อสป. ปักหมุดด่านชายแดนเมียนมา ลุยขยายตลาดกลาง ซื้อ-ขาย แลกเปลี่ยนสินค้าสัตว์น้ำกระหึ่ม!

องค์การสะพานปลา เร่งกระจายและขยายตลาดสินค้าสัตว์น้ำเต็มกำลัง เล็ง 3 ด่าน สิงขร พุน้ำร้อน แม่สอด ติดชายแดนเมียนมา เป็นตลาดกลาง ซื้อ-ขาย แลกเปลี่ยน และกระจายสินค้าสัตว์น้ำ ตามนโยบาย รมช. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หวังสร้างรายได้ให้เกษตรกร

ดร. มณเฑียร อินทร์น้อย ผู้อำนวยการองค์การสะพานปลา (อสป.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ อสป. มีแผนที่จะพัฒนาและขยายตลาดสินค้าสัตว์น้ำของไทยให้ทัดเทียมกับประเทศที่พัฒนาแล้ว เพื่อยกระดับตลาดสินค้าสัตว์น้ำจากชาวประมง เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ให้มีมาตรฐานสากล ทั้งคุณภาพและราคา ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ทั้งในประเทศไทยและกลุ่มประเทศอาเซียน

โดยในระยะแรกมีเป้าหมายขยายตลาดไปที่ ด่านสิงขร จ.ประจวบคีรีขันธ์, ด่านพุน้ำร้อน จ.กาญจนบุรี และด่านพรมแดนแม่สอด จ.ตาก ซึ่งทั้ง 3 ด่าน เป็นด่านชายแดน ติดกับประเทศเมียนมา เป็นด่านที่มีการนำเข้าสินค้าสัตว์น้ำเป็นจำนวนมาก จากเมืองมะริด และเมืองทวาย ประเทศเมียนมา ถือว่ามีศักยภาพมาก ที่ อสป. จะผลักดันให้ทั้ง 3 ด่าน เป็นตลาดกลาง ซื้อ-ขาย แลกเปลี่ยน และกระจายสินค้าสัตว์น้ำ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจชายแดน และช่วยให้เกษตรกรโดยรอบมีรายได้เพิ่มขึ้น ตามนโยบายนายประภัตร โพธสุธน รมช. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

“ที่เล็งปักหมุด 3 ด่าน ก่อน โดย ด่านสิงขร อสป. ได้เริ่มเขียนแผนและโครงการแล้วอยู่ระหว่างการขอใช้พื้นที่กับจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในเร็วๆ นี้ ขณะที่ ด่านพุน้ำร้อน และด่านพรมแดนแม่สอด กำลังอยู่ระหว่างการศึกษาพื้นที่ เพราะ อสป.เห็นถึงศักยภาพของเมียนมา ทั้งในเรื่องของทรัพยากรทางธรรมชาติที่สมบูรณ์ โดยเฉพาะทรัพยากรทางทะเล และกำลังซื้อของชาวเมียนมา ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามระดับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่เปิดกว้างมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการนำเข้า-ส่งออกสินค้าหลากหลาย รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภคด้วย”