เลี้ยงกุ้งเครย์ฟิช ส่งขายทั้งใน-ต่างประเทศ ทำรายได้เฉียดล้านต่อเดือน

กุ้งเครย์ฟิช หรือกุ้งก้ามแดง หรือล็อบสเตอร์น้ำจืด สัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่ที่น่าจับตามอง ลักษณะทั่วไปจะมีก้ามโต ลำตัวใหญ่ เปลือกหนา สีแดงเข้มน่ากินเมื่อทำให้สุก แต่รสชาติอย่าบอกใครเชียว เป็นเมนูระดับภัตตาคารที่เป็นที่ต้องการของตลาดสูงมากในตอนนี้ และกำลังทำให้หนุ่มวัย 30 ปี อย่าง คุณจักรกฤษณ์ พิศาลเดช หนุ่มจากอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ผู้ประสบความสำเร็จที่เป็นทั้งผู้เลี้ยงและผู้รับซื้อในตอนนี้ที่มีคำสั่งซื้อกว่า 2,000 กิโลกรัมต่อวัน

คุณจักรกฤษณ์ได้ทำมาหลากหลายอาชีพ และมองหาตลาดที่ไม่ค่อยมีคนเริ่มคือ กุ้งเครย์ฟิช ที่ไม่ค่อยมีคนเริ่มเลี้ยงมากในตอนแรก จนปัจจุบันขายส่งทั่วไทยและประเทศเพื่อนบ้าน เช่น พม่า กัมพูชา ลาว ส่งออก 70 เปอร์เซ็นต์ อีก 30 เปอร์เซ็นต์ส่งภายในภัตตาคารในไทย จุดเริ่มต้นของผมเริ่มเลี้ยงตั้งแต่ปี 2557 ทำมาด้วยความตั้งใจ และเริ่มขยับขยายช่วงปลายปี 2558 เริ่มด้วยบ่อปูนตามรูป จนถึงปัจจุบันเป็นทั้งผู้เลี้ยงและผู้รับซื้อและมีตลาดส่งอยู่ในมือ เริ่มจากความตั้งใจและความซื่อสัตย์ต่อลูกค้า จึงเกิดความเชื่อถือเชื่อมั่นจนประสบความสำเร็จจนถึงปัจจุบันนี้

กุ้งเครฟิชตัวเป็นๆสดๆ เตรียมแพคส่งลูกค้าประเทศเพื่อนบ้าน

กุ้งเครย์ฟิชทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น คนรอบข้างมีความสุข

“ที่ไหนมีร้านอาหารจีนและคนจีนอาศัยอยู่ยิ่งทำให้ยอดขายกุ้งดี เพราะตามภัตตาคารจีน หรือจะเรียกเป็นกุ้งส่งขายตลาดบนก็ว่าได้ เพราะมีอัตราการตายต่ำมาก เป็นกุ้งที่ค่อนข้างทน เลี้ยงง่าย รสชาติดี”

“ผมหันมาเลี้ยงกุ้งเครย์ฟิช มีคำสั่งซื้อมามากจนไม่พอขาย ผมจึงแจกจ่ายให้แก่เกษตรกรที่สนใจเลี้ยงสร้างรายได้มารวมกลุ่มกันเพื่อส่งขาย จนปัจจุบัน รวบรวมส่งขายวันละ 2,000 กิโลกรัมยังไม่พอขาย เพราะมีคำสั่งซื้อเพิ่มมาอีก ผมอยู่ในทุกช่วงเวลาของวงการกุ้งทุกวันนี้ผมไม่ได้เลี้ยงกุ้งแล้ว ผมมีหน้าที่ทำการตลาดกุ้งให้ดีก็พอ แบ่งปันความรู้ วิธีการเลี้ยง สร้างรายได้กว่าจะมาถึงวันนี้มันไม่ได้ง่ายเลยครับ ทุกอย่างต้องใช้เวลา และความซื่อสัตย์ ความรับผิดชอบ จงทำหน้าที่ตัวเองให้ดีก็พอ เริ่มจากความชอบ ทำด้วยใจทุกอย่างดีแน่นอน กุ้งเครย์ฟิชทำให้ผมและคนรอบข้างมีรายได้มีความสุข”

คุณจักรกฤษณ์ กับการจัดเตรียมกุ้งเพื่อส่งขายลูกค้า

“จุดเริ่มต้นของผม กะละมัง 3 ใบ เริ่มเลี้ยงปี 2557 ทำมาด้วยความตั้งใจ และเริ่มขยับขยายช่วงปลายปี 2558 มีบ่อปูนตามรูปที่โพสต์ช่วงเวลานั้นราคากุ้งดีมากๆ ครับ เอาง่ายๆ ขายกันจนรวยถ้าใครมีกุ้งเยอะในตอนนั้น หลังจากนั้นไม่กี่ปีคนเริ่มเลี้ยงกันเยอะขึ้น กุ้งก็เยอะขึ้น การแข่งขันสูงขึ้นราคาก็ตกลงมา ทำให้คนเลิกเลี้ยงกุ้งไปหลายราย แต่มาตอนนี้กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งหนึ่ง เพราะว่าการขยายการค้าของชาวจีน ทั้งแถบพม่า ไทย ลาว และเขมร และไม่น่าเชื่อว่า ตลาดขายส่งที่พม่าจะสั่งกุ้งเครย์ฟิชเป็นจำนวนมาก ยอดสั่งซื้อสูงมาเป็นอันดับแรก เพราะว่าชาวจีน ไชน่า หรือจีนแผ่นดินใหญ่อาศัยอยู่ในพม่าจำนวนมาก และส่วนใหญ่นิยมกินกุ้งเครย์ฟิชเพราะเป็นกุ้งสดตัวเป็นๆ รสชาติดี เนื้อจะเด้งกรอบ ไม่เหนียว ทนต่อการขนส่งได้ดี ทำเงินให้ต่อเดือนอยู่ได้สบาย กุ้งเครย์ฟิชได้มีการเลี้ยงในประเทศไทยมานานหลายปีแล้ว แต่ยังไม่เป็นที่นิยมทั่วไป เพราะว่าคนไทยส่วนใหญ่ถ้ากุ้งน้ำจืดแล้วจะนิยมกุ้งก้ามกราม สำหรับประเทศไทยกุ้งเครย์ฟิช คนไทยรู้จักกันในชื่อ กุ้งก้ามแดง ซึ่งก่อนหน้านี้นิยมเพาะเลี้ยงเป็นสัตว์สวยงามในตู้โชว์ ซึ่งมีราคาตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่น ยิ่งกุ้งมีสีสันสวย ก็จะยิ่งมีราคาแพง”

คุณจักรกฤษณ์ กับกล่องโฟมแพคกุ้งเตรียมส่งลูกค้า

แต่ในปัจจุบันความนิยมดังกล่าวลดลง และก็ได้รับความนิยมในร้านอาหารแทน โดยเฉพาะภัตตาคารอาหารจีนในไทย ชาวจีนนิยมกินกุ้งเครย์ฟิชมากเพราะว่ารสชาติดี ไม่เหนียวเหมือนล็อบสเตอร์น้ำเค็ม มีความหวานหนึบ

กุ้งเครฟิชไซค์ใหญ่ ก้ามจะคล้ายล๊อบสเตอร์

ไม่น่าเชื่อว่ากุ้งเครย์ฟิชเพาะเลี้ยงได้ดีในบ้านเราและแถบอีสาน

“ใช่ครับ เพราะว่าเริ่มต้นเลี้ยงและตลาดรับซื้อส่วนใหญ่อยู่ในแถบอีสาน ทำให้ง่ายต่อการติดต่อขนส่ง และมีกลุ่มผู้เลี้ยงที่รวบรวมส่งตลาดใหญ่และผู้รับซื้ออยู่ในย่านนี้ เป็นปัจจัยหนึ่งที่รวบรวมง่ายโดยเฉพาะเรื่องการขนส่ง เพราะกลุ่มเพาะเลี้ยงของผมส่วนใหญ่อยู่ในแถบอีสาน ก็จะประหยัดเรื่องค่าใช้จ่ายในการขนส่ง และการรวบรวมในการรับซื้อ แต่กุ้งเครย์ฟิชเลี้ยงได้ทั่วทุกภาคของไทย

กุ้งเครฟิชไซค์ใหญ่ ก้ามจะคล้ายล๊อบสเตอร์

กุ้งเครย์ฟิช (Crayfish) เป็นกุ้งน้ำจืดจำพวกหนึ่ง มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาเหนือ ทวีปยุโรป และบริเวณใกล้เคียงและแหล่งกำเนิดแถบเอเชีย ได้แก่ ประเทศอินโดนีเซีย แถบออสเตรเลียก็มีเช่นกัน กุ้งเครย์ฟิชหรือกุ้งก้ามแดงเป็นกุ้งชนิดแรกที่ถูกนำเข้ามาในประเทศไทย โดยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่งทรงทดลองเลี้ยงเพื่อเป็นอาหาร เพราะเป็นกุ้งที่มีการเจริญเติบโตค่อนข้างเร็วและมีขนาดใหญ่ ลักษณะเด่นคือ มีขนาดใหญ่และสีของกุ้งมีการเปลี่ยนแปลงตลอด แต่สีที่พบมากที่สุดคือ สีเขียว สีน้ำตาล และสีน้ำเงิน ซึ่งคนไทยจะเรียกว่า บลู ล็อบเตอร์ บางที่ก็เลี้ยงไว้เพื่อความสวยงามแล้วนำจำหน่ายได้ในราคาสูง

สีสันและความสดความแข็งแรงของกุ้งเครฟิชในบ่อพัก

กุ้งชนิดนี้มีจุดเด่นอีกอย่างคือ แถบข้างของก้ามจะมีสีแดงและสีส้ม เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ซึ่งแถบสีเหล่านี้จะพบกับกุ้งเพศผู้เท่านั้น ส่วนเพศเมียจะไม่มีแถบสี กุ้งชนิดนี้เลี้ยงง่าย ปรับตัวได้ไวและภูมิต้านทานโรคสูง ปัจจุบันเกษตรกรนำมาเลี้ยงเป็นกุ้งเนื้อ และเป็นที่ต้องการของตลาด

เตรียมเปลี่ยนน้ำให้กับกุ้งเครฟิชเพื่อความสะอาดของบ่อ

การเพาะเลี้ยงกุ้งเครย์ฟิชเพื่อเศรษฐกิจ ต้องทำอย่างไรบ้าง

การเพาะเลี้ยงใช้เวลาไม่นานก็ขายได้แล้ว และต้นทุนต่ำ โดยเฉพาะการเลี้ยง ผมจะแนะนำให้ผู้เพาะเลี้ยงเพาะลูกกุ้งขึ้นเอง จะทำให้ลดต้นทุน แต่ขั้นตอนแรกหรือเริ่มเพาะเลี้ยงใหม่ๆ ก็อาจจะซื้อลูกกุ้งมาเลี้ยงครั้งต่อไปก็เพาะลูกกุ้งได้เอง ผมจะสอนวิธีเพาะลูกกุ้งซึ่งง่ายมาก เปอร์เซ็นต์ให้ลูกของกุ้งเครย์ฟิชมีมาก โอกาสรอดสูงมากถึงเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ ใช้เนื้อที่น้อยก็เพาะเลี้ยงได้ เลี้ยงได้ทั้งบ่อปูนและบ่อดิน แต่กุ้งเนื้อส่วนใหญ่จะลงบ่อดินที่ไม่จำเป็นต้องให้ออกซิเจนในน้ำกุ้งก็อยู่ได้

บ่อดินสำหรับเพาะเลี้ยงกุ้งเนื้อ ต้องวางกระเบื้อง ซาแรน ให้สูงขึ้นมาประมาณ 20 เซนติเมตร เพื่อให้กุ้งซ่อนตัว

เนื้อที่ 7 ไร่ สร้างรายได้กว่า 100,000 บาทต่อเดือน

ถ้ามีเนื้อที่ประมาณ 7 ไร่ สามารถสร้างรายได้กว่า 100,000 บาทต่อเดือน แม่กุ้ง 1 ตัว จะให้ไข่ 400-800 ฟอง กุ้งที่นิยมของตลาดอยู่ที่ ขนาด 20-25 ตัวต่อกิโลกรัม ใช้เวลาเพาะเลี้ยงจากลูกกุ้งความยาว 2.5-3 เซนติเมตร 4 เดือนก็เก็บขายได้แล้ว แต่ถ้าเพาะเลี้ยงเกิน 1 ปีขึ้นไปขนาดกุ้งจะอยู่ที่ตัวละ 2-3 ขีด ก็จะได้ราคากิโลกรัมละหลายร้อยบาท เรียกว่ากุ้งไซซ์ล็อบสเตอร์ก็เป็นที่นิยมมากเช่นกัน อัตราการเลี้ยงอยู่ที่ตารางเมตรละ 5 ตัว เช่น เนื้อที่ 1 งาน จะอยู่ที่ 2,000-2,500 ตัว

ทำแบบมุงแสลนให้สูงเหนือน้ำแบบนี้ก็ได้เพื่อการพรางตัวเช่นกัน

เป็นที่น่าตื่นเต้นว่า กุ้งเครย์ฟิชนั้นเป็นสัตว์เลี้ยงที่เพาะเลี้ยงง่าย ต้นทุนต่ำ อัตราการรอดสูง แต่ถ้าเริ่มจากเพาะเลี้ยงลูกกุ้ง ขนาด 2-3 เซนติเมตรใช้เวลาเลี้ยงเพียง 4 เดือนก็จับขายได้แล้ว ทุกวันนี้กลุ่มเพาะเลี้ยงกุ้งเครย์ฟิชแถบอีสาน มีร่วมหลายร้อยไร่ ผู้เลี้ยงเกือบๆ ร้อยคน ก็ยังไม่พอขาย

การเลี้ยงกุ้งเครย์ฟิชทำเงินนั้น ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ และเป็นการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ต้นทุนน้อย และเป็นสัตว์น้ำที่ทนต่อสภาพอากาศได้เป็นอย่างดี อันดับแรกรักอาชีพเกษตร หรือใช้เวลาว่างหลังเลิกงานทำเป็นอาชีพเสริม ถ้ามีการเริ่มก็จะเริ่มมีประสบการณ์ และสอบถามผู้รู้ที่มีประสบการณ์และดูงานก่อน ศึกษาเรียนรู้จากผู้เพาะเลี้ยงก่อนหน้านี้ เพราะกุ้งเครย์ฟิชจะเป็นกุ้งที่เลี้ยงแล้วมีผู้รับซื้อ หรือจะขายด้วยตนเองก็ได้ เป็นสัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่ที่อยู่ตามตลาดบนก็ว่าได้ เพราะตลาดทั่วไปยังไม่ค่อยมีขาย จึงยังไปได้อีกไกล

กุ้งเครฟิชในบ่อต้องใส่ท่อพีวีซีเพื่อกุ้งพรางตัว

วิธีการเลี้ยง

เตรียมบ่อปูนไว้ 3 บ่อ บ่อผสม บ่อพักกุ้ง บ่ออนุบาล บ่อปูนขนาดตามความต้องการ โดยอัตราการปล่อยพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ลงบ่อผสม เฉลี่ยตาราเมตรละ 10 ตัว แม่พันธุ์ 100 ตัวต่อพ่อพันธุ์ 50 ตัว ส่วนบ่อพักเพื่อรวบรวมกุ้งจากเกษตรกรรายย่อย เพื่อรวมกันส่งขายต่อไปยังลูกค้า บ่อที่ 3 คือบ่ออนุบาล ไว้สำหรับเพาะเลี้ยงลูกกุ้งใช้เวลา 45 วัน ความยาวจะอยู่ที่ 2.5-3 เซนติเมตร แต่การเลี้ยงกุ้งเครย์ฟิช จะต้องมีท่อพีวีซี ตัดเป็นท่อนลงในบ่อเพื่อการพรางตัวของกุ้งสายพันธุ์นี้ ก่อนที่จะนำลงบ่อดิน เพื่อทำเป็นกุ้งเนื้อส่งตลาดใช้เวลา 4 เดือนก็จับขายได้น้ำหนักตัวจะอยู่ที่ 20-25 ตัวต่อกิโลกรัม การให้ออกซิเจนให้ในบ่อปูนเท่านั้น ส่วนบ่อดินไม่ต้องใช้

ต้องเปลี่ยนน้ำทำความสะอาดบ่อพักกุ้ง

กุ้งเครย์ฟิชสามารถกินอาหารได้เกือบทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นพืชผัก เศษเนื้อสัตว์ หรือให้อาหารเม็ดสำเร็จรูปชนิดจมก็ได้ เพื่อความสะดวก แต่ไม่ควรให้อาหารบ่อย 2-3 วัน ให้ครั้งหนึ่งก็พอ และควรให้น้อยๆ แต่พอดี เพื่อป้องกันการตกค้างของอาหาร ซึ่งจะทำให้น้ำเน่าเสีย ส่งผลต่อการเกิดโรคได้ และควรให้อาหารในเวลากลางคืน เพราะตามธรรมชาติ กุ้งเครย์ฟิชเป็นสัตว์ที่หาอาหารกินในเวลากลางคืน

กุ้งเครฟิชที่มีไข่เต็มท้องถึงประมาณ400 800 ตัว

การเพาะพันธุ์ลูกกุ้งด้วยตนเองเพื่อลดต้นทุน ง่ายนิดเดียว

สำหรับการเพาะพันธุ์ลูกกุ้งเครย์ฟิชนั้นไม่ยาก เพราะสามารถผสมพันธุ์ได้ตลอดทั้งปี และสามารถขยายพันธุ์ได้ง่าย เพียงนำกุ้งเครย์ฟิชตัวผู้กับตัวเมียมาปล่อยรวมกัน เฉลี่ยตัวเมีย 100 ตัวต่อตัวผู้ 50 ตัว แต่ต้องมั่นใจว่าเป็นตัวผู้กับตัวเมีย โดยสังเกตที่อวัยวะสืบพันธุ์ตรงช่วงขาเดิน กุ้งตัวผู้มีอวัยวะคล้ายตะขอบริเวณขาเดินคู่ที่สองและสาม ซึ่งตะขอนี้เอาไว้เกาะตัวเมียตอนผสมพันธุ์ ส่วนตัวเมียจะมีอวัยวะสืบพันธุ์เป็นแผ่นทรงวงรีบริเวณขาเดินคู่ที่ 3

รวบรวมกุ้งจากกุลุ่มเกษตรกร

กุ้งเครย์ฟิชใช้เวลาผสมพันธุ์นานกว่า 10 นาที หลังจากนั้นสามารถย้ายกุ้งตัวเมียไปยังตู้อนุบาลได้ เพื่อเป็นการเตรียมที่อยู่สำหรับลูกกุ้ง หลังจากนั้น ตัวเมียจะทยอยผลิตไข่ขึ้นมาไว้บริเวณขาว่ายน้ำเป็นกระจุก มองคล้ายพวงองุ่น หลังจากที่ไข่ได้รับการปฏิสนธิแล้ว โดยเฉลี่ยไข่จะพัฒนาจนเป็นตัวอ่อนเหมือนโตเต็มวัยภายใน 3-4 สัปดาห์ หลังจากนั้นลูกกุ้งจะถูกปล่อยให้ว่ายน้ำเป็นอิสระ ในการผสมพันธุ์แต่ละครั้งแม่กุ้งสามารถให้กุ้งได้มากถึง 400-800 ตัว ซึ่งพ่อแม่กุ้งไม่มีพฤติกรรมกินลูกกุ้งเป็นอาหาร และลูกกุ้งก็จะอยู่ไม่ห่างพ่อแม่นัก เพื่อคอยเก็บเศษอาหารที่เหลือจากพ่อแม่กินเป็นอาหารนั่นเอง การเพาะพันธุ์ลูกกุ้งเลี้ยงต่อเองเป็นการประหยัดต้นทุนซื้อลูกกุ้ง

คุณจักรกฤกษณ์ กับกล่องจัดส่งกุ้งเครฟิชเป็นๆที่เตรียมส่งลูกค้าประเทศเพื่อนบ้าน

การตลาดและการขนส่ง

การขนส่ง กุ้งเครย์ฟิชเราจะส่งถึงมือผู้รับภายใน 24 ชั่วโมง กุ้งยังสดและเป็นอยู่ การขนส่งก็ใส่กล่องโฟม บรรจุน้ำแข็งก้อนใส่เพียงเล็กน้อยเพื่อรักษาอุณหภูมิภายในกล่องให้คงที่ ตั้งแต่ผมทำมาก็ไม่เกิน 24 ชั่วโมง ยังไม่เคยเจอปัญหาล่าช้ากว่านี้ อีกทั้งเป็นข้อดีของสายพันธุ์ที่ทนต่อการตายในขณะที่อยู่ในกล่องโฟมได้ดี

ต้องการสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ คุณจักรกฤษณ์ พิศาลเดช ชื่อเพจเฟซบุ๊ก : พิศาลเดชฟาร์มกุ้งก้ามแดง เบอร์โทร. 090-541-5462