กลุ่มมิตรผล ก้าวสู่ตำแหน่งผู้นำด้านการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน อันดับที่ 2 ของโลก พร้อมมุ่งสู่การเป็นองค์กร Net Zero

กลุ่มมิตรผล ผู้นำด้านการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนในภาคเกษตรอุตสาหกรรมของประเทศไทย ก้าวสู่อันดับที่ 2 ของโลก ด้านการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Development) ในกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหาร จากผลการประเมินด้านความยั่งยืนขององค์กร หรือ Corporate Sustainability Assessment (CSA) โดย S&P Global ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 โดยสามารถสร้างผลงานยอดเยี่ยมและไต่อันดับสูงขึ้นเรื่อยมา จากอันดับ 17 ในการเข้าร่วมประเมินปีแรกจนมาถึงอันดับ 2 ในปัจจุบัน จาก 353 องค์กรที่เข้าร่วมประเมิน ครองอันดับ TOP 5% S&P Global ESG Score 2022 และได้รับเลือกเป็นสมาชิกในรายงานความยั่งยืน “The Sustainability Yearbook Member” 4 ปีซ้อน นับเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ความสำเร็จของกลุ่มมิตรผลตลอดระยะเวลากว่า 67 ปี เพื่อสร้างองค์กรแห่งการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนที่มีมาตรฐานและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนแก่ทุกภาคส่วน

นายบรรเทิง ว่องกุศลกิจ

นายบรรเทิง ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการบริษัทและประธานกรรมการบริหาร กลุ่มมิตรผล กล่าวถึงความสำเร็จของผลการประเมินด้านการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนในปีนี้ว่า “จากทุกความตั้งใจของผู้บริหารและพนักงานกลุ่มมิตรผล การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน ท้าทาย และการลงมือทำให้เห็นผลจริงตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ส่งผลให้เราสามารถก้าวสู่อันดับที่ 2 จากผลการประเมินด้านการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนจาก S&P Global ได้ในปีนี้ นับเป็นการผลักดันให้องค์กรได้ก้าวสู่มาตรฐานความยั่งยืนในระดับสากล โปร่งใส และมีมาตรฐานเช่นเดียวกับบริษัทจดทะเบียนชั้นนำในตลาดหลักทรัพย์ และบริษัทชั้นนำของโลก

6 แนวทางการดำเนินงานของกลุ่มมิตรผล เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero

กลุ่มมิตรผลยังคงสานต่อเป้าหมายองค์กรแห่งการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม อย่างต่อเนื่อง ด้วยการลงมือทำจริงเพื่อต่อยอดแนวคิด “เปลี่ยนแปลงสิ่งที่ไร้ค่าให้เป็นสิ่งที่มีคุณค่า หรือ From Waste to Value Creation” ใช้ทรัพยากรหมุนเวียนอย่างมีคุณค่าโดยไม่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมเป็นองค์กรไทยที่จะช่วยยกระดับและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยสู่ความยั่งยืนในระดับสากลต่อไป