ปลูก-พัฒนาพันธุ์ หน้าวัวกำมะหยี่ ทำตลาดออนไลน์ ขายได้ทั้งไทยและเทศ

ไม้ประดับใบ ถ้ามองในมุมมองของคนที่ชื่นชอบ จะมีความหลงใหลและรักในความเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนไม้ดอก เพราะไม้ประดับใบแต่ละชนิดมีลวดลายใบหรือรูปร่างใบที่แตกต่างกันไปแล้วแต่สายพันธุ์ อย่างเช่น หน้าวัวกำมะหยี่ เป็นไม้ที่มีลักษณะเด่นที่ใบค่อนข้างมีความนุ่มเหมือนผ้ากำมะหยี่ รวมทั้งเส้นลายใบที่เด่นชัด ซึ่งแต่ละสายพันธุ์มีลักษณะที่สวยงามที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชนิด และที่เห็นได้ชัดเจนนั้นก็คือสีของใบ มีสีอ่อน สีเข้ม รวมไปถึงสายพันธุ์ด่างด้วย

คุณนราทิพย์ อุทุมโภค หรือ คุณทิพย์

คุณนราทิพย์ อุทุมโภค หรือ คุณทิพย์ ได้หลงใหลในไม้ประดับใบอย่างหน้าวัวกำมะหยี่ เธอได้หาสายพันธุ์แท้ของไม้ชนิดนี้จากต่างประเทศเข้ามาปลูก เพื่อที่จะได้ขยายพันธุ์ให้เกิดลูกไม้ใหม่ๆ ออกมา จึงทำให้ภายในสวนของเธอมีไม้ที่หลากหลาย ไม่เพียงขายให้กับลูกค้าทั่วไปเท่านั้น ยังรวมไปถึงลูกค้าที่เป็นนักสะสมที่ชอบในรูปลักษณ์และลักษณะที่แปลกๆ ของหน้าวัวกำมะหยี่นี้

การเพาะกล้าใหม่ 

มองว่าหน้าวัวกำมะหยี่ ส่งตลาดต่างประเทศได้

คุณทิพย์ เล่าว่า เธอเองนั้นทำสวนไม้ประดับเป็นอาชีพสร้างงานอยู่แล้ว แต่ในสมัยก่อนยังไม่ได้เน้นในเรื่องของการทำตลาดออนไลน์ ต่อมาเมื่อมีความสนใจที่อยากจะทำตลาดไม้ประดับอย่างหน้าวัวกำมะหยี่ จึงได้ศึกษาในเรื่องของการทำตลาดมากขึ้น โดยใช้การขายออนไลน์เป็นหลัก ช่วยให้ตลาดกว้างโดยเฉพาะตลาดต่างประเทศที่เข้ามาติดต่อขอซื้ออยู่เป็นประจำ ซึ่งส่วนของเธอจะเน้นผลิตไม้เป็นแบบขายส่ง

ย้ายปลูกในกระถาง 4 นิ้ว

“ไม้ที่เรานำเข้ามาปลูก จะหาซื้อสายพันธุ์จากต่างประเทศเข้ามา ส่วนในบ้านเราเพิ่งจะมารู้จัก ก็น่าจะช่วงผ่านมา 2-3 ปีนี่เอง ช่วงที่โควิดระบาดใหม่ๆ ช่วงที่คนเริ่มให้ความสนใจ และหันมาปลูกไม้แปลกไม้หายากกัน โดยส่วนของเราจะเน้นผลิตแบบขายส่ง มีส่งตลาดต่างประเทศตั้งแต่พม่ากับกัมพูชา และตลาดในประเทศก็มีขายบ้าง สำหรับลูกค้าที่สนใจ” คุณทิพย์ บอก

 

ขยายพันธุ์ด้วยวิธีผสมเกสรและเพาะเมล็ดพันธุ์

Advertisement

หน้าวัวกำมะหยี่เป็นไม้ที่ชอบความชื้นพอสมควร คุณทิพย์ บอกว่า การสร้างโรงเรือนจะเน้นให้มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับไม้ชนิดนี้ โดยหลังคาโรงเรือนมีความสูงอยู่ที่ 3 เมตร พร้อมกับกรองแสงด้วยซาแรนที่มีความหนาอยู่ที่ 60-80 เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้ภายในโรงเรือนมีร่มเงาและมีความชื้นที่เหมาะสม

Advertisement

สำหรับการผสมพันธุ์จะเลือกว่าจะใช้แม่พันธุ์ที่มีลักษณะเด่นมาผสมกับเกสรตัวผู้ที่ต้องการ โดยอายุของต้นพ่อแม่พันธุ์ต้องมีอายุ 1 ปีขึ้นไป การผสมพันธุ์ให้ได้ลูกไม้ใหม่แต่ละรุ่นออกมาจะต้องดูความต้องการของตลาดเป็นหลัก หลังจากผสมเกสรจนได้เมล็ดแก่สมบูรณ์แล้ว จะนำเมล็ดมาเพาะในวัสดุจำพวกขุยมะพร้าว เมื่อไม้งอกมีความแข็งแรงดีจึงย้ายมาปลูกลงในกระถาง 4 นิ้ว ดูแลต่อไปอีกประมาณ 4 เดือน จึงนำไม้มาทำการคัดลักษณะเด่นของแต่ละต้น เพื่อที่จะนำออกสู่ตลาดต่อไป

“วัสดุปลูกหลักๆ ของเราก็จะเป็นขุยมะพร้าว พร้อมกับใส่ปุ๋ยละลายช้าสูตรเสมอลงไปด้วย ช่วงที่ไม้นำมาปลูกลงในกระถาง 4 นิ้วแล้ว จะมีการคัดต้น ดูว่าต้นไหนสามารถขายได้ก็ขายในช่วงขนาดกระถาง 4 นิ้วไปได้เลย แต่ถ้าต้นไหนมีลักษณะที่ดี จะปลูกดูแลให้ต้นใหญ่ๆ ขึ้นกว่าเดิม ก็จะมีการเปลี่ยนกระถางปลูกให้ใหญ่ขึ้นไปที่ขนาดกระถาง 6 นิ้ว 8 นิ้ว และ 10 นิ้ว ซึ่งระยะเวลการดูแลแต่ละช่วงก่อนเปลี่ยนขนาดกระถาง ก็จะประมาณ 2 เดือนเป็นอย่างต่ำ ซึ่งไม้แต่ละรุ่นที่เป็นไม้เมล็ดออกมา บางครั้งก็จะได้ลักษณะสีของใบที่เป็นด่างเหลืองและด่างมิ้นต์ออกมาให้เห็น” คุณทิพย์ บอก

โรคและแมลงศัตรูพืชที่ต้องระวังของหน้าวัวกำมะหยี่ คุณทิพย์ บอกว่า ส่วนใหญ่จะเป็นเพลี้ยและหอยทากที่ชอบเข้ามาทำลายใบ วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือจะต้องมีการฉีดพ่นยาป้องกันอยู่เสมอ จะช่วยให้ไม้ไม่ถูกแมลงศัตรูพืชเหล่านี้เข้ามาทำลายจนเกิดความเสียหาย

 

ทำตลาดออนไลน์ ช่วยให้ไม้ขายง่าย

การทำตลาดเพื่อขายหน้าวัวกำมะหยี่ คุณทิพย์ บอกว่า การทำตลาดของเธอมีทั้งขายตลาดต่างประเทศและในประเทศ ซึ่งการทำตลาดออนไลน์อย่างเต็มตัวนั้นมาดำเนินการได้ไม่นาน โดยมีน้องสาวเข้ามาช่วย ซึ่งทางสวนจะเน้นผลิตไม้เป็นแบบขายส่งที่ให้ลูกค้าสามารถรับไปทำราคาขายต่อได้ จึงทำให้มีพ่อค้าแม่ค้าในหลายพื้นที่เข้ามาติดต่อขอซื้ออยู่เป็นประจำ

สำหรับการขายออนไลน์เป็นสิ่งที่ต้องมีความน่าเชื่อถือ และทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นและไว้ใจ การส่งสินค้าต้องเป็นของที่สวยและมีคุณภาพ เป็นต้นที่ลูกค้าเห็นในโพสต์ตามที่ตกลงกันจริงๆ หรือหากเจอไม้มีความชำรุดระหว่างจัดส่งจะเปลี่ยนต้นใหม่ให้กับลูกค้าทันที เรียกง่ายๆ ว่ามีบริการหลังการขายที่ดีนั้นเอง

สำหรับราคาขายของหน้าวัวกำมะหยี่ คุณทิพย์ บอกว่า ไม้แต่ละชนิดมีราคาขายที่ถูกแพงแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และขนาด อย่างชนิดไม้ทั่วไปที่กระถาง 4 นิ้ว ราคาขายส่งเริ่มต้นอยู่ที่กระถางละ 120 บาท และถ้าเป็นไม้อยู่ในกระถาง 8 นิ้ว อายุ 1 ปีขึ้นไป ราคาอยู่ที่กระถางละ 6,000-8,000 บาท ส่วนที่เป็นต้นพ่อแม่พันธุ์หากมีลูกค้าสนใจก็จะมีแบ่งขายบ้าง ราคาอยู่ที่ต้นละ 20,000-30,000 บาท

“ตลาดในประเทศ ลูกค้าจะชอบไม้ที่มีลักษณะสีเข้ม และชอบแบบที่มีเส้นใบไม่มาก ก็ถือว่ามีตัวนี้ ค่อนข้างที่จะทำตลาดได้ดี เพราะเราไม่ได้ขายแต่ในประเทศอย่างเดียว ต่างประเทศก็ทำตลาดได้ เพราะฉะนั้นเราควรปลูกทำจำนวนไว้ แบบวงรอบของกระแสกลับมา ราคามันก็จะสูงขึ้นมาอีกครั้งก็ได้ เพราะฉะนั้นคนที่สนใจอยากจะปลูก อยากจะแนะนำว่าต้องมีใจรักก่อน มองว่าเราชอบจริงๆ ยังไม่ต้องไปมองว่าจะขายได้ราคาเท่าไร แล้วการเอาใจใส่ดูแลมันจะทำให้เราได้เรียนรู้ และพัฒนาต่อไปในอนาคตได้อย่างแน่นอน” คุณทิพย์ บอก

สำหรับท่านใดที่สนใจหน้าวัวกำมะหยี่ หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ คุณนราทิพย์ อุทุมโภค หรือ คุณทิพย์ ณ สวนเฟิร์นสาย&ไม้ใบ by Tip Garden ตั้งอยู่เลขที่ 166 หมู่ที่ 3 ตำบลเขาสมิง อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด หรือหมายเลขโทรศัพท์ 082-583-6522