ปลูก “เงาะสีทอง” 90 ไร่ ที่ตราด ทำรายได้ปีละ 8-9 แสนบาท

เงาะ ปลูกในพื้นที่ภาคตะวันออกมากที่สุด ปี 2566 ผลผลิตเงาะรวม 274,879 ตัน ภาคตะวันออก 194,915 ตัน หรือ 71 เปอร์เซ็นต์ ภาคใต้ 55,743 ตัน หรือ 20 เปอร์เซ็นต์ และภาคอื่นๆ 24,221 ตัน ส่งออกต่างประเทศเพียง 10 เปอร์เซ็นต์ คือ เวียดนาม มาเลเซีย เมียนมา ปี 2565 ส่งออก 21,599,347 ตัน มูลค่า 434,558,215 บาท

คุณพิมหงษ์

จากสถานการณ์ที่ราคาทุเรียนพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ 4-5 ปีที่ผ่านมา เกษตรกรปรับเปลี่ยนพื้นที่เงาะปลูกทุเรียนเพิ่มขึ้น ข้อมูลจากสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร จากปี 2565 พื้นที่ยืนต้นรวม 104,819 ไร่ ปี 2566 เหลือเพียง 78,699 ไร่ ลดลง 22,042 ไร่ หรือ 21.03 เปอร์เซ็นต์ ผลผลิตจาก 216,420 ตัน เหลือ 141,115 ตัน ลดลง 34.80 เปอร์เซ็นต์ โดยจังหวัดจันทบุรี จาก 100,062 ตัน เหลือ 55,799 ตัน ลดลง 25.34 เปอร์เซ็นต์ จังหวัดตราด จาก 111,226 ตัน เหลือ 83,040 ตัน ลดลง 25.34 เปอร์เซ็นต์ จังหวัดระยอง จาก 5,132 ตัน เหลือ 2,276 ตัน ลดลง 55.65 เปอร์เซ็นต์

คุณพ่อไชยวัฒน์ และ คุณแม่อังคณา บุญยอมรรัตน์

จังหวัดตราด ยังมีพื้นที่ปลูกเงาะและให้ผลผลิตมากที่สุด เกษตรกรบางรายยังเห็นว่าการปลูกเงาะดูแลจัดการง่ายและต้นทุนไม่สูง ปลูกเป็นพืชค้ำยันกับทุเรียน มังคุด มีรายได้แน่นอนแม้จะไม่หวือหวาอย่างทุเรียน ถ้ามีตลาดส่งออกเติบโตขึ้นจะช่วยดันราคาให้สูงขึ้นได้ ปี 2566 เงาะช่วงต้นฤดูเปิดตลาด กิโลกรัมละ 50-60 บาทราคาสูงกว่าปีที่ผ่านมาเป็นปีทองทีเดียว เมื่อตลาดเวียดนามรับซื้อไม่อั้นขณะที่ปริมาณเงาะลดน้อยลง เงาะจังหวัดตราดที่ออกก่อนต้นฤดูและหมดรุ่นก่อนส่งออกได้ราคาดีเฉลี่ยกิโลกรัมละ 30-35 บาท คุณพิมหงษ์ บุญยอมรรัตน์ หรือ คุณส้ม เกษตรกรมือใหม่ อยู่หมู่ที่ 4 ตำบลช้างทูน อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด ยืนยันว่า “เงาะสีทอง” ราคาและตลาดน่าจะตอบรับดี และสร้างรายได้อย่างยั่งยืนหากทำคุณภาพ

คุณธนภัทร จาวินัส

คุณพิมหงษ์ เกษตรกรปลูกเงาะสีทอง เล่าว่า มาช่วย คุณพ่อไชยวัฒน์ คุณแม่อังคณา บุญยอมรรัตน์ ทำสวนทุเรียน เงาะ ก่อนหน้านี้ทำธุรกิจค้าขายอสังหาริมทรัพย์ที่พัทยา จังหวัดชลบุรี ด้วยเป็นลูกคนเดียวจึงต้องกลับมาทำสวนสืบทอดต่อจากพ่อแม่ ทั้งๆ ที่ไม่มีความรู้เรื่องทำสวนมาก่อน มาเรียนรู้จากเกษตรกรที่เก่งๆ ในจังหวัดจันทบุรี ตราด อ่านในโซเชียล และลงมือทำอย่างจริงจัง พื้นที่สวนขนาด 200 ไร่ คุณพ่อแบ่งทำสวนทุเรียน 100 ไร่ เงาะสีทอง 90 ไร่ 900 ต้น ได้เข้ามารับช่วงดูแลตั้งแต่ปี 2563 “เงาะสีทอง” เริ่มให้ผลผลิตปีที่แล้ว 27 ตัน แต่ราคาไม่สูง กิโลกรัมละ 17 บาท มีรายได้ 300,000 บาท ปีนี้ขึ้นปีที่ 2 มีถึง 4 รุ่น รุ่นแรก กิโลกรัมละ 27 บาท รุ่น 2-3 ที่ช่วงขาดเงาะ กิโลกรัมละ 34-55 บาท และรุ่นที่ 4 ตรงกับผลผลิตออกมากน่าจะราคาลงมาเหลือกว่า 20 บาท ผลผลิตปีนี้เพิ่มขึ้น 30-40 ตัน รายได้ประมาณ 800,000-900,000 บาท

“พื้นที่ปลูกเงาะถูกตัดโค่นไปปลูกทุเรียนกันมาก ปริมาณผลผลิตลดน้อยลง มองเห็นโอกาสราคาเงาะที่สูงขึ้นถ้าทำคุณภาพตลาดจะมาหาเราเอง รวมทั้งการดูแลบำรุงรักษาไม่ยุ่งยากและต้นทุนไม่สูงเหมือนทุเรียน” คุณพิมหงษ์ กล่าว

เงาะช่อไปเวียดนาม

วงรอบดูแลให้มีผลผลิต

เริ่มช่วงก่อนเก็บเกี่ยวผลรุ่นสุดท้าย

คุณพิมหงษ์ อธิบายว่า วงรอบดูแลเงาะให้มีผลผลิตในฤดูกาล คือ

  1. 1. เริ่มจากในช่วงก่อนเก็บเกี่ยวผลรุ่นสุดท้าย ใส่ปุ๋ยบำรุงต้น ใบ ดอกสร้างความพร้อม ใช้สูตรเสมอ 16-16-16 หรือ 15-15-15 รอบละ 20 วัน ใส่ 2 รอบ และปุ๋ยอินทรีย์ขี้ค้างคาว 1 รอบ 10 วัน ได้ทดลองใส่ปุ๋ยบำรุงต้นก่อนเก็บเกี่ยวจะช่วยทำให้ต้นสมบูรณ์เร็วขึ้นไม่ต้องรอระยะเวลา 15-20 วัน
  2. 2. การตัดแต่งกิ่งควรทำหลังการเก็บเกี่ยว และใส่ปุ๋ยสูตรเสมอ รอบ 2 ไปแล้ว
  3. 3. การเตรียมสร้างใบ ฉีดโฮอร์โมน ปุ๋ยน้ำ บำรุงต้น ใบ ทุกๆ 10-15 วัน เพื่อให้เงาะสร้างใบที่ 1 ใบที่ 2 ช่วงนี้อาจจะใส่ปุ๋ยอินทรีย์ขี้ค้างคาวหรือขี้ไก่ สลับกัน 20 วัน 1 รอบ
  4. 4. การเร่งใบ เป็นช่วงสำคัญที่จะทำใบสมบูรณ์พร้อมที่จะออกดอก การเร่งใบที่ 1, 2 ถึงใบที่ 3 จะตรงกับหมดช่วงฤดูฝนเข้าสู่ฤดูแล้ง ต้องให้อดน้ำ 10-20 วัน เพื่อให้แตกดอก เมื่อใบเริ่มเป็นตุ่มๆ จึงค่อยให้น้ำเพื่อให้ออกดอก ตรงนี้ต้องระวังถ้าพลาดจะแตกเป็นใบอ่อน และ
  5. 5. การบำรุงดอกให้ติดผล พ่นแคลเซียมโบรอนผสมกับออกซิน เพิ่มความสมบูรณ์ของดอก ช่วยเพิ่มบำรุงเกสรตัวผู้ เพื่อให้การผสมเกสรแข็งแรงออกดอกและติดผลดี เคล็ดลับเมื่อฉีดบำรุงเกสรตัวผู้ต้องเขย่าต้นไม่ให้เกสรติดกันเพราะจะทำให้เป็นขี้ครอก ผลติดกันแน่น และเมื่อติดผลพ่นแคลเซียมอะมิโนช่วยขยายผล ใส่ปุ๋ย 15-20 วันต่อครั้ง ถ้าไม่มีฝนให้น้ำระบบสปริงเกลอร์ครั้งหนึ่งประมาณ 40-60 นาที เมื่อออกดอก ใส่ปุ๋ย พ่นยา ให้อาหารทางใบ ระยะเวลาพัฒนาดอกเป็นผล 90 วัน
เงาะสีทอง

“เงาะสีทองราคาจะต่ำกว่าเงาะโรงเรียนกิโลกรัมละ 5-10 บาท แต่ในภาพรวมด้านการตลาดและผลผลิตเงาะสีทองจะดีกว่า เพราะออกก่อนเงาะโรงเรียน เปลือกมีความทนทานต่อสภาพอากาศ ใส่ปุ๋ย ให้น้ำ บำรุงดีๆ จะได้ผลโต น้ำหนักดี ผลขนาดใหญ่ 15-18 ผลต่อกิโลกรัม และขายเป็นเงาะช่อได้ราคาดี” คุณพิมหงษ์ กล่าว

แนวคิดคุณพิมหงษ์ที่ตั้งใจทำสวนเงาะว่า เริ่มต้นจากความพยายามเรียนรู้และนำความรู้ทั้งหมดมาประมวลเห็นว่าเงาะเป็นพืชที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่าแน่นอนก่อนจึงลงมือทำจริง การบริหารจัดการในรอบฤดูกาลผลิตเป็นเรื่องสำคัญ แต่ละปีจะจดปัญหาทุกระยะและนำมาแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้น มีปฏิทินกำหนดตารางการให้ปุ๋ย พ่นยา ให้น้ำ ตั้งแต่การเตรียมต้น บำรุงต้น บำรุงใบ-ดอก-การเก็บเกี่ยว ที่สำคัญการใส่ปุ๋ย พ่นยา ให้น้ำต้องให้ตามตารางเวลาและปริมาณที่พืชต้องการจริงๆ คือ ให้น้อยๆ แต่บ่อยๆ จะได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ ลูกโต น้ำหนักดี สีสวย รสชาติอร่อย เป็นที่ต้องการของตลาด

ตะกร้าบรรจุเงาะ ขนาด 13 กิโลกรัม

“ทำสวนเงาะต้องเรียนรู้ไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ปี 2565 เจอฝนชุกเงาะแตกใบ 2 ไม่แตกใบ 3 ได้ผลผลิตแค่ 27 ตัน และราคาถูก กิโลกรัมละ 17 บาท มาปีนี้มีช่วงฝนตกรอแตกใบ 3 จะใช้ยาฉีดตัดไปออกไป ปีนี้ผลผลิตออกดี มี 4 รุ่น ได้ราคาดี กิโลกรัมละ 30-34 บาท ขายให้สหกรณ์ส่งเสริมธุรกิจภาคเกษตรจังหวัดตราด จำกัด ทำเป็นเงาะช่อส่งตลาดเวียดนาม ปี 2567 ปลูกเงาะเพิ่มอีก 30 ไร่ 500 ต้น ต้องเตรียมขยายสระน้ำเพิ่มแยกกับทุเรียนไม่ให้เกิดภาวะขาดน้ำ จากประสบการณ์ทำสวนทุเรียนกับสวนเงาะไปด้วยกัน เงาะดูแลง่ายกว่ามาก และใช้ยาสารเคมีน้อย ที่สำคัญต้นทุนการผลิตต่ำ ถ้าปลูกมากๆ และทำเกรดส่งออกสร้างรายได้ที่เป็นกอบเป็นกำทีเดียว” คุณพิมหงษ์ กล่าว

ตะกร้าบรรจุเงาะ ไปเวียดนาม

ตลาดเวียดนามซื้อ รับไม่อั้น 

คุณธนภัทร จาวินัส ผู้จัดการสหกรณ์ส่งเสริมธุรกิจภาคเกษตรจังหวัดตราด จำกัด (บ้านเงาะตราด) และประธานแปลงใหญ่เงาะตำบลวังตะเคียน อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด และเกษตรกรเจ้าของสวนเงาะ อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด เล่าว่า เริ่มรับซื้อเงาะจากสมาชิกและเกษตรกรทั่วไปส่งไปเวียดนามมาตั้งแต่ปี 2551 ปริมาณเงาะภาคตะวันออกส่งไปเวียดนามประมาณ 180 ตู้ต่อวัน ปีนี้ช่วงต้นฤดูและขาดช่วงราคาสูงขึ้นถึงกิโลกรัมละ 50-60 บาท และราคาเฉลี่ยจะไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 20-30 บาท

ขนส่งจากสวน

ตลาดเวียดนามปีนี้มีพ่อค้าเข้ามาติดต่อซื้อเพิ่มขึ้น ภาคตะวันออกส่งออกเงาะกว่า 100,000 ตัน ถ้าขยายตลาดส่งออกได้จะช่วยดันราคาสูงขึ้น ส่วนตลาดภายในประเทศสหกรณ์มีการจำหน่ายในตลาดโมเดิร์นเทรด ตามที่กรมการค้าภายในส่งเสริม เงาะมีต้นทุนผลิตต่ำกิโลกรัมละ 8-9 บาท และการดูแลไม่ยุ่งยากน่าจะเป็นพืชทางเลือกของเกษตรกรที่แบ่งพื้นที่ปลูกเป็นโซนเพื่อการบริหารจัดการง่ายขึ้น และเงาะสีทองให้ผลผลิตอายุเพียง 3 ปีเศษ เร็วกว่าเงาะโรงเรียน ลักษณะผล ลูกใหญ่ เนื้อเยอะ น้ำหนักดี ผิวหนาโดนฝนจะไม่แตกง่าย เอาชนะราคาได้ แม้ราคาจะถูกกว่า กิโลกรัมละ 5-10 บาท

ขนส่งไปเวียดนาม

“สหกรณ์ฯ พยุงราคาเงาะเพื่อช่วยเกษตรกรปลูกเงาะส่วนหนึ่งอยู่ได้ ตลาดเวียดนามต้องมีระบบการบริหารจัดการให้ได้ราคาดี คือ 1. ช่วงระยะเวลาความต้องการของตลาด เช่น วันพระ ที่เวียดนามนิยมใช้เงาะผลไม้มีสีแดงไหว้ วันชาติเป็นเทศกาลเฉลิมฉลองถึง 5 วัน ต้องกะระยะเวลาและขนส่งไปถึงล่วงหน้า 3 วัน ข้อดีเงาะยืดอายุการเก็บเกี่ยวได้นานถึง 20 วัน 2. ควรขายเงาะช่อ ราคาแพงกว่าขายเป็นลูก กิโลกรัมละ 8-10 บาท และ 3. การทำให้ผลผลิตมีคุณภาพไปถึงผู้บริโภค ทำให้ราคาดีขึ้นและทรงตัว” คุณธนภัทร กล่าว