อะไรเอ่ย ยิ่งกินยิ่งโดนด่า

คำตอบง่ายๆ สั้นๆ แต่ดังสะท้านรูหูคือ หูฉลาม ไงคุณ

ไม่ใช่แค่ด่าว่าคนจนจะท่วมโลกอยู่แล้ว ยังมาสรรหากินของแพง แต่เพราะมันมาจากการทารุณสัตว์หนักหนา

หูฉลามที่เรียกกัน มันคือครีบข้างตัวปลาฉลาม และจริงไปมากกว่านั้นมันคือกระดูกอ่อนที่งอกออกมาข้างลำตัว

ด้วยความที่มันเป็นกระดูกอ่อนนี่เอง มันจึงกรุบกรอบ ยั่วกิเลสพวกมีเงินแต่อ่อนปัญญา ซ้ำด้วยความเชื่อว่ามันบำรุงร่างกายยิ่งนักเข้าไปอีก

คนเถียงว่าทีฆ่าวัวฆ่าไก่ตายไม่เห็นโดนด่า มาด่าทำไมกับฉันที่กินหูฉลามน้ำแดงโถละ 5,000 ล่ะพ่อคุณ

อันนี้ต้องสำแดงให้ชัดแจ้งว่ามันต่างกัน คือฆ่าเขามาเป็นอาหารนั้นมันก็ไม่ใช่ไม่บาป ไม่ใช่ว่าไม่เจ็บปวด การทำลายชีวิตย่อมเจ็บปวดบาปกรรม

พวกไม่กินสัตว์ใหญ่เพราะสงสาร แต่กินกุ้งอบวุ้นเส้นมีกุ้งกองเป็นสิบตัว ก็ไม่ได้ทำลายชีวิตน้อยกว่าพวกกินวัว อันนี้มีช่องให้ถกเถียงพูดคุยกันอีกมาก

แต่ถ้ามนุษย์ยังตัดสินใจจะมีชีวิต จะเติบใหญ่ การดำรงชีพด้วยเนื้อสัตว์ ไม่ว่าใหญ่เล็กก็ยังเป็นทางเลือกสำคัญ นี่ก็เถียงกันได้อีก พวกกินเจเขาก็ว่าไม่เห็นต้องกินเนื้อสัตว์ก็มีชีวิตได้ แต่พวกกินเนื้อสัตว์เขาก็บอกว่า เด็กๆ จะเติบโตได้ต้องมีโปรตีนจากเนื้อสัตว์ โปรตีนจากพืชมันไม่พอสำหรับการใช้ชีวิตในปัจจุบัน ซึ่งต้องใช้แรงกายแรงสติปัญญามากมาย

พวกกินเนื้อสัตวเขาก็แขวะพวกไม่กินสัตว์ว่า หน้าเหลืองตาเหลือง เดินไปไหนท่าทางปวกเปียกละเหี่ยเพลียใจ จะไปทำอะไรที่มันต้องออกแรงกายแรงใจมากไม่ไหว

ย้ำอีกครั้ง เหล่านี้ก็ต้องถกเถียงอธิบายกันต่อไป โลกนี้มิได้อยู่ได้ด้วยมณีเดียว อย่างที่เขาว่ามา

กลับมาที่หูฉลาม ที่มันเป็นการหาอาหารที่โหดร้ายทารุณ เพราะเขาจะตัดเอาแต่ครีบของฉลาม แล้วปล่อยมันลงน้ำต่อ เพราะเรือที่ล่าฉลามเพื่อเอาครีบเขาก็จะเน้นครีบ สินค้าราคาแพง เขาไม่เอาฉลามทั้งตัวไปเกะกะเรือเขา เขาปล่อยมันทิ้งน้ำ

ส่วนใหญ่เขาก็ทิ้งมันลงน้ำทั้งที่มันยังเป็นๆ อยู่ แต่ไม่นานมันก็จะค่อยๆ ตายอย่างทรมาน ทั้งจากบาดแผลของมัน และจากการโดนสัตว์อื่นล่าเป็นอาหารโดยไม่สามารถปกป้องตัวเองได้ มันเหมือนตัดหูเราแล้วโยนเราทิ้งน้ำทะเลน่ะคุณ

เพราะฉะนั้น ข้อหาว่าฆ่าอย่างโหดร้าย จึงเถียงไม่ได้ เถียงมาจะบ้องหูเข้าให้

หูฉลามแต่ละหม้อ จะต้องตัดครีบฉลามหลายต่อหลายตัว คือเรียกว่าเป็นการกินที่ล้างผลาญชีวิตขนานหนัก ครีบฉลามตากแห้งแล้วจะเบาหวิวและกินเข้าไปไม่กี่คำก็หมด ถ้าจะกินให้เปรมปรีดิ์ก็ต้องล้างผลาญกันหลายต่อหลายตัว

ฉลามยังเป็นสัตว์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ เพราะหนึ่งมันถูกมองว่าเป็นอันตราย ดังนั้น เมื่อพบเจอมันจึงมักถูกฆ่าตายเสียเพื่อความปลอดภัยของมนุษย์ที่สถาปนาตัวเองเป็นเจ้าของโลก

และมนุษย์นั่นเองที่พบว่าครีบปลาฉลามเป็นอาหารอร่อยเอกอุ เหมาะสมกับกิเลสปากของตนเอง หูฉลามจึงกลายเป็นอาหารราคาแพง บ่งสถานะ บอกรสนิยม และยังจะบำรุงสุขภาพเข้าไปอีก

เรื่องคุณค่าทางอาหารนี่เขายืนยันกันแล้วว่าไม่ได้มีมากไปกว่าไข่ไก่ 1 ใบ

แต่ถึงมีมากกว่า เราจะรักตัวกลัวตายแล้วเบียดเบียนชีวิตอื่นอย่างโหดร้ายทารุณอย่างนั้น?

รู้อย่างนี้ก็หมดเหตุผลจะกินมันแล้ว จึงควรเลิกกินมันเสีย จะไปอ้างคนรุ่นเก่าเขาทำมา เขาก็พากันตายไปหมดแล้ว จะไปจมกับเรื่องเก่าที่มันไม่เป็นมงคลทำไม บรรพบุรุษเราไม่ได้ทำถูกไปเสียทุกเรื่องนะพ่อคุณแม่คุณ

สิบกว่าปีก่อนเขาประเมินกันว่า มูลค่าการค้าหูฉลามของโลกนี่ตกปีละ 3 ล้านล้านบาท หูฉลามมีราคาเฉลี่ยกิโลละ 1 หมื่นบาท หูฉลามบางประเภทมีราคาสูงถึง 8 แสนบาท ปีหนึ่งๆ ขายกันกว่า 5 แสนตัน อันนี้เฉพาะที่บันทึกตัวเลขได้ พวกที่แอบจับแอบฆ่าอีกเท่าไรไม่รู้ แต่องค์กรอนุรักษ์นานาชาติบอกว่า ฉลามถูกฆ่าผ่านวิธีการเหี้ยมโหดนี้ปีละ 73-100 ล้านตัว

ทั้งโลกเขาพากันประณามหยามเหยียดพวกกินหูฉลาม พวกขายหูฉลามอย่างหนักมาหลายสิบปีแล้ว จีนที่ว่ากันว่าเป็นตลาดหูฉลามใหญ่สุดของโลก ประกาศห้ามเสิร์ฟหูฉลามในงานเลี้ยงของรัฐมาตั้งแต่ 7 ปีที่แล้ว สายการบินไทย และสายการบินทั่วโลกอีกอย่างน้อย 45 สายการบิน เครือโรงแรมชั้นนำก็มีแนวทางเดียวกันคือ เลิกขนส่ง เลิกเสิร์ฟเมนูหูฉลาม ที่เกาะมัลดีฟส์ เขาห้ามแตะฉลามเด็ดขาด ในอเมริกาหลายรัฐห้ามขายหูฉลาม มันไม่ใช่เรื่องที่เขาคิดกันเอง มันเป็นเรื่องของโลกทิศทางของโลก

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

แต่เชื่อไหม ยังมีคนอยากฉลองด้วยหูฉลามอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ไม่ใช่แค่คณะรัฐมนตรีไทยที่เพิ่งกินกันไปหมาดๆ

จอห์น เบเกอร์ ผู้อำนวยการโครงการรณรงค์ องค์กรไวล์ดเอด ซึ่งเน้นทำการรณรงค์เพื่อลดความต้องการบริโภค และความต้องการซื้อผลิตภัณฑ์จากสัตว์ป่า บอกว่า ผลสำรวจขององค์กรไวล์ดเอด ปี 2560 พบว่า คนไทยในเขตเมืองมากกว่า 60% ต้องการกินหูฉลาม โดยเฉพาะในงานรื่นเริงเฉลิมฉลอง เพราะการเสิร์ฟหูฉลามในงานเลี้ยง แสดงถึงฐานะทางสังคมของเจ้าภาพ

ใครไม่เข็ด อยากให้เขาลำเลิกเบิกประจานให้อับอายขายหน้าทั้งตระกูลก็ลองดู