ทุเรียนสาลิกาพังงา ของดีอำเภอกะปง เกษตรกรส่งขายออนไลน์ สร้างรายได้ดี

ทุเรียนสาลิกา (Salika Durian) ถือเป็นไม้ผลอัตลักษณ์ของจังหวัดพังงา ที่มีต้นกำเนิดในพื้นที่อำเภอกะปง และได้มีการขยายพันธุ์จนมีชื่อเสียงและได้รับความนิยมในปัจจุบัน ซึ่งทุเรียนสาลิกาของแท้ดั้งเดิมมีลักษณะผลค่อนข้างกลม เปลือกบาง เมล็ดลีบ รสชาติหวานมัน เนื้อสีเหลือง เนื้อหนาละเอียด มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ และที่สำคัญบริเวณกลางแกนผลมีสนิมสีแดงทุกผล จนได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indications : GI) ภายใต้ชื่อ “ทุเรียนสาลิกาพังงา” จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา เมื่อปี พ.ศ. 2561 โดยมีขอบเขตพื้นที่การผลิตในพื้นที่อำเภอกะปงเท่านั้น 

คุณรุ่งรดิศ ภิรมย์ หรือ โก้ลือ

ลักษณะทุเรียนสาลิกา เป็นทุเรียนพันธุ์พื้นเมือง ผลค่อนข้างกลม เปลือกผลบาง หนามสั้นและค่อนข้างถี่ ผลดิบสีเปลือกจะมีสีเขียวเข้ม เมื่อผลแก่สีจะอ่อนลง และมีสีน้ำตาลอ่อนบริเวณร่องพู เนื้อมีสีเหลือง เนื้อหนาละเอียด ไม่มีเส้นใย เนื้อแน่น ไม่เละ มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ รสชาติหวานมัน เมล็ดส่วนใหญ่จะมีลักษณะลีบ มีขนาดเล็ก น้ำหนักผลเฉลี่ย 1-2 กิโลกรัม มีผลผลิตออกสู่ตลาดในเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกรกฎาคม

เปลือกบาง เนื้อเยอะ

คุณรุ่งรดิศ ภิรมย์ หรือ โก้ลือ เห็นถึงความสำคัญของทุเรียนสาลิกาว่า เป็นไม้ผลที่เป็นอัตลักษณ์ของท้องที่ในจังหวัดพังงา จึงได้ทำการปลูกเพื่อเป็นไม้เศรษฐกิจสร้างรายได้ เขาได้ปรับเปลี่ยนพื้นที่สวนยางมาปลูกทุเรียนสาลิกา พร้อมกับทำตลาดออนไลน์เกิดรายได้ที่ง่ายขึ้น และทุเรียนเป็นที่ต้องการของลูกค้าในทุกปีที่มีผลผลิต

เนื้อสวยน่ากิน

ทุเรียนสาลิกา

ไม้ผลเศรษฐกิจที่น่าสนใจ

โก้ลือ เล่าให้ฟังว่า ดั้งเดิมมีอาชีพทำการเกษตรอยู่นานแล้ว ตั้งแต่การเพาะกล้าพันธุ์ไม้ การทำสวนยาง และการปลูกสวนปาล์ม แต่หลังๆ มาราคายางพาราไม่ได้ให้ผลตอบแทนที่ดีนัก ทำให้เขาได้ปรับเปลี่ยนจากทำสวนยางพารามาปลูกทุเรียนสาลิกา สาเหตุที่เลือกทุเรียนสาลิกาเพราะสายพันธุ์นี้เป็นไม้ผลพื้นถิ่นของจังหวัดพังงา ผู้บริโภคกำลังให้ความนิยมมากขึ้นด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์นี้เอง จึงทำให้ตลาดของทุเรียนสายพันธุ์นี้ทำตลาดได้อย่างต่อเนื่อง

ผลสวย

“ทุกวันนี้ผมไม่ได้ปลูกทุเรียนสาลิกาเพียงอย่างเดียว แต่ผมยังทำต้นพันธุ์ขายด้วย เดิมทีต้นพันธุ์ทุเรียนสาลิกาที่เป็นต้นกำเนิด จะอยู่หน้าสำนักงานเกษตรกรกะปง ซึ่งตอนนี้ต้นนั้นตายไปแล้ว แต่บ้านผมได้สายพันธุ์จากต้นนั้นโดยตรง จึงทำให้มีต้นพันธุ์เอามาปลูกเพื่อทำพันธุ์ขายได้ ซึ่งทุเรียนสายพันธุ์นี้เป็นทุเรียนพื้นถิ่นของอำเภอกะปงเลย ถือว่าทุเรียนสาลิกาเป็นทุเรียนบ้าน มีความโดดเด่นเป็นพิเศษ จึงเป็นที่ต้องการของตลาด จึงมีการขยายพันธุ์และปลูกกันมาจนถึงปัจจุบัน” โก้ลือ เล่าจุดเริ่มต้นของการปลูกและที่มาของทุเรียนสาลิกาให้ฟัง

การโยงผลทุเรียนสาลิกา

ปลูกทุเรียนสาลิกา 7 ไร่

ดูแลจัดการง่าย ได้ผลผลิตดี

ในเรื่องของการปรับพื้นที่เพื่อปลูกทุเรียนสาลิกานั้น โก้ลือ บอกว่า ไม่ได้จัดการอะไรมาก เพียงแต่ปรับพื้นที่และนำต้นยางพาราออก และสภาพดินที่ปลูกทุเรียนสาลิกานั้น สภาพดินต้องเป็นดินที่ระบายน้ำได้ดีและเป็นพื้นที่ราดเท ไม่ราบลุ่มจนเกิดน้ำขังในพื้นที่ โดยการเลือกกิ่งพันธุ์ที่นำมาปลูกนั้นต้องมีอายุอย่างต่ำ 1 ปีขึ้นไป เป็นต้นพันธุ์ดีที่ได้รับการเสียบยอดในต้นตอพื้นเมือง เพราะต้นตอพื้นเมืองสามารถหาอาหารได้เก่งจึงเหมาะนำกิ่งพันธุ์ดีมาเสียบ

การปลูกทุเรียนสาลิกาในแปลงปลูกระยะห่างระหว่างแถวอยู่ที่ 10×10 เมตร ใน 1 ไร่ ปลูกได้ประมาณ 16 ต้น ซึ่งการปลูกทุเรียนในช่วงแรกระบบการให้น้ำถือว่าสำคัญมาก เขาได้ทำระบบสปริงเกลอร์เพื่อรดน้ำให้กับทุเรียนระยะเริ่มปลูก โดยเฉพาะช่วงหน้าแล้งต้องการน้ำเป็นอย่างมาก ส่วนในเรื่องของการบำรุงต้นในแต่ละปีนั้น จะใส่ปุ๋ยคอกและปุ๋ยเคมีสลับกัน ในเรื่องของโรคและแมลงศัตรูพืชที่จะเข้ามาทำลายต้นทุเรียนหลังปลูกนั้นยังไม่ค่อยมีมากนัก เพราะทุเรียนสาลิกาถือว่าเป็นไม้ผลที่มีความต้านทานโรคสูง

การโยงผลทุเรียนสาลิกา

“การใส่ปุ๋ยช่วงที่เราปลูกลงไปใหม่ๆ ปีแรกจะเน้นใส่ปุ๋ยสูตร 25-7-7 อัตราส่วน 100 กรัมต่อต้น สลับกับใส่ปุ๋ยคอก พอต้นทุเรียนเริ่มมีอายุมากขึ้น จะใส่ปุ๋ยจำนวนเพิ่มขึ้นตามไปด้วยของแต่ละต้น พอต้นทุเรียนเริ่มได้อายุ 5-6 ปี พร้อมจะให้ผลิตได้ จากนั้นจะเปลี่ยนเป็นปุ๋ยสูตรที่พร้อมออกดอกออกผล ปุ๋ยสูตร 15-15-15 และปุ๋ยสูตร 8-8-24 ให้ครั้งละ 1 กิโลกรัมช่วงออกดอก และหลังติดผลแล้ว จะให้ปุ๋ยอัตราส่วนครั้งละ 2 กิโลกรัมต่อต้น ซึ่งทุเรียนสาลิกาช่วงพฤศจิกายนจะเริ่มออกดอก ประมาณเดือนมีนาคมจะเริ่มเป็นหางแย้ พอเริ่มสิ้นเดือนพฤษภาคมทุเรียนจะเริ่มทยอยตัดผลขายได้” โก้ลือ บอกถึงหลักการใส่ปุ๋ยบำรุงต้นทุเรียนสาลิกา

หลังจากที่เก็บผลทุเรียนจนหมดต้นแล้ว โก้ลือ บอกว่า จะเริ่มบำรุงต้นใหม่อีกครั้งด้วยการใส่ปุ๋ยคอกกับปุ๋ยสูตร 25-7-7 พร้อมกับตัดแต่งกิ่งให้กับต้นทุเรียน เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมต้นให้มีความสมบูรณ์ สำหรับให้ผลผลิตใหม่ในฤดูกาลถัดไป ซึ่งการผลิตทุเรียนออกขายส่วนใหญ่จะเน้นให้มีผลผลิตตามฤดูกาลเท่านั้น ส่วนในเรื่องของหนอนและแมลงศัตรูพืชจะกำจัดตามช่วงเวลาที่เจอเท่านั้น เพราะทุเรียนสาลิกาถือว่าเป็นไม้ผลที่ต้านทานต่อโรคและแมลง

เตรียมส่งขายให้ลูกค้า

เน้นทำตลาดออนไลน์

ส่งขายทุกพื้นที่ทั่วประเทศ

เนื่องจากไม้ผลในพื้นที่ทางภาคใต้เป็นผลผลิตที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โก้ลือ เล่าว่า ในช่วงฤดูกาลที่ไม้ให้ผลผลิตออกมาในแต่ละปี จะมีพ่อค้าแม่ค้าในหลายพื้นที่เข้ามาติดต่อขอซื้อถึงหน้าสวน พร้อมกับทุเรียนสาลิกาเป็นทุเรียนที่ลูกค้าในหลายพื้นที่ให้ความนิยม ทำให้สามารถส่งขายตลาดออนไลน์ได้อีกด้วย ในแต่ละปีทุเรียนสาลิกากำลังการผลิตของแต่ละสวนไม่เพียงพอต่อความต้องการกันเลยทีเดียว

ต้นทุเรียนสาลิกาอายุ 5-6 ปี

การขายทุเรียนสาลิกาในสวนแห่งนี้ขายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ โดยราคาขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 200 บาท หรือบางช่วงราคาเคยต่ำสุดลงมาอยู่ที่กิโลกรัมละ 150 บาท ซึ่งลูกค้าที่ซื้อส่วนใหญ่ต่างให้ความเห็นกันว่า ทุเรียนสาลิกาถือเป็นทุเรียนที่มีรสชาติอร่อย เนื้อละเอียด และมีความหวานมันเป็นรสชาติที่เข้มข้น พร้อมทั้งเมล็ดลีบ เปลือกบาง ถือว่าคุ้มค่าคุ้มราคา

สีเหลืองสวย

“พอทุเรียนสาลิกาได้สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวอำเภอกะปง ต่างก็อยากจะมาชิมทุเรียนสาลิกาที่เป็นถิ่นกำเนิดของทุเรียนสายพันธุ์นี้ ก็ถือว่าทุเรียนสายพันธุ์นี้ ทำการตลาดให้กับเกษตรกรในพื้นที่ได้ดีครับ ในอนาคตเราก็จะดูในเรื่องของการแปรรูปมากขึ้นเพื่อเพิ่มมูลค่า สำหรับลูกค้าท่านใดที่สนใจ ก็สามารถติดต่อมาซื้อได้ครับ ในช่วงฤดูกาลทางสวนมีบริการส่งทางไปรษณีย์ไปให้ถึงบ้านเลย” โก้ลือ บอก

พื้นที่ภายในสวน

สำหรับท่านใดสนใจอยากชิมรสชาติทุกเรียนสาลิกา หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ คุณรุ่งรดิศ ภิรมย์ หรือ โก้ลือ สวนตั้งอยู่ที่ 26/11 หมู่ที่ 1 ตำบลเหมาะ อำเภอกะปง จังหวัดพังงา หมายเลขโทรศัพท์ 091-039-2592