| ผู้เขียน | วิภาวรรณ เพ็ชรศรี |
|---|---|
| เผยแพร่ |
บริษัท Signify เป็นผู้นำระดับโลกในด้านหลอดไฟและอุปกรณ์แสงสว่างเพื่องานโครงการและผู้บริโภคทั่วไป รวมทั้งระบบแสงสว่างสำหรับ Internet of Things (IoT) ผลิตภัณฑ์หลอดไฟและอุปกรณ์แสงสว่างที่ประหยัดพลังงานของเรา รวมทั้งระบบและบริการต่างๆ ช่วยให้ลูกค้าของเราสามารถได้รับแสงสว่างที่มีคุณภาพเหนือชั้น และทำให้ชีวิตของผู้คนปลอดภัยยิ่งขึ้น มีความสะดวกสบายมากขึ้น ในขณะที่ธุรกิจมีประสิทธิภาพที่เพิ่มพูนและเมืองต่างๆ น่าอยู่กว่าที่เคย
ด้วยยอดขายถึง 6.9 พันล้านยูโร ในปี 2021 พนักงานประมาณ 37,000 คน และการทำธุรกิจมากกว่า 70 ประเทศ จึงสามารถปลดล็อกศักยภาพอันเหลือเชื่อของแสงสว่างได้ในระดับโลก เพื่อมอบชีวิตที่สดใสยิ่งขึ้นและโลกใบใหม่ที่ดียิ่งกว่า
เป็นเวลากว่า 125 ปีมาแล้ว ที่ทำการบุกเบิกการพัฒนาที่สำคัญในด้านหลอดไฟและอุปกรณ์แสงสว่าง และยังผลักดันให้เกิดการสร้างสรรค์นวัตกรรมมากมายมาโดยตลอด มีประวัติความสำเร็จอันโดดเด่นในด้านนวัตกรรม และทุ่มเทการลงทุนในด้านการวิจัยและพัฒนาเพื่อยังคงยืนหยัดในระดับแนวหน้าในการพัฒนาด้านเทคโนโลยี
บริษัท Signify ไม่เคยหยุดยั้งในการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อการใช้ไฟ LED และเรายังเป็นผู้นำในการขยายอุตสาหกรรมไปสู่ระบบแสงสว่าง ทั้งในตลาดของงานโครงการและตลาดผู้บริโภคทั่วไป ด้วยสถานะของผู้นำอุตสาหกรรมในด้านระบบแสงสว่างที่เชื่อมโยงถึงกัน บริษัท Signify จึงเป็นบริษัทหลอดไฟและอุปกรณ์แสงสว่างสำหรับ Internet of Things (IoT)
คุณนำโชค สมทรัพย์ ตำแหน่ง Key Account Manager, Agriculture lighting บริษัท ซิกนิฟาย คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) จำกัด ได้เล่าถึงจุดเริ่มต้นของนวัตกรรมระบบแสงสว่างเพื่อปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ เพราะด้วยข้อจำกัดในด้านของพื้นที่ที่ส่งผลมากจากจำนวนประชากรโลกที่เพิ่มมากขึ้น จึงจำเป็นที่ต้องออกแบบนวัตกรรมตัวดังกล่าวให้สอดคล้องกับพฤติกกรรมการเปลี่ยนแปลงของมนุษย์มากที่สุด เพื่อรองรับอนาคตข้างหน้านั่นเอง
“ในเรื่องของทั่วโลกจะมุ่งเน้นในเรื่องการผลิตอาหาร ในส่วนของตัวประชาชนมีจำนวนมากขึ้นในแต่ละประเทศ ในบางประเทศต้องบอกว่ามีพื้นที่ที่จำกัดในเรื่องของการปลูกพืช ซึ่งจะใช้พื้นที่ที่มีอยู่เพื่อปลูกพืชเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดครับ ก็จะเน้นไปในเรื่องของการปลูกในโรงเรือน ดาดฟ้า ปลูกเป็นชั้นๆ ปลูกในห้องกระจกอะไรแบบนี้ครับ ที่เรามักเห็นในส่วนของนวัตกรรมใหม่ๆ นะครับ ทางฟิลิปส์จึงเล็งว่าจุดนี้ครับ พอเทรนด์เปลี่ยนบวกกับเราที่เป็นผู้นำทางด้านหลอดไฟ เราจึงทำการวิจัยครับว่าในส่วนของหลอดไฟจะมีส่วนช่วยในเรื่องของการปลูกพืชอย่างไรบ้าง เพื่อให้เกิดผลผลิตที่ดีที่สุดครับ จึงเป็นที่มาว่าหลังจากเราทำการวิจัยแล้ว จะพบว่าในเรื่องของตัวหลอดไฟ เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้พืชมีผลผลิตที่ดีขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้หลอดไฟแบบอื่นหรือไม่ได้ใช้เลยครับ”
ด้านคุณนำโชคยังบอกต่ออีกว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านแสงสว่างสำหรับการปลูกพืชในเรือนกระจกของเราได้สร้างสรรค์ “สูตรแสงสว่าง” พิเศษที่กำหนดรูปแบบตามข้อกำหนดเฉพาะตัวของพืชและผักชนิดนั้นๆ ดังนั้น ผู้เพาะปลูกจึงสามารถปรับปรุงคุณภาพ รสชาติ และยอดผลผลิตได้ และยังประหยัดค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติการในขณะเดียวกันอีกด้วย
“ก็ในส่วนของงานวิจัยทำให้เราได้พบว่า จริงๆ แล้วตัวพืชเขาต้องการในเรื่องของตัวก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หลักๆ เลย ถัดมาคือเรื่องแสง รวมถึงปัจจัยอื่นๆ ก็จะมีพวกน้ำ วิตามิน แร่ธาตุ แต่อีกหนึ่งปัจจัยก็คือเรื่องแสง ทีนี้พืชแต่ละชนิด เขาต้องการช่วงของแสงที่ไม่เหมือนกัน ช่วงของแสงก็จะมีหลายเฉดสี ก็จะมีทั้งสีแดง สีขาว สีเหลือง สีเขียว สีม่วง สีน้ำเงิน สีชมพู เป็นต้น พืชหลายชนิดต้องการความยาวช่วงแสงต่างกัน เราจึงทำการออกแบบตัวหลอดไฟ โดยเฉพาะหลอดไฟตัว LED ตัวนี้ ให้มีช่วงแสงที่เหมาะสมต่อการปลูกพืชชนิดนั้นๆ โดยส่วนหนึ่งที่เราคำนึงถึงเลย คือในเรื่องของการประหยัดไฟจากการใช้งาน โดยไฟปลูกพืช ทางเราการันตีไว้ว่าสามารถที่จะลดค่าไฟเมื่อเทียบกับหลอดไฟ LED ทั่วไป ได้ถึง 40%”
สำหรับการนำนวัตกรรมระบบแสงสว่างฟิลิปส์เพื่อการเพาะปลูกและการเลี้ยงสัตว์ เพื่อการใช้งานนั้น ส่วนใหญ่จะเน้นการใช้งานการปลูกพืชที่มีมูลค่าสูง เช่น สตรอเบอร์รี่ เมล่อน กัญชา เป็นต้น
“จริงๆ แล้วต้องบอกว่าด้วยความที่เราเป็นหลอดไฟแบบ LED นะครับ และการปลูกพืชในปัจจุบัน ในส่วนของบุคลากรที่เป็นบุคคลธรรมดาหรือว่าในกลุ่มของบริษัทก็จะมุ่งเน้นในส่วนของการปลูกพืชที่มีมูลค่าสูงนะครับ ถ้าเปรียบเทียบก็จะเป็นส่วนสตรอเบอร์รี่ เมล่อน ในส่วนสมุนไพร อย่างเช่นกัญชา พืชที่มีมูลค่าสูง เพราะว่าเมื่อใช้หลอดไฟ LED จะมีในเรื่องของการลงทุนครั้งแรก แต่ว่าจุดคุ้มทุนจะอยู่ในเรื่องของระยะเวลาที่ผ่านไปด้วยครับ”
เมื่อสอบถามไปยังผลตอบรับ คุณนำโชค เล่าว่า ได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าที่มีความสนใจเกี่ยวกับการปลูกพืชด้วยการใช้หลอดไฟ LED พอสมควร เพราะเนื่องจากผลิตภัณฑ์ของทางแบรนด์ฟิลิปส์นั้นเป็นที่ถูกยอมรับทั่วโลกนั่นเอง
“ในเรื่องของเทรนด์การใช้หลอดไฟหรือการใช้แสงในเรื่องของการปลูกพืช อันนี้ก็เป็นที่นิยมและแพร่หลายมาก ในประเทศเมื่อมีการเปิดเสรีในเรื่องของพืชสมุนไพร ก็ทำให้มีการหันมาใช้หลอดไฟในการเร่งการเจริญเติบโตหรือว่าการเร่งผลผลิตนะครับ ผลตอบรับค่อนข้างดีบวกกับผลิตภัณฑ์ของทางฟิลิปส์เองเป็นที่ยอมรับทั่วโลกอยู่แล้วครับ”
สำหรับท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับนวัตกรรมระบบแสงสว่างฟิลิปส์เพื่อการเพาะปลูกและการเลี้ยงสัตว์ สามารถติดต่อสอบถามเกี่ยวกับนวัตกรรมที่สนใจได้ทางเบอร์โทรศัพท์ 062-089-0066 วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.00-17.00 น.
