจุบันเฉลี่ยลูกขนาด 2 กิโลกรัม ราคาประมาณ 60 บาท

“หลังจากนี้มอบให้กรมทรัพย์สินทางปัญญาดูแลเรื่องการรับจดทะเบียน GI ซึ่งจะมีการตรวจสอบว่าสามารถขึ้นทะเบียนได้หรือไม่ ถ้าสำเร็จจะช่วยสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรเพิ่มขึ้น จากก่อนหน้านี้ในจังหวัดภูเก็ตมีสินค้า GI แล้ว 2 รายการ คือ ไข่มุก และสับปะรดภูเก็ต”

 

 

ขอบคุณข้อมูลจากประชาชาติธุรกิจ