แบงก์ชาติผุดคลินิกแก้หนี้ ‘รูดปื๊ด’ ช่วยปรับโครงสร้าง-เผยดินพอกหางหมูแสนล้าน

ธปท. ผุดคลินิกแก้หนี้ ดึงสมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ บริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท และ 16 ธนาคารพาณิชย์ ร่วมมือหวังสางปัญหาหนี้ครัวเรือน โดยเฉพาะกลุ่มบัตรเครดิต-สินเชื่อบุคคล ช่วยเหลือปรับโครงสร้างหนี้ แต่มีเงื่อนไขห้ามก่อหนี้เพิ่มภายใน 5 ปี

นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงโครงการแก้ไขปัญหาหนี้ส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน (คลินิกแก้หนี้) ว่า ธปท. สมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ และบริษัทบริหารสินทรัพย์สุขุมวิท (SAM) วางโครงสร้างพื้นฐานการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างเป็นระบบ เน้นไปที่การปรับปรุงโครงสร้างหนี้สำหรับลูกหนี้ที่มีเจ้าหนี้หลายราย

ธนาคารพาณิชย์ 16 แห่ง และ SAM จึงร่วมกันจัดตั้งโครงการคลินิกแก้หนี้ขึ้น เพื่อช่วยลูกหนี้ที่สุจริตและมีความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหา โดย SAM จะทำหน้าที่เป็นหน่วยงานกลาง ทำหน้าที่แทนเจ้าหนี้ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้อยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ตามศักยภาพที่แท้จริง

“โครงการดังกล่าวจะเริ่มดำเนินการในวันที่ 1 มิถุนายน นี้ ครอบคลุมเฉพาะสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันของธนาคารไทยและสาขาของธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศที่มีเจ้าหนี้หลายราย และมีสถานะเป็นหนี้เสีย (ค้างชำระมากกว่า 90 วัน) ก่อนวันที่ 1 พฤษภาคม 2560” นายวิรไท กล่าว

ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวอีกว่า ประชาชนที่ต้องการเข้าร่วมโครงการต้องเป็นบุคคลธรรมดา มีเงินเดือนประจำ อายุไม่เกิน 65 ปี มีหนี้บัตรเครดิต หนี้กดเงินสด หรือสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันค้างเกินกว่า 3 เดือน กับธนาคารตั้งแต่ 2 แห่งขึ้นไป ไม่ถูกฟ้องร้องดำเนินคดี และมียอดหนี้เงินต้นค้างชำระรวมไม่เกิน 2 ล้านบาท โดยจากข้อมูลของบริษัทข้อมูลเครดิตลูกหนี้ในกลุ่มนี้หลายแสนราย ยอดเงินรวมกันมากกว่า 1 แสนล้านบาท

สำหรับเงื่อนไขโครงการนั้น ประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการจะต้องเต็มใจไม่ก่อหนี้เพิ่มในระยะเวลา 5 ปี และพร้อมเรียนรู้การสร้างวินัยทางการเงินที่ดี โดยจะมีการติดตามประเมินผล โครงการนี้เป็นระยะเพื่อปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

“จากข้อมูลล่าสุดหนี้ภาคครัวเรือน ณ สิ้นปี 2559 อยู่ที่ 79.9% ของจีดีพี ประเด็นที่น่ากังวลคือคนไทยเป็นหนี้เร็ว และเป็นหนี้นาน โดยเฉพาะคนอายุ 29-30 ปี คิดเป็น 50% หรือ 1 ใน 5 ของลูกหนี้ที่เป็นหนี้เสีย และระดับหนี้ไม่ลดลงมากแม้จะเข้าสู่วัยใกล้เกษียณ รวมทั้งมีหนี้มูลค่ามากขึ้น โดยค่ากลางของหนี้ต่อหัว ณ สิ้นปี 2559 เฉลี่ยอยู่ที่ 1.5 แสนบาท” นายวิรไท กล่าว

 

ขอบคุณข้อมูลจากข่าวสด

ภาพจาก : http://thaipublica.org/2017/05/bot-debt-clinic/