ผักกระเฉด ผักรสชาติดีมีคุณค่า เป็นยาที่เราผลิตได้

ในฤดูฝน บ้านเรามักจะประสบภัยน้ำท่วมขังแทบทุกปี บางพื้นที่ถูกเรียกว่าเป็นพื้นที่แล้งซ้ำซาก ท่วมซ้ำซ้อน ในฤดูแล้งก็แล้งหนัก ฤดูฝนน้ำท่วมบ้านเรือนเรือกสวนไร่นา ถนนหนทาง เป็นความเดือดร้อนของคนบ้านเรา มีผู้รู้หลายท่านได้แนะนำทางแก้ปัญหา แต่ก็ได้ผลบ้าง ไม่ได้บ้าง เพราะการต่อสู้กับปัญหาทางธรรมชาตินั้น มันก็เป็นเรื่องที่ยากอยู่ สภาพปัญหามักจะเปลี่ยนแปลงรูปแบบไปได้หลากหลาย คนแก้ก็มีหลากหลายรูปแบบเช่นกัน ก็ช่วยกันแก้ไขไป แก้ปัญหาไม่ได้ก็ขอให้บรรเทาเบาบางลงบ้างก็ยังดี

เกษตรกรทุกหมู่เหล่าทำการเกษตรต้องอาศัยน้ำเป็นปัจจัยหลัก มีน้ำอย่างเพียงพอ ใช้การประมงเลี้ยงสัตว์น้ำมากกว่าอย่างอื่น ใช้ปลูกพืช เลี้ยงสัตว์บก ก็ใช้น้ำมากพอสมควร การใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า ทำการเกษตรอย่างมีคุณภาพ ควรจะทำการเกษตรแบบผสมผสาน เช่น พื้นที่มีน้ำ เลี้ยงปูนา ปลา กุ้งฝอย หอยขม ในบ่อปลูกผักน้ำ เช่น บัว บอน ผักบุ้ง ผักกระเฉด บนคันบ่อ ปลูกข่า ตะไคร้ กระชายขาว ขิง ขมิ้นชัน ขมิ้นขาว มะกรูด มะนาว มะขามเปรี้ยว ใต้ร่มไม้ปลูกผักชีใบยาว สมุนไพรฟ้าทะลายโจร ผักเอ็นยืด ล้อมรั้วเลี้ยงไก่ เลี้ยงเป็ด ข้างรั้วปลูกตำลึง มะระขี้นก ฟักข้าว บวบ สมุนไพรรางจืด และอีกสารพัดที่จะทำได้

วันนี้ปัญหาน้ำท่วมขังพื้นที่การเกษตรยังมีอยู่หลายแห่ง หรือแม้แต่ผู้ที่ต้องกักตัวอยู่ในที่จำกัด จากสถานการณ์การระบาดของโรค เช่น โควิด-19 เรามาปลูกผักน้ำชนิดนี้ไว้กินไว้ขายกันดีกว่า “ผักกระเฉด” ซึ่งเป็นผักที่พบในบ้านเรามานานแล้ว เมื่อสมัยรัชกาลที่ 4 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ ทรงให้เปลี่ยนชื่อเป็น ผักกระเฉด เพราะเป็นชื่อที่ฟังไม่เป็นมงคล เปลี่ยนให้เรียก “ผักรู้นอน” ตามคุณสมบัติที่ใบถูกกระทบ สัมผัส และยามเย็น 5 โมง จะหุบห่อใบเข้าก้านใบ แบบว่าขอพักผ่อนนอนหลับ จึงเรียกว่า ผักรู้หลับรู้นอน หรือ ผักรู้นอน นั่นเอง

ผักกระเฉด เป็นพืชในวงศ์ LECUMINOSAE เป็นพืชตระกูลถั่วชนิดหนึ่ง ชื่อวิทยาศาสตร์ Neptunia oleraceae Lar เป็นไม้ล้มลุกเนื้ออ่อน เจริญเติบโตในน้ำ ห้วย หนอง คลอง บึง สระ กระทงนา คูน้ำ แม้แต่อ่างน้ำ วงบ่อซีเมนต์ที่สร้างขึ้นก็อยู่ได้ ชอบที่โล่ง มีแสงแดดรำไรจนถึงแสงแดดจัด ขึ้นปะปนกับพืชน้ำอื่นๆ หรือขึ้นอยู่เป็นกลุ่มผักกระเฉดเองก็ได้อยู่ ต้นลอยน้ำได้เพราะมี นวม หรือ นม คล้ายฟองน้ำ หรือก้อนสำลี หุ้มต้นเป็นท่อนๆ พยุงต้น ใบ เป็นชูชีพไม่ให้จมน้ำ ทำให้ลอยอยู่ผิวน้ำเพื่อรับแสง และแตกพุ่งยอดใหม่ มีชื่อเรียกกันหลายชื่อ ได้แก่ ภาคกลาง เรียก ผักกระเฉด หรือผักรู้นอน ภาคใต้ เรียก ผักฉีด ภาคเหนือ เรียก ผักหนอง ผักหละหนอง ภาคอีสาน เรียก ผักกะเสดน้ำ

ผักพิเศษที่ทอดยอดลอยน้ำได้ชนิดนี้ จะแตกรากหาอาหารเป็นกระจุก ตามข้อระหว่างปล้องที่ทอดยาว มีต้นเป็นปล้องสั้นๆ ปล้องมีรูกลวงเล็กน้อย บางส่วนเป็นปล้องตัน เนื้อแน่น กรอบเปราะ ใบ เป็นประเภทใบประกอบแบบขนนก คล้ายใบกระถิน หรือชะอม ดูเหมือนใบกระถินมาก ขอบใบย่อยมีสีม่วง ใบรูปไข่ จะหุบใบเวลากลางคืน หรือเมื่อถูกสัมผัส คล้ายต้นหญ้าไมยราบ เป็นประสาทสัมผัสพิเศษของพืชนี้ ดอก ออกตามซอกใบ เป็นช่อสีเหลืองสด ก้านช่อดอกยาว มีกลีบดอก 5 แฉก เป็นดอกสมบูรณ์เพศอยู่ส่วนยอด และดอกตัวผู้อยู่กลางช่อ

อาหาร ที่ใช้ผักกระเฉดเป็นส่วนประกอบมีมากมาย ตั้งแต่นำยอดอ่อน ใบอ่อน เป็นผักสด หรือผักเหนาะ กินแกล้มส้มตำ ยำ น้ำพริก หั่นฝอยใส่ขนมจีนน้ำพริก ใส่ขนมจีนน้ำยา เป็นผักลวกจิ้มแจ่ว ผักราดกะทิ ผักผัดน้ำมันจิ้มน้ำพริก ต้มส้ม ต้มเค็มปลา ผัดไฟแดง ผัดน้ำมันหอย ผัดหมูกรอบ ผัดปลาเค็ม ยำผักกระเฉดใส่กุ้ง  แกงส้มแป๊ะซะปลาช่อน รองก้นถ้วยแกงส้มปลา แกงส้มกุ้ง ชุบแป้งทอด ทำผักดอง ฯลฯ และอีกกว่าสิบเมนูที่ชาวบ้านเราจะสรรหาวิธีกินตามที่อยากกิน เพราะผักกระเฉดเป็นผักที่มีคุณค่าต่อร่างกาย และจิตใจ

คุณค่าทางอาหารของผักกระเฉด 100 กรัม ให้พลังงาน 29 กิโลแคลอรี ประกอบด้วย เส้นใยอาหาร 5.6 กรัม แคลเซียม 387 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 7.0 มิลลิกรัม เหล็ก 5.3 มิลลิกรัม วิตามินเอ 618 IU. วิตามินบีหนึ่ง 0.12 มิลลิกรัม วิตามินบีสอง 0.14 มิลลิกรัม ไนอะซิน หรือ   วิตามินบีสาม 3.2 มิลลิกรัม วิตามินซี 34.0 มิลลิกรัม มีเบต้าแคโรทีน 3,710 ไมโครกรัม คุณค่าทางอาหารที่มีประโยชน์มากมายเช่นนี้ ประกอบกับความอร่อยของรสชาติ กลิ่นที่เร้าใจ สีสันรูปร่างที่น่าลิ้มลอง เกินกว่าจะห้ามใจไหว อยากเด็ดยอดมากินมันเสียตอนนี้ ยิ่งถ้าเราได้ปลูกเพาะเองในบ่อที่เราควบคุมคุณภาพน้ำ การให้ปุ๋ย ไม่พ่นสารเคมี ใช้ชีวภาพในการบำรุงดูแลรักษา ยิ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เป็นแรงบันดาลใจให้เรารักและอยากลิ้มรส

ผักกระเฉด เป็นยาดีที่พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย เราใช้รักษาบำรุงร่างกายมาแต่เนิ่นนาน จัดเป็นประเภทยาเย็น เพราะมีรสมันเย็น ซึ่งยาไทยเรามี 3 รส คือ รสเย็น รสร้อน และรสสุขุม และแบ่งเป็นรสย่อยตามรสชาติที่คนเราสัมผัสรสรับรู้ได้ เช่น รสมัน ฝาด เปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ดร้อน เบื่อเมา จืด เป็นต้น คุณสมบัติของผักกระเฉด เป็นยารสมันเย็น ใช้ดับพิษร้อน ถอนพิษไข้ ถอนพิษยาเบื่อเมา แต่มีข้อเตือนว่า คนที่มีอาการป่วยไข้กินยารักษาอยู่ไม่ควรรับประทาน เพราะมันจะไปทำให้ยารักษาโรคเสื่อมฤทธิ์ และอาจจะมีบางคนที่แพ้ผักกระเฉด กินแล้วเกิดผดผื่น หรือคันตามรากฟัน ก็ควรหลีกเลี่ยง ไม่กินเข้ามาก ชิมพอให้หายอยาก พอให้ปากรับรู้รส ก็พอนะ

ผักชนิดนี้ปลูกง่าย โตเร็ว ขึ้นได้ในสภาพพื้นที่แหล่งน้ำต่างๆ ได้ แค่เด็ดเอาต้น หรือเถา หรือข้อปล้องที่แก่ มีรากเล็กน้อย ไปปลูก หรือเอาไปลอยน้ำในบ่อ เขาจะแพร่กระจาย รากจะดูดหาอาหารเองได้ แล้วจะทอดยอดขยายไปเป็นข้อปล้อง พร้อมทั้งแตกยอด ถ้ายังไม่ถูกเด็ดยอดไปกินก่อน เขาก็จะแตกเป็นกิ่งก้านให้ยอดใหม่ไปเรื่อยๆ เย็นนี้แดดร่มลมตก น้ำย่อยในกระเพาะออกมารออยู่ แกงส้มปลาช่อนตัวเล็กๆ สักตัว เดินไปเด็ดยอดผักกระเฉดสักกำมือ มารองก้นถ้วย ส่งต่อไปให้น้ำย่อยในกระเพาะที่รอคอยจัดการตามบทบาทหน้าที่ ว๊าบไปเลยครับท่าน

อ้อ! แล้วอย่าลืมโทร.ชวน เบอร์ 081-973-1897 จะเอาปัจจัยไปสมทบครับ