ผู้เขียน	สุรเดช สดคมขำ
เผยแพร่	วันพุธที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ.2566

กระบือ เป็นอีกหนึ่งสัตว์เลี้ยงที่สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรในหลายพื้นที่ เพราะการเลี้ยงสามารถกำหนดทิศทางและทำตลาดได้หลากหลายช่องทาง มีตั้งแต่การเพาะพันธุ์เพื่อส่งเข้าประกวด ตลอดไปจนถึงการผลิตเป็นลูกพันธุ์ดีจำหน่าย หรือส่งจำหน่ายไปยังตลาดเนื้อเพื่อบริโภคอีกหนึ่งช่องทาง จึงนับได้ว่ากระบือปัจจุบันไม่ได้เป็นเพียงสัตว์ที่คนทั่วไปมักมองว่าใช้แรงงานในเรื่องของการนำมาไถนา แต่ในเวลานี้เป็นอีกหนึ่งสัตว์เศรษฐกิจที่สำคัญสามารถเกิดประโยชน์และคุณค่าทางเศรษฐกิจให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงอย่างต่อเนื่อง  

คุณกิตติรัตน์ อินทนุ หรือ คุณโน่ เจ้าของ ก.กิตติรัตน์ ฟาร์มควายไทย ลำพูน เป็นอีกหนึ่งเกษตรกรที่ให้ความสนใจเรื่องของการเลี้ยงกระบือ โดยคุณโน่ได้หาซื้อพ่อพันธุ์กระบือที่มีโครงสร้างดีเข้ามาเลี้ยงในฟาร์ม เพื่อต่อยอดในการพัฒนาสายพันธุ์ให้ดียิ่งขึ้น จึงทำให้นอกจากการผสมพันธุ์กระบือภายในฟาร์มแล้ว ยังมีเพื่อนเกษตรกรในหลายพื้นที่ต้องการพัฒนากระบือภายในฟาร์มของตัวเอง นำแม่พันธุ์มาให้พ่อพันธุ์กระบือของคุณโน่ทำการผสม จึงช่วยให้คุณโน่เกิดรายได้ในช่องทางนี้

กระบือเลี้ยงง่าย

ทำเป็นอาชีพเสริมได้

คุณโน่ เล่าให้ฟังว่า สาเหตุที่เลือกเลี้ยงกระบือเกิดจากความชอบ เพราะจากการที่ได้ไปศึกษาและได้สัมผัสกระบือจากหลายๆ ที่ รู้สึกว่ากระบือเป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่าย และด้วยความที่มีอาชีพหลักที่ต้องทำอยู่แล้ว จึงได้มองว่ากระบือสามารถเลี้ยงเพื่อเป็นอาชีพเสริมได้ โดยที่ไม่ต้องเฝ้าหรือดูแลตลอดทั้งวัน แต่กระบืออยู่ในพื้นที่ที่กำหนดไว้และคุณโน่ใช้เวลาแค่ในช่วงเช้าและเย็นเท่านั้นเพื่อมาดูแล

“ผมมาเริ่มเลี้ยงกระบือตอนแรกๆ เพียง 2 ตัวเท่านั้น เพราะมีคนที่รู้จักเขามาฝากเลี้ยง พอมีเวลามากขึ้นและเรียนรู้อยู่กับกระบือไปนานๆ ยิ่งเห็นว่าเป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่าย พอได้เลี้ยงอย่างจริงจังประมาณ 2 ปี ก็เริ่มมองตลาดว่า เราควรจะกำหนดทิศทางไปในรูปแบบไหน คราวนี้ผมชอบในเรื่องของความสวยงาม ก็เลยศึกษาว่าต้องเอากระบือไทยตัวสวยๆ มาเพาะพันธุ์ เพื่อให้กระบือในฟาร์มมีโครงสร้างที่ใหญ่ ต้องเป็นกระบือที่มีลักษณะสูง จะได้สามารถส่งเข้าประกวดในงานต่างๆ ได้อีกด้วย” คุณโน่ บอก

การหาซื้อพันธุ์กระบือสวยงามมาไว้ในฟาร์มนั้น คุณโน่ บอกว่า ได้คัดเลือกพ่อพันธุ์ดีมาจากฟาร์มที่จังหวัดอุทัยธานี เพราะพื้นที่นี้มีสายพันธุ์กระบือสวยงามที่น่าสนใจ และสามารถนำมาสร้างเป็นพ่อพันธุ์เพื่อผสมกับแม่พันธุ์ที่อยู่ภายในฟาร์มได้ และมองต่อยอดไปถึงในเรื่องของการรับผสมพันธุ์ให้กับเพื่อนๆ เกษตรกรท่านอื่นด้วย

พัฒนาสายพันธุ์กระบือ

เพื่อให้มีโครงสร้างสูงใหญ่

ในเรื่องของการเลี้ยงและผสมพันธุ์กระบือให้ได้คุณภาพ คุณโน่ เล่าว่า ภายในฟาร์มจะเน้นใช้การผสมจริงเป็นหลัก เพราะโอกาสที่จะผสมติดค่อนข้างดีกว่าการผสมเทียม พร้อมทั้งรับจ้างนำแม่พันธุ์ของเกษตรกรท่านอื่นๆ เข้ามาผสมภายในฟาร์มด้วย ซึ่งการเลี้ยงกระบือภายในฟาร์มมีทั้งยืนโรงและปล่อยออกไปเดินเล่น หากปล่อยออกไปเดินเล่นจะปล่อยตั้งแต่เวลา 12.00-17.00 น.

โดยอาหารที่ให้กระบือกินเป็นหญ้าที่ติดต่อซื้อไว้กับเกษตรกรในพื้นที่ จึงทำให้การเลี้ยงกระบือไม่ได้รับความลำบากมากนัก เพราะสามารถหาซื้อหญ้าราคาไม่แพงเข้ามาเลี้ยงได้ตลอดทั้งปี ซึ่งการเลี้ยงเป็นอาชีพเสริมการจัดการที่ง่ายค่อนข้างมีความสำคัญ เพราะคุณโน่จะมีเวลามาดูแลกระบือในช่วงเช้าและเย็นเท่านั้น ส่วนเสาร์อาทิตย์ก็สามารถดูแลได้อย่างเต็มเวลา

การผสมพันธุ์กระบือจะเลือกแม่พันธุ์ที่มีความสูงอยู่ที่ 140 เซนติเมตรขึ้นไป และต้องเป็นแม่พันธุ์ที่มีอายุระหว่าง 2-3 ปี ซึ่งการผสมพันธุ์จะใช้พ่อพันธุ์ดีภายในฟาร์มเป็นหลัก โดยใช้วิธีการผสมจริงหรือถ้าหากเกษตรกรท่านอื่นอยากได้พ่อพันธุ์สายพันธุ์อื่น เพื่อนำมาผสมเข้ากับแม่พันธุ์ ทางคุณโน่จะหาน้ำเชื้อเข้ามาผสมให้ด้วยเช่นกัน สำหรับเกษตรกรท่านอื่นๆ หลังผสมจนตั้งท้องแล้ว จะมารับกระบือแม่พันธุ์กลับไปที่ฟาร์มทันที

“การนำกระบือจากเกษตรกรท่านอื่นเข้ามาผสม ทางเราก็จะช่วยดูแลในเบื้องต้น จนกว่าตัวผู้ของฟาร์มจะผสมติด พอผสมติดแล้ว ประมาณ 7 วัน ก็สามารถติดต่อขอรับกระบือไปดูแลเองได้เลย จากที่ได้ทำมาตลอด จะเห็นว่ากระบือเป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่าย ไม่ค่อยเกิดปัญหามากนัก เพราะฉะนั้นไม่ว่าผมจะเลี้ยงจากฟาร์มผมเองด้วย หรือนำของเกษตรกรท่านอื่นมาดูแลก็เรียบร้อยดี” คุณโน่ บอก

สำหรับการทำวัคซีนเพื่อป้องกันโรคให้กับกระบือภายในฟาร์มนั้น คุณโน่ บอกว่า จะมีการทำวัคซีนปากเท้าเปื่อยให้กระบือทุก 4 เดือนครั้ง และวัคซีนป้องกันโรคคอบวมทุก 6 เดือนครั้ง จากการมีแบบแผนและวางระบบการทำวัคซีนที่ชัดเจนนี้เอง จึงทำให้กระบือภายในฟาร์มมีสุขภาพที่แข็งแรงไม่เกิดการล้มตาย

สื่อโซเชียลมีเดีย มีความสำคัญ

ช่วยให้เกิดรายได้ง่ายขึ้น

การสร้างรายได้ที่เกิดจากการเลี้ยงกระบือภายในฟาร์ม คุณโน่ เล่าว่า ปัจจุบันสื่อโซเชียลมีเดียถือว่ามีความสำคัญมากต่อการทำตลาด เพราะฉะนั้นกิจกรรมต่างๆ ที่ทำอยู่ภายในฟาร์ม ตั้งแต่การดูแลพ่อพันธุ์กระบือและการจัดการฟาร์มทั้งหมด คุณโน่จะหมั่นโพสต์ลงสื่อออนไลน์อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้จะทำให้ลูกค้าสามารถเห็นและเกิดความไว้วางใจ จากนั้นก็จะบอกกันไปปากต่อปากทำให้พ่อพันธุ์กระบือสามารถสร้างรายได้ คือเกษตรกรรายอื่นๆ จะนำมาแม่พันธุ์เข้ามาผสมเพื่อให้ได้ลูกกระบือลักษณะดี

“การผสมพันธุ์กระบือเป็นแบบผสมจริง โดยลูกค้านำแม่พันธุ์มาเอง ผสมเสร็จแล้วก็นำกลับไป ราคาผสมจะคิดอยู่ที่ครั้งละ 3,000 บาท หากไม่ได้นำกลับไปทันที จะคิดค่าดูแลอยู่ที่วันละ 200 บาท ซึ่งการผสมจริงลูกค้ามั่นใจได้เลยว่าติด 100 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับการผสมเทียมบางครั้งน้ำเชื้ออาจจะผสมครั้งแรกอาจจะไม่ติด ตั้งแต่มาเลี้ยงกระบือโครงสร้างดี ต้องบอกเลยว่า ทำให้คนในแถบนี้ให้ความสำคัญมากขึ้น เพื่อการเลี้ยงจะได้สามารถพัฒนาและต่อยอดไปได้เรื่อยๆ อนาคตใครที่อยากจะเลี้ยง หากเลี้ยงแล้วมองตลาดไม่ออก ผมก็อยากจะบอกว่าตลาดกระบือสามารถไปได้หลากหลาย ตั้งแต่การส่งเข้าประกวดเป็นควายสวยงาม หรือจะเลี้ยงส่งเชือดสร้างรายได้ด้วยเช่นกัน” คุณโน่ บอก

เหนือสิ่งอื่นใดสำหรับการเลี้ยงกระบือให้ประสบผลสำเร็จ คุณโน่ แนะทิ้งท้ายว่า สิ่งแรกที่ต้องมีคือในเรื่องของการรักสัตว์ ถ้ามีใจรักและต้องการทำอย่างจริงจังความสำเร็จมีได้ไม่ยาก พร้อมกับศึกษาหาข้อมูลอยู่เสมอ ก็จะช่วยให้มีความรู้รอบด้านมากขึ้น หรือหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อสอบถามได้ที่ คุณกิตติรัตน์ อินทนุ หรือ คุณโน่ ฟาร์มตั้งอยู่เลขที่ 270/1 หมู่ที่ 7 ตำบลบ้านโฮ่ง อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน หมายเลขโทรศัพท์ 095-134-0075