กรมข้าว คลอดข้าว 10 สายพันธุ์ใหม่ ลุยทวงแชมป์ข้าวโลก

กรมข้าว เตรียมคลอด ข้าว 10 สายพันธุ์ใหม่ ทวงแชมป์ข้าวโลก ชูคุณภาพดี ตรงตามความต้อง ชาวนาและผู้บริโภค รมต. สั่งวิจัยพัฒนา เน้นทนแล้ง-ทนน้ำท่วม

วันที่ 27 ก.พ.2567 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตร และ สหกรณ์ เปิดเผยว่า มอบหมายให้กรมการข้าว ดำเนิการวิจัยและพัฒนาพันธุ์ข้าวเพื่อให้ได้พันธุ์ข้าวพันธุ์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของชาวนาในทุกมิติ อาทิ ข้าวที่ให้ผลผลิตดีภายใต้สภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม ข้าวคุณภาพสูง ข้าวหอม ข้าวโภชนาการสูง ข้าวเหนียวคุณภาพดี หรือแม้แต่ข้าวญี่ปุ่น รวมไปถึงธัญพืชเมืองหนาว

งานวิจัยของกรมการข้าว ดำเนินการภายใต้งบประมาณการวิจัยที่จำกัด แต่จะเห็นได้ว่ากรมการข้าวมีการวางแผนการรับรองพันธุ์ข้าวในทุกปี อย่างน้อยปีละ 4-5 พันธุ์ ซึ่งพันธุ์ข้าวใหม่ๆ ที่จะรับรองพันธุ์นั้นต้องเร่งรัดงานวิจัยพัฒนาให้สามารถทนแล้ง และ ทนน้ำท่วมได้ในพันธุ์เดียวกัน

อีกทั้งมีความเหมาะสมในการปลูกแต่ละนิเวศของการปลูกข้าวในประเทศไทย ตลอดจนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อให้มีโอกาสแข่งขันกับประเทศคู่แข่งได้

นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่า เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 มีพระชนมพรรษาครบ 72 พรรษา กรมการข้าวจึงน้อมสำนึกในพระมหาธิคุณ และเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจแก่เกษตรกรชาวนา จึงเตรียมรับรองพันธุ์ข้าว 10 สายพันธุ์ ช่วงเดือนเม.ย.2567 และทุกสายพันธุ์จะมีเมล็ดพันธุ์เพียงพอ รองรับความต้องการของชาวนาทั่วประเทศ

“เตรียมเจรจากับเอกชน ผู้ที่เกี่ยวข้องในการส่งออกข้าวไทย และที่เกี่ยวข้องกับการส่งข้าวประกวดชิงแชมป์โลก เพื่อทวงแชมป์ข้าวโลกกลับมาไว้ในเมืองไทย ให้ชาวนาไทยให้ได้ และเชื่อว่าสายพันธุ์ใหม่ๆที่มีการวิจัยและพัฒนาโดยกรมการข้าว น่าจะสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลกแน่นอน”

นายณัฏฐกิตติ์ กล่าวว่า พันธุ์ข้าวทั้ง 10 สายพันธุ์ มีความหลากหลายประเภท ทั้งข้าวขาวพื้นนุ่ม ข้าวขาวพื้นแข็ง ข้าวหอมไทย ข้าวเหนียว ข้าวญี่ปุ่น ข้าวพื้นเมือง และข้าวสาลี ซึ่งข้าวแต่ละประเภทจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันตามการนำไปใช้ประโยชน์

อาทิ ข้าวขาวพื้นแข็ง อายุสั้น 90 -100 วัน ให้ผลผลิตสูงกว่าพันธุ์ข้าวทั่วไป 10-15 % ศักยภาพการให้ผลผลิต 1,000-1,200 กิโลกรัมต่อไร่ ต้านทานต่อโรคขอบใบแห้ง และเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลทนทานต่อสภาพน้ำท่วม ฉับพลัน สภาพอากาศเย็น

ข้าวเหนียว มีทั้งหมด 2 สายพันธุ์ ประกอบไปด้วย

สายพันธุ์ RGDU10017-1-MAS-49-4-1-NK-1-3-1-2 เสนอเป็นพันธุ์รับรองชื่อ กข24 (สกลนคร 72) เป็นข้าวที่ไวต่อช่วงแสง ลำต้นเตี้ย ต้านทานการหักล้ม ทำให้ลดการ สูญเสียผลผลิตระหว่างการเก็บเกี่ยว

สายพันธุ์ CRI1 3055-1-1-2-1 เสนอเป็นพันธุ์รับรองชื่อ กข26 (เชียงราย 72 ไม่ไวต่อช่วงแสง อายุสั้น ผลผลิตสูงกว่าข้าวเหนียวทั่วไปที่นิยมปลูก 13-15 %

พร้อมทั้งข้าวสายพันธุ์นี้ สามารถปลูกได้ปีละ 2 ครั้ง จะเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีสำหรับให้เกษตรกรได้ใช้ปลูก เพื่อเพิ่มรายได้ให้มีมากขึ้น ข้าวขาวพื้นนุ่ม เกษตรกรสามารถเลือกใช้พันธุ์ข้าวเพื่อทดแทนการปลูกข้าวขาว พื้นนุ่ม ที่ไม่ไวต่อช่วงแสง เช่น พันธุ์ปทุมธานี 1 ที่ปัจจุบันประสบปัญหาหลายด้าน คุณภาพ การขัดสีลดลงอย่างมากทำให้การขายข้าวดังกล่าวในปัจจุบันได้ราคาลดลง

อีกทั้งอายุการ เก็บเกี่ยว 120 วัน อาจยาวนานไปสำหรับเกษตรกร ที่ต้องการพันธุ์ ข้าวที่มีอายุสั้นกว่า 120 วัน หากมีพันธุ์ข้าวที่มีคุณภาพหุงต้มใกล้เคียงกัน มีผลผลิตสูงกว่า และอายุสั้นกว่า เกษตรกรอาจมีทางเลือกในการเลือกปลูกข้าวขาวพื้นนุ่มได้ตลอดทั้งปี เพื่อยกระดับการ แข่งขันในด้านการส่งออก ของข้าวหอม พื้นนุ่ม ของประเทศไทยในตลาดโลกได้อย่างมี ประสิทธิภาพมากขึ้น

“นอกจากประเภทข้าวที่กล่าวมาแล้ว ยังมีข้าวประเภทอื่น ที่ยังพัฒนา ผลผลิต หรือคุณภาพมาทดแทน พันธุ์เดิมเพื่อใช้ประโยชน์ในการแปรรูป หรือใช้สำหรับบริโภคเฉพาะในแต่ละภูมิภาค เพื่อยกระดับการแข่งขัน ในตลาดโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สามารถผลิตข้าวได้ตรงตามความต้องการของตลาดทั้งภายในและ ต่างประเทศ ตลอดจนสร้างมูลค่าเพิ่มของประเทศจากการส่งออกข้าวคุณภาพต่อไป”

ขอบคุณข้อมูลจาก : ข่าวสด