เผยแพร่ |
---|
นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า จากที่มีประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2565 ว่าด้วยหย่อมความกดอากาศต่ำที่พัดผ่านปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากและมีคลื่นลมแรงบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ตรัง และสตูล ประมาณ 60-70% ของพื้นที่
โดยคาดว่าจะมีพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายจำนวน 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ปัตตานี นราธิวาส พัทลุง ยะลา และสงขลา พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะได้รับความเสียหาย จำนวน 80,153.75 ไร่ แบ่งเป็นข้าว ซึ่งอยู่ในระยะใกล้จะเก็บเกี่ยว จำนวน 53,158 ไร่ พืชไร่และพืชผัก จำนวน 13,436 ไร่ ไม้ผลไม้ยืนต้นและอื่นๆ จำนวน 13,559.75 ไร่ (ข้อมูล ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 14.00 น.)
กรมส่งเสริมการเกษตรได้สั่งการให้สำนักงานเกษตรจังหวัดในพื้นที่เร่งติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมเข้าให้ความช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรเบื้องต้นหลังน้ำลด และผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้ว โดยต้องดำเนินการสำรวจความเสียหายให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน
ในกรณีที่วงเงินที่จะชดเชยไม่เกิน 5 แสนบาท จะเสนอคณะกรรมการ ก.ช.ภ.อ. พิจารณาให้การช่วยเหลือเกษตรกร ภายใน 5 วัน หากวงเงินชดเชยเกินกว่า 5 แสนบาท จะต้องเร่งเสนอ ก.ช.ภ.จ. พิจารณาให้การช่วยเหลือ ภายใน 5 วัน และหากเกินวงเงิน 20 ล้านบาท จะต้องเสนอกรมส่งเสริมการเกษตร เพื่อสรุปเสนอกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาให้การช่วยเหลือต่อไป
สำหรับแนวทางการช่วยเหลือนั้น กรมส่งเสริมการเกษตรมีโครงการผลิตพืชพันธุ์ดีเพื่อสำรองในกรณีช่วยเหลือ ฟื้นฟู ดูแลเกษตรกรผู้ประสบภัยและใช้ในภารกิจของกรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งดำเนินการผลิตพืชพันธุ์ดีให้เกษตรกรในยามฉุกเฉินมาอย่างต่อเนื่อง
โดยเหตุอุทกภัยภาคใต้ครั้งนี้ได้มอบหมายให้ ศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 2 จังหวัดตรังศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 4 จังหวัดนครศรีธรรมราช ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร จังหวัดสุราษฎร์ธานี ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตรจังหวัดกระบี่ และศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร จังหวัดยะลา เตรียมพร้อมพันธุ์พืชผักและไม้ผลหลังน้ำลด สำหรับสนับสนุนเกษตรกรทันทีจำนวนกว่า 262,000 ต้น อาทิ พริกเดือยไก่ พริกขี้หนู มะเขือเปราะ มะเขือเทศ มะเขือยาว มะเขือพวง กะเพรา แมงลัก กระเจี๊ยบเขียว กล้วยน้ำว้า มะละกอ ทุเรียนบ้าน หมาก กาแฟ ผักเหลียง กระท่อม เป็นต้น ซึ่งเป็นพืชที่เกษตรกรนิยมเพาะปลูกและรับประทานในพื้นที่
รวมทั้งศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืช (ศทอ.) จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดสงขลา และสำนักงานเกษตรจังหวัดทั้ง 5 แห่ง คือ จังหวัดนครศรีธรรมราช ปัตตานี นราธิวาส พัทลุง และยะลา จะสนับสนุนเชื้อราไตรโคเดอร์มาพร้อมใช้จำนวน 58,486 กิโลกรัม และหัวเชื้อสำหรับให้เกษตรกรขยายเชื้อเอง จำนวน 5,500 ขวด เพื่อนำไปใช้ฟื้นฟู ป้องกันเชื้อราสาเหตุโรคพืชให้แก่เกษตรกรที่ประสบภัยภายหลังน้ำลด
อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือยังคงเป็นไปตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 หลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2564 ในอัตราดังนี้ ข้าว 1,340 บาทต่อไร่ พืชไร่และพืชผัก 1,980 บาทต่อไร่ ไม้ผลไม้ยืนต้นและอื่นๆ 4,048 บาทต่อไร่ ตามพื้นที่เสียหายจริงไม่เกินครัวเรือนละ 30 ไร่ ทั้งนี้เป็นไปตามที่อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือผู้ว่าราชการจังหวัดได้ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินแล้ว