“แบล็กบอมบ์ 006” แตงโมพันธุ์ใหม่จากเจียไต๋ ปลูกง่าย ทรงสวย รสชาติหวาน กรอบ ทนการขนส่ง

เมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บริษัท เจียไต๋ จำกัด ผู้นำธุรกิจนวัตกรรมการเกษตรของไทย ได้เปิดตัวแตงโมพันธุ์ใหม่ “แบล็กบอมบ์ 006” ซึ่งเป็นแตงโมทรงหมอนลูกดำเจ้าแรกของไทย โดดเด่นด้วยเนื้อที่ละเอียด รสชาติ หวาน กรอบ มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ ขนาดเมล็ดเล็ก ให้ทรงผลสวย สม่ำเสมอ น้ำหนักดี และทนต่อการขนส่ง ที่จะมาช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับตลาดแตงโมของไทย เริ่มต้นปักหมุดทำการตลาดที่ภาคใต้

คุณสุริยันต์ แก้วยอด นักปรับปรุงพันธุ์พืช บริษัท เจียไต๋ จำกัด

คุณสุริยันต์ แก้วยอด นักปรับปรุงพันธุ์พืช บริษัท เจียไต๋ จำกัด ให้ข้อมูลว่า สำหรับแบล็กบอมบ์ 006 เป็นแตงโมสายพันธุ์ใหม่ที่ทางบริษัทเจียไต๋ใช้ระยะเวลากว่า 5 ปี ในการพัฒนาปรับปรุงสายพันธุ์เพื่อให้ได้แตงโมสายพันธุ์คุณภาพออกสู่ตลาด โดยทั่วไปแล้วแตงโมจะมีความหลากหลายทั้งในด้านของสีผิว ที่มีตั้งแต่ผิวสีเขียว สีเขียวเข้ม หรือแม้กระทั่งผิวสีเหลือง รวมถึงในส่วนของลักษณะรูปทรงของผล ที่มีตั้งแต่ทรงกลม ทรงหมอน หมอนสั้น หมอนยาว

ในส่วนของ “แบล็กบอมบ์ 006” จะเป็นแตงโมที่มีลักษณะเป็นทรงหมอนยาว ที่บริษัทตั้งใจพัฒนาเพื่อเกษตรกรให้ได้มีสายพันธุ์แตงโมทรงหมอนที่ดีในการเพาะปลูก เนื่องจากที่ผ่านมาแตงโมทรงหมอนยาวโดยทั่วไปจะปลูกยาก ปลูกแล้วจะมีลักษณะทรงผลคล้ายกับน้ำเต้า คือหัวท้ายไม่เท่ากัน แต่แตงโมแบล็กบอมบ์ 006 นี้ ได้มีการพัฒนาขึ้นมา ทำให้หัวท้ายสม่ำเสมอ ซึ่งจะส่งผลดีกับทั้งในแง่ของเกษตรกรผู้เพาะปลูก ผู้ค้า และผู้บริโภค ดังนี้

  1. ผลดีในมุมเกษตรกร เพาะปลูกง่าย ทรงสวย ช่วยลดขั้นตอนในการจัดการดูแล ไม่ต้องเสียเวลาในการตัดแต่งรูปทรงเยอะ ถือเป็นแตงโมเกรดเอของเกษตรกร ในขณะที่สายพันธุ์อื่นต้องคอยคัดลูกที่ไม่สมบูรณ์ออก และยังเป็นสายพันธุ์ที่ทนฝน ด้วยระบบรากที่แข็งแรง ใบแกร่ง ช่วยในการพรางแสง หรือในช่วงที่ฝนตกหนักๆ ใบที่ใหญ่จะช่วยป้องกันน้ำฝนได้ดี เหมาะสำหรับปลูกในพื้นที่ฝนเยอะอย่างพื้นที่ภาคใต้
  2. ผลดีในมุมผู้ค้า ผู้ค้าส่วนใหญ่มักต้องการค้าขายอะไรที่ใหม่ๆ ซึ่งการค้าขายของใหม่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ยากและท้าทาย แต่เมื่อไหร่ที่ของใหม่ทำตลาดได้ มีลูกค้าซื้อ แล้วกลับมาซื้อซ้ำ นั่นก็แปลว่าลูกค้าต้องมาซื้อของจากเราแค่คนเดียว และยังเป็นสายพันธุ์ที่ทนต่อการขนส่ง เนื่องจากที่ผ่านมาแตงโมหลายพันธุ์มีผิวที่แกร่งก็จริง แต่เนื้อช้ำง่าย หรือบางพันธุ์ผิวอาจจะไม่ค่อยแกร่ง แต่เนื้อแน่น ก็จะไม่ค่อยส่งเสริมกันเท่าที่ควร แต่แบล็กบอมบ์ 006 มีความแกร่งทั้งข้างนอกและข้างใน คือผิวแกร่ง เนื้อแน่น เชื่อมโยงไปถึงการวางจำหน่าย ด้วยเป็นแตงโมทรงหมอนสวย ทำให้น่าสนใจดึงดูดลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น และมีอายุการเก็บรักษาได้นาน
  3. ผลดีในมุมผู้บริโภค อย่างแรกคือเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคแตงโม ที่อยากได้แตงโมที่มีความแตกต่าง มีเนื้อที่แน่นกรอบ มีเมล็ดที่เล็ก เพราะฉะนั้นผู้บริโภคก็จะได้ความรู้สึกแบบใหม่ บริโภคสินค้าใหม่จากตรงนี้
เนื้อละเอียด รสชาติ หวาน กรอบ มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์

“แบล็กบอมบ์ 006” ปลูกง่าย
ทรงสวย เปอร์เซ็นเกรดเอสูง

คุณสุริยันต์ อธิบายถึงเทคนิคการปลูกแตงโมเบื้องต้นว่า สำหรับการปลูกแตงโมสิ่งที่ต้องคำนึงคือ 1. สภาพพื้นดิน ถ้าให้เหมาะสมต้องเป็นสภาพดินร่วนปนทราย ระบายน้ำได้ดี หรือในบางพื้นที่ที่ไม่ค่อยมีทราย ก็ให้เลือกพื้นที่ปลูกที่เป็นดินร่วน เพราะถ้าหากปลูกในดินที่แน่นเกินไปจะทำให้ผลผลิตไม่ค่อยโต เพราะฉะนั้นเกษตรกรจึงต้องหาพื้นที่ที่เหมาะสมในการเพาะปลูก 2. แหล่งน้ำที่เพียงพอต่อการเพาะปลูกแตงโม และ 3. สภาพอากาศ แตงโมสามารถเจริญเติบโตในเมืองไทยได้ทุกสภาพอากาศ แต่ถ้าอุณหภูมิต่ำกว่า 15 องศา จะส่งผลให้แตงโมโตช้า หรือถ้าหากอุณหภูมิต่ำลงกว่า 10 องศา จะส่งผลให้แตงโมเนื้อแน่นเกินไป จึงไม่แนะนำให้ปลูกแตงโมในช่วงที่มีอากาศเย็นจัด

วิธีการปลูก เริ่มจากการเพาะเมล็ดในถาดเพาะกล้าประมาณ 10 วัน หลังจากนั้นสามารถย้ายกล้าลงแปลงปลูกได้ ปลูกในระยะห่างระหว่างต้น 40 เซนติเมตร ระยะห่างระหว่างเถา จะเว้นให้พื้นที่การเลื้อยของเถาประมาณ 6 เมตร (แบ่งซ้าย-ขวา ข้างละ 3 เมตร)

“เทคนิคการปลูกแตงโมของแต่ละภาคจะมีความแตกต่างกัน อย่างภาคอีสานจะปลูกแล้วให้เลื้อยเข้าหากัน 1 ต้นไว้ 3 แขนง แต่ถ้าเป็นของภาคกลางและภาคเหนือตอนล่างจะปลูกแบบเลื้อยออก 2 ข้าง 1 ต้นไว้ 6 แขนง เพราะฉะนั้นในพื้นที่ 1 ไร่ ภาคอีสานจะปลูกแตงโมได้ 800 ต้น ส่วนภาคกลางและภาคเหนือตอนล่าง พื้นที่ 1 ไร่จะปลูกได้ประมาณ 600-700 ต้น”

“แบล็กบอมบ์ 006” พร้อมเก็บเกี่ยวผลผลิต

การดูแล หลังจากย้ายกล้าลงแปลงปลูก ในช่วงนี้จะมีการตัดแต่งแขนงให้เหลือ 3 หรือ 6 แขนง ขึ้นอยู่กับพื้นที่ จากนั้นเมื่อไว้แขนงแล้ว มาถึงช่วงดอกบาน ถ้าเป็นเกษตรกรที่มีพื้นที่ปลูกมากๆ จะไม่ผสมดอกเอง แต่จะใช้ผึ้งช่วยในการผสม เกษตรกรจะมีหน้าที่ตัดแต่งลูกที่ไม่สมบูรณ์ออก แล้วให้ไว้ผลที่ประมาณดอกที่ 3 หรือประมาณข้อที่ 16-17 ขึ้นไป เพื่อให้ได้ผลผลิตสูง มีคุณภาพ ตรงตามพันธุ์ ลูกไม่สั้น ไส้ไม่แตก

“แตงโมแบล็กบอมบ์ 006 ควรจะติดลูกที่ระยะเถายาวประมาณ 1.20-1.50 เมตร จะทำให้ได้แตงโมทรงสวย ลูกใหญ่ ขนาดสม่ำเสมอ แต่ถ้าไม่มีการตัดแต่งอะไรเลย แตงโมจะติดผลแบบกระจาย เกษตรกรก็จะได้ลูกใหญ่บ้าง ลูกเล็กบ้าง”

การบำรุงใส่ปุ๋ย สามารถให้ได้ 2 แบบ คือในรูปแบบการให้ปุ๋ยเม็ด และในรูปแบบที่ให้ปุ๋ยทางระบบน้ำหยด ซึ่งการให้ปุ๋ยทางระบบน้ำหยดจะสะดวกกับเกษตรกรมากกว่าการให้ปุ๋ยเม็ด พื้นที่ปลูก 20-30 ไร่ เกษตรกรสามารถจัดการได้อย่างสบายๆ โดยในระยะแตงโมต้นเล็ก จะให้ปุ๋ยสูตรเสมอ 15-15-15 หรือ 16-16-16 ตามแต่ละพื้นที่จะหาได้ หลังจากนั้นเมื่อเพาะปลูกไปแล้วในทุกๆ อาทิตย์ ให้ใส่ปุ๋ยประมาณ 10 กรัมต่อต้น แล้วในระยะติดดอก-ผลเล็ก (อายุ 25-30 วัน) จะเปลี่ยนมาใช้ปุ๋ยสูตร 13-13-21 ให้ทุกอาทิตย์เหมือนเดิม”

“แบล็กบอมบ์ 006” ทรงหมอนลูกดำเจ้าแรกของไทย

ขนาดทรงผล ขนาดความกว้าง 14-16 เซนติเมตร ยาว 30-32 เซนติเมตร น้ำหนักเฉลี่ยต่อผล 4-6 กิโลกรัมในฤดูปกติ แต่ถ้าหากปลูกในฤดูหนาว น้ำหนักเฉลี่ยต่อผลจะลดลงมาเหลือ 3-5 กิโลกรัม ความหนาของเปลือกประมาณ 0.8-1 เซนติเมตร เป็นความหนาที่กำลังพอดี ไม่บางและไม่หนาจนเกินไป เหมาะกับความต้องการของตลาดในประเทศ

ผลผลิต 4-5 ตันต่อไร่ จัดอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน และด้วยจุดเด่นของแตงโมแบล็กบอมบ์ 006 ที่มีทรงผลสม่ำเสมอ ส่งผลไปถึงเรื่องคุณภาพได้เกรดเอสูง

“แล้วผลผลิตเกรดเอสูงดียังไง อย่างแรกคือขายได้ราคาดีกว่าเปอร์เซ็นต์เกรดบีสูงแน่นอน หรือถ้าพูดให้เห็นภาพง่ายๆ คือ ถ้าผลผลิตเกรดเอของแบล็กบอมบ์ 006 จะอยู่ที่ประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ นอกนั้นเป็นเกรดบี ทีนี้เกรดเอจะได้ราคา สมมุติราคา 10 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนเกรดบีราคาจะลดลงมาเหลือ 5 บาทเลยนะ ส่วนเกรดซีอยู่ที่ประมาณ 2 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งตัวแบล็กบอมบ์ 006 จะมีเกรดซีน้อยมาก เกษตรกรก็จะได้เงินเพิ่มขึ้นจากเปอร์เซ็นต์เกรดเอที่สูงไปด้วย”

ต้นทุนต่อไร่ อยู่ที่ประมาณ 10,000 บาทต่อไร่ ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ทั้งค่าเมล็ดพันธุ์ ค่าเช่าที่ ค่าน้ำ ค่าปุ๋ย ค่าจัดการแรงงาน ตั้งแต่เริ่มเพาะปลูกไปจนถึงวันเก็บเกี่ยว ซึ่งเมื่อคำนวณต้นทุนกับรายได้ที่จะได้รับต่อไร่ถือว่าคุ้มค่ามากๆ

“ผลผลิตของแตงโมแบล็กบอมบ์ 006 จะเฉลี่ยอยู่ที่ไร่ละ 4 ตัน 1 ไร่จะมีรายได้ประมาณ 30,000-35,000 บาท คิดเป็นกำไรต่อไร่ประมาณ 20,000-25,000 บาท ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ราคาในช่วงนั้นด้วย หรือถ้าให้คิดง่ายๆ แตงโมแบล็กบอมบ์ 006 1 ตัน ถ้าเราได้ผลผลิต 2 ลูก น้ำหนัก 4 กิโลกรัม หรือผลผลิต 2 ลูก น้ำหนัก 6 กิโลกรัม เท่ากับเราได้ต้นละ 60 บาท หรือ 50 บาท ถือว่าดี เกษตรกรผู้ปลูกมีกำไรแน่นอน”

เนื้อแน่น เมล็ดเล็ก

เริ่มต้นปักหมุดทำตลาดที่ภาคใต้

“เนื่องจากแตงโมแบล็กบอมบ์ 006 ตัวนี้เป็นสายพันธุ์ทนฝน จึงได้เริ่มปักหมุดเปิดตลาดที่ภาคใต้เป็นที่แรก และในอีกไม่นาน แตงโมแบล็กบอมบ์ 006 จะเริ่มบุกตลาดภาคกลางและภาคเหนือ ตามลำดับ โดยคาดว่าผลผลิตรอบแรกจะเริ่มออกสู่ตลาดในช่วงเดือนมีนาคม และช่วงเดือนมิถุนายนอีกรอบหนึ่ง โดยทางเจียไต๋มีความคาดหวังว่าแตงโมแบล็กบอมบ์ 006 จะเป็นแตกโมเทรนด์ใหม่ ที่เนื้อแน่น กรอบ กลิ่นหอม ถูกใจผู้บริโภคอย่างแน่นอน” คุณสุริยันต์ กล่าวทิ้งท้าย