เผยแพร่ |
---|
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการวิจัยการพัฒนาตลาดดิจิทัลเพื่อยกระดับสินค้าและบริการ จังหวัดเลย โดยมีกิจกรรมย่อย 2 กิจกรรม ได้แก่ กิจกรรม “การพัฒนาผลิตภัณฑ์ชาต้นดีหมีของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านท่าดีหมี” และ กิจกรรม “การยกระดับผลิตภัณฑ์ผ้าย้อมสีธรรมชาติจากใบต้นดีหมีสู่ตลาดสีเขียวยุคดิจิทัล” ณ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนชาดีหมี บ้านท่าดีหมี ตำบลปากตม อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย นำโดย รศ.ดร.พีรเดช ทองอำไพ ผู้อำนวยการสถาบันคลังสมองของชาติ ในฐานะผู้ทรงคุณวุฒิ วช. ผู้ตรวจสอบโครงการวิจัย ตามนโยบาย “การขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันในพื้นที่จังหวัดเลย” พร้อมด้วย นายธีรวัฒน์ บุญสม ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรม วช. และคณะ โดยโครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจาก วช.
รศ.ดร.พีรเดช ทองอำไพ ผู้ทรงคุณวุฒิ วช. กล่าวว่า กลุ่มวิสาหกิจชุมชน ถือเป็นกลุ่มเศรษฐกิจฐานรากที่สำคัญประเทศ หากได้รับการสนับสนุนส่งเสริมและเสริมความรู้ เพิ่มขีดความสามารถ ภายใต้แนวทางการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ชุมชน ให้เป็นอาชีพที่สร้างความมั่นคงให้กับชุมชนกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านท่าดีหมี โดยการนำองค์ความรู้จากงานวิจัยและนวัตกรรมสู่การยกระดับผลิตภัณฑ์ของชุมชนและคุณภาพชีวิตให้กับท้องถิ่น โดยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชาต้นดีหมีของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านท่าดีหมีให้เป็นสินค้า OTOP
ต้นดีหมี เป็นไม้ยืนต้นพืชสมุนไพรพื้นบ้าน ที่เป็นเอกลักษณ์ท้องถิ่น เกิดการสร้างรายได้ให้กับชุมชนได้อย่างยั่งยืน หลังจากนั้นได้ลงพื้นที่ศูนย์วิจัยชุมชน “กลุ่มวิสาหกิจชุมชนวิสาหกิจทอผ้าพื้นเมืองบ้านท่าดีหมี” โดยได้แนะนำทีมวิจัยในเรื่องของการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ผ้าย้อมสีธรรมชาติจากใบต้นดีหมีให้เป็นสินค้าระดับพรีเมี่ยมและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเสริมสร้างอัตลักษณ์ให้กับชุมชนพื้นที่บ้านดีหมีให้ชุมชนในพื้นที่ได้มีรายได้พึ่งพาสามารถพึ่งพาตัวเองได้อย่างยั่งยืน
ผศ.ดร.อัญชลี โกกะนุช กล่าวว่า โครงการวิจัยการพัฒนาตลาดดิจิทัลเพื่อยกระดับสินค้าและบริการของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนจังหวัดเลย ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาแพลตฟอร์มการตลาดกลางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ซึ่งเป็นช่องทางหนึ่งของการตลาดดิจิทัล เพื่อรองรับนวัตกรรมสินค้าที่ได้รับการปรับปรุงผลิตภัณฑ์เดิม Modified product ซึ่งเป็นการยกระดับสินค้าที่เป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนที่มีการสื่อสารการตลาดตามลักษณะเฉพาะของสินค้าการตลาดกลางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์จะเป็นสื่อกลางในการประสานเปิดโอกาสให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนได้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกัน ตามแนวคิด BCG Model ก่อให้เกิดผลิตภัณฑ์ที่สร้างรายได้ให้กับชุมชน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม