ข้าราชการสาว ใช้วันว่างต่อยอดการตลาด สวนกล้วยหอมทองของพ่อกับแม่ สร้างรายได้เสริมหลักหมื่นต่อเดือน

อาชีพเกษตรเป็นอาชีพที่ทุกคนรู้ดีว่าเหนื่อย หนัก ต้องสู้กับแดดและฝน แต่ถึงอย่างไรแล้วก็ยังมีคนที่คิดอยากจะออกจากงานประจำมาทำเกษตร รวมถึงคนที่คิดอยากจะทำเกษตรเป็นอาชีพเสริมอยู่ทุกวัน ซึ่งถ้าหากลองกลับมาคิดดีๆ นั้นบางทีสิ่งเหล่านี้อาจจะเป็นตัวบ่งบอกได้ว่า ในบางครั้งถึงจะต้องเจอกับงานที่หนักและเหนื่อย แต่ถ้าทำแล้วมีความสุข ทั้งความหนักและเหนื่อยที่ว่ามานี้ก็อาจจะจางหายเองก็ได้

คุณอริสา พงษ์เผือก หรือ พี่ก้อย

คุณอริสา พงษ์เผือก หรือ พี่ก้อย ข้าราชการสาว ใช้วันว่างกลับมาพัฒนาอาชีพเดิมของพ่อแม่ ต่อยอดการตลาดให้มีรายได้เพิ่มขึ้น จากเดิมเฉลี่ยเดือนไม่ต่ำกว่า 30,000 บาท หรือถ้าอยู่ในช่วงที่พีกที่สุดยอดขายพุ่งไปจนถึงหลักแสนบาท ที่มีจุดเริ่มต้นมาจากสวนผสมผสานของพ่อกับแม่ ปลูกพืชผักไม้ผลไว้หลากหลายชนิด มีพืชหลักสร้างรายได้คือ มะนาวและกล้วยหอมทอง ที่เมื่อหลังฤดูการเก็บเกี่ยวที่สวนก็จะทำการตัดแต่งหน่อกล้วยที่เกินความจำเป็นทิ้ง ก็เกิดเป็นความเสียดาย จึงได้กลายเป็นมาช่องทางการตลาด จากเดิมที่ขายเพียงแต่กล้วยเป็นหวี ก็ได้เพิ่มช่องทางสร้างรายได้จากการขายหน่อกล้วยเสริมเข้ามาอีกช่องทางหนึ่ง

ลุงตุ้ม (เอื้อน พงษ์เผือก) เกษตรกรตัวจริง

เทคนิคการเริ่มต้นหาตลาด
ของแม่ค้ามือใหม่

พี่ก้อย บอกว่า วิธีการหาตลาดตามฉบับแม่ค้ามือใหม่อย่างตนเองนั้น จะใช้เทคนิคการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้าก่อนมาเป็นอันดับแรก เพราะปัญหาส่วนใหญ่ที่ลูกค้าออนไลน์เป็นกังวลมากที่สุดคือกลัวการไม่ส่งของหรือการโอนจ่ายเงินไปก่อนแล้วไม่ได้ของ เพราะฉะนั้นการสร้างความไว้ใจให้กับลูกค้าจึงจำเป็นอย่างยิ่ง โดยที่สวนจะใช้วิธีการบอกเล่าเรื่องราว การทำกิจกรรมภายในสวนมาโพสต์ลงในเฟซบุ๊ก ที่เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการปลูก การดูแล ไปจนถึงการเก็บเกี่ยวผลผลิต เพื่อให้ลูกค้าวางใจได้ว่าสวนของเรามีอยู่จริง ขายจริง ซึ่งข้อนี้เป็นข้อที่สำคัญมาก หากทำให้ลูกค้าเชื่อใจได้แล้ว ในอนาคตการตลาดก็จะสามารถขยายต่อไปได้เองจากการบอกปากต่อปาก รวมถึงยังคงรักษาฐานลูกค้าเดิมที่กลับมาซื้อซ้ำได้ด้วยของมีคุณภาพและมีความจริงใจให้กับลูกค้า

สภาพแปลงปลูกกล้วยหอม เป็นระเบียบ จัดการดูแลง่าย

โดยราคาขายหน่อกล้วยของที่สวน ณ ปัจจุบัน ขายออนไลน์อยู่ที่หน่อละ 14 บาท ค่าส่ง 10 หน่อ 130 บาท รวมเป็นเงิน 270 บาท ซึ่งที่สวนจะมีสโลแกนส่วนตัวคือ จะไม่มีการขุดหน่อมาตากแดดทิ้งไว้ก่อน เพื่อให้หน่อน้ำหนักเบาลงและประหยัดค่าขนส่ง แต่ของที่สวนจะขุดขายแบบวันต่อวัน คือขุดตอนเช้า ช่วงสายตัดแต่งหน่อ แล้วแพ็กส่งขายเลย ไม่มีการค้างคืน ตรงนี้ถือเป็นจุดแข็งที่ทำให้ลูกค้าติดใจสั่งหน่อของที่สวนไปปลูกอยู่บ่อยๆ และอีกข้อดีของการขุดหน่อสดขายแบบวันต่อวันคือ ลูกค้าสามารถนำไปปลูกลงดินได้เลย ไม่ต้องเลี้ยงชำ จึงทำให้ที่สวนสามารถสร้างรายได้เฉลี่ยจากการขายหน่อกล้วยได้เฉลี่ยไม่ต่ำกว่าเดือนละ 30,000 บาท และยิ่งถ้าเป็นในช่วงพีกคือ ฤดูฝนจะยิ่งขายหน่อกล้วยหอมทองได้ดีมาก พุ่งไปแตะหลักแสนเลยทีเดียว และยังเป็นรายได้ที่ยังไม่ได้รวมจากการขายหน้าสวน รวมถึงยังไม่ได้มีการหักค่าใช้จ่ายด้วย

ติดตั้งระบบน้ำสปริงเกลอร์ภายในสวน

ฝากถึงเกษตรกรอยากทำบ้าง
เริ่มต้นที่ตรงไหนก่อนดี

“สำหรับในช่วงการเริ่มต้นทุกคนมักจะตั้งคำถามว่าจะเริ่มยังไงดี เริ่มจากตรงไหน คำตอบคือให้ลงมือทำเลย เนื่องจากสภาพดิน ฟ้า อากาศ ของแต่ละพื้นที่จะไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นเราจะเอาสวนคนอื่นมาเป็นบรรทัดฐานอย่างเดียวไม่ได้ แต่คนปลูกเองจะต้องเรียนรู้จากพื้นดิน แหล่งน้ำ และสภาพอากาศของพื้นที่ตัวเองประกอบกันไปด้วย ว่าถ้าหากพื้นที่คุณไม่มีแหล่งน้ำ คุณก็ต้องใส่ใจเรื่องแหล่งน้ำเป็นพิเศษมากกว่าพื้นที่ที่มีแหล่งน้ำอุดมสมบูรณ์ เพราะฉะนั้นหลักๆ แล้วสิ่งที่อยากแนะนำคือการลงมือทำ อย่าเอาเทคนิคของใครคนใดคนหนึ่งไปใช้มากกว่าการหาประสบการณ์จากตัวเอง เพราะประสบการณ์ของเราสำคัญกว่าเทคนิคที่เขาพูดกัน ส่วนการตลาด ทำไมถึงปลูกแล้วไม่มีตลาด แนะนำให้ขายคนรู้จักก่อนเลย หมายความว่าถ้าคุณปลูกกล้วยไม่เยอะก็ให้เริ่มต้นจากคนในชุมชน ตลาดในชุมชน และขายในราคาที่ไม่แพงเกินจริง ให้ทุกคนสามารถจับต้องได้ แต่ถ้าหากใครคิดจะปลูกเยอะควรหาตลาดรับซื้อประจำให้ได้ก่อนปลูกจะดีมาก” พี่ก้อย ฝากถึงเกษตรกรมือใหม่

ผลผลิตเฉลี่ย 5-7 หวีต่อเครือ

เทคนิคปลูก กล้วยหอมทอง
ฉบับคนเมืองเพชรบุรี

สำหรับขั้นตอนในการปลูกกล้วยหอมทองอย่างไรให้เป็นที่ต้องการของตลาดนั้น พี่ก้อย บอกว่า ต้องขออนุญาตให้ ลุงตุ้ม (เอื้อน พงษ์เผือก) ผู้เป็นพ่อเป็นคนให้ข้อมูล โดยลุงตุ้มอธิบายถึงขั้นตอนการปลูกกล้วยหอมทองให้ฟังว่า การปลูกกล้วยสามารถจำแนกการปลูกได้ออกเป็น 4 แบบ คือ 1. ปลูกแบบไม่ยกร่อง วิธีนี้จะเหมาะกับพื้นที่น้ำไม่ขัง 2. การปลูกแบบไถยกร่อง และปลูกในร่อง 3. การปลูกแบบไถยกร่อง และ 4. การปลูกโดยการขุดร่องน้ำ ให้ทุกคนศึกษาสภาพพื้นที่ของตนเองว่าเหมาะที่จะปลูกแบบไหน โดยที่สวนของลุงจะใช้วิธีการปลูกแบบยกร่อง ขนาดกว้างประมาณ 1 เมตร ปลูกในระยะห่างระหว่างต้น 2×2 เมตร ในพื้นที่ 1 ไร่ ปลูกได้ประมาณ 400 ต้น

ลูกใหญ่ ผิวสวย เป็นที่ต้องการของตลาด

การเตรียมดิน มีการไถตากดินก่อนปลูกเพื่อช่วยกำจัดวัชพืชและเชื้อโรคในดิน ด้วยการไถผาล 3 ตากดินทิ้งไว้ประมาณ 15 วัน จากนั้นไถแปรโดยใช้ผาล 7 เพื่อปรับหน้าดินอีกครั้ง จากนั้นทำการยกร่องปลูกได้เลย

การปลูก ขุดหลุมลึก กว้างประมาณ 20×20 เซนติเมตร จะใส่ปุ๋ยรองก้นหลุมก่อนปลูกหรือไม่ใส่ก็ได้ขึ้นอยู่กับเทคนิคของแต่ละสวน

เก็บเกี่ยวผลผลิตพร้อมส่ง

การดูแลรดน้ำ ของที่สวนจะวางระบบน้ำสปริงเกลอร์ โดยการเดินระบบน้ำต้องเตรียมการไว้ก่อนการลงหลุมปลูก ซึ่งการให้น้ำวันแรกที่ปลูก ให้รดน้ำให้แฉะ แล้วทิ้งไว้สักประมาณ 4-5 วัน จึงค่อยกลับมารดน้ำอีกครั้ง โดยการให้น้ำแต่ละครั้งจะคำนึงถึงสภาพอากาศและดูความชุ่มชื้นของดินเป็นหลัก เมื่อดินแห้งก็ควรรดน้ำ เพราะกล้วยเป็นพืชที่ต้องการน้ำอย่างสม่ำเสมอ หากได้รับน้ำไม่เพียงพอจะส่งผลทำให้ต้นกล้วยและผลผลิตที่ได้ไม่สมบูรณ์และหักล้มง่าย

เน้นขายหน่อขุดสดๆ

ปุ๋ย การใส่ปุ๋ยของที่สวนจะเน้นใส่ปุ๋ยคอกและปุ๋ยเคมี สูตร 15-15-15 ควบคู่กันไป โดยจะเริ่มใส่ปุ๋ยครั้งแรกเมื่อต้นอายุครบ 1 เดือน ใส่ในปริมาณต้นละ 1 ช้อนแกง และรดน้ำตาม ไม่ควรใส่ปุ๋ยชิดโคนต้นจนเกินไป และกระจายปุ๋ยอย่าให้ปุ๋ยเป็นกอง โดยระยะการใส่ปุ๋ยของที่สวนจะให้เดือนละ 1 ครั้ง พอกล้วยอายุครบ 7 เดือน จะหยุดการให้ปุ๋ย เพื่อรอเก็บเกี่ยวผลผลิตในเดือนที่ 8

“แต่ถ้าจะให้ดีกล้วยหอมทองส่วนมากจะชอบปุ๋ยขี้วัวกว่าปุ๋ยเคมี ถ้ามีปุ๋ยคอก ปุ๋ยเคมีสู้ไม่ได้เลย ลุงจึงพยายามใส่ปุ๋ยคอกให้ได้มากที่สุด คือถ้าช่วงไหนหามาได้เยอะก็ใส่ปุ๋ยคอกลงไป 5 ต้นต่อ 1 กระสอบ โดยการเทใส่ที่โคนต้นเลยนะ แล้วกล้วยจะงาม ลำต้นอวบดีด้วย ดินก็ดี ถ้าใส่เคมีอย่างเดียวจะทำให้ดินแข็งกระด้าง เพราะฉะนั้นควรดูแลควบคู่กันไป เพื่อความสมบูรณ์”

หน่อแบบสั้นตัดยอด สำหรับการขายแบบจัดส่งไปตามจังหวัดต่างๆ

โรคแมลงศัตรูพืชที่พบบ่อย ที่สวนมักจะประสบกับโรคเชื้อรากินใบกล้วย ที่มีสาเหตุเกิดจากความชื้น โดยสังเกตได้จากใบกล้วยจะมีจุดสีน้ำตาลและขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ อีกอาการคือที่ขอบใบมีร่องรอยของใบแห้งจากขอบใบลามไปหากลางใบ ก็ต้องใช้สารป้องกันกำจัดโรคเชื้อราในใบกล้วยในการแก้ปัญหา

ผลผลิต ใช้ระยะเวลาปลูก 8 เดือน เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ โดยกล้วยเครือหนึ่งเฉลี่ยแล้วจะได้ประมาณ 5-7 หวี หรือบางเครือได้ถึง 8 หวี ในคุณภาพที่ขนาดและสีของลูกมีความเสมอเท่ากันเกือบทุกลูก

พร้อมจัดส่งตามออร์เดอร์

ผลผลิตมีคุณภาพ ลูกยาว ใหญ่ สีสวย
มีพ่อค้ามารับซื้อถึงสวน

สำหรับการตลาดกล้วยหอมทองของที่สวน ลุงตุ้ม บอกว่า จะมีพ่อค้าประจำมารับซื้อถึงสวน และนำไปส่งต่อให้กับร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นต่อ โดยลักษณะกล้วยหอมที่ตลาดต้องการคือ ขนาดของลูกยาว ใหญ่ ผิวสวย ไม่ลาย น้ำหนักดี โดยการจะมีการประกันราคารับซื้อให้ในราคาไม่ต่ำกว่าลูกละ 2 บาท หรือถ้าหากช่วงไหนราคากล้วยดีดตัวขึ้นทางพ่อค้าจะมีการขึ้นราคาให้เป็นไปตามกลไกของตลาด นับเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ดีอีกทางหนึ่ง โดยที่สวนของลุงจะมีรายได้ต่อ 1 รอบการผลิต จะอยู่ที่ประมาณ 180,000 บาทต่อกล้วยประมาณ 2 ไร่ครึ่ง ซึ่งถ้ามือใหม่ที่กำลังสนใจอยากจะปลูกกล้วยหอมทองก็ยังถือเป็นพืชที่น่าสนใจ ตลาดยังกว้าง หากใครมีพื้นที่เยอะๆ ก็อยากให้ลองแบ่งพื้นที่สัก 2 ไร่ ปลูกกล้วยหอมทองติดไร่ไว้ ไม่ต้องดูแลอะไรมากมาย สามารถมีเวลาไปทำอย่างอื่น ส่วนพื้นที่ที่เหลือก็ใช้ทำเป็นสวนผสมผสานเพื่อสร้างรายได้หมุนเวียนต่อได้ ลุงตุ้ม กล่าวทิ้งท้าย

สอบถามรายละเอียดการปลูกกล้วยหรือสนใจติดต่อขอซื้อหน่อกล้วยไปปลูก สามารถติดต่อได้ที่เบอร์โทร. 084-915-6739 สวนอยู่ที่บ้านม่วงงาม ตำบลถ้ำรงค์ อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี