เผยผลตรวจเบื้องต้น’แคปซูลสมุนไพรมะเร็ง’ ไม่พบ’จุลินทรีย์-สิ่งปนเปื้อน’

จากกรณีมีผู้ป่วยโรคมะเร็งจำนวนมากเดินทางไปเข้าคิวรับสมุนไพรเพื่อหวังรักษาโรคมะเร็งที่บ้านในบริเวณ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ซึ่งจะได้รับแคปซูลสมุนไพรเป็นจำนวน 6 เม็ด โดยต้องเตรียมเอกสารคำวินิจฉัยโรคมะเร็ง ใบรับรองแพทย์ตัวจริง ทะเบียนบ้านตัวจริง บัตรประชาชนตัวจริง พร้อมใบแจ้งความที่ สภ.อ.ปราจีนบุรี ว่าจะไม่เอาผิดกับผู้แจกยา จนทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ปราจีนบุรี กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ต้องไปตรวจสอบและนำเอาตัวแคปซูลดังกล่าวไปตรวจหาสารออกฤทธิ์ ขณะที่ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กำชับประชาชนอย่าหยุดการรักษาแพทย์แผนปัจจุบันที่รักษาอยู่นั้น ปรากฏว่าทางด้านผู้ผลิตและแจกแคปซูลยืนยันว่าไม่ได้ทำผิดกฎหมาย เพราะไม่ได้อ้างการรักษา และไม่ได้ผลิตเป็นโรงงานขนาดใหญ่

ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ได้รับข้อมูลจากทางนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) ปราจีนบุรี ว่าจากการนำแคปซูลสมุนไพรส่งตรวจยังศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ชลบุรี เบื้องต้นตรวจไม่พบสิ่งปนเปื้อน หรือจุลินทรีย์ใดๆ แต่สิ่งสำคัญต้องตรวจหาสารในตัวแคปซูลว่าเป็นสารอะไรด้วย และมีสเตียรอยด์หรือไม่ ซึ่งขณะนี้เป็นหน้าที่ของทางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ซึ่งผลการพิสูจน์สารอื่นๆ จำเป็นต้องใช้เวลาอีกสักพัก อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้คงทำได้เพียงเตือนให้ประชาชนระวังในการใช้ และขอย้ำเหมือนเดิมว่า อย่าหยุดการรักษาแพทย์แผนปัจจุบัน เพราะอย่าลืมว่ามะเร็งมีหลายชนิด การรักษามีความแตกต่างกัน

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีผู้ป่วยมะเร็งมองว่าการรักษาแพทย์แผนปัจจุบันไม่ดีขึ้น และไปหาหมอบางรายก็ไม่ระบุว่าป่วยด้วยโรคอะไร นพ.โอภาสกล่าวว่า ต้องมีการสื่อสารให้ความรู้ประชาชนเพิ่มเติม รวมทั้งต้องสื่อสารกับบุคลากรในเรื่องการสื่อสารทำความเข้าใจกับผู้ป่วย เพราะหลายเรื่องก็มาจากการสื่อสารที่อาจคลาดเคลื่อนได้

ด้าน นพ.วันชัย สัตยาวุฒิพงศ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า ในเรื่องของการผลิตนั้น ต้องไปดูรายละเอียด เพราะหากเป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายก็ต้องแจ้งกับทาง อย. โดยผ่านทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ปราจีนบุรี ซึ่งจะทราบข้อมูลต่างๆ

 

“อีกประเภทคือ สมุนไพรที่ออฤทธิ์ฆ่าเซลล์มะเร็ง ซึ่งมีการศึกษาวิจัยกันเยอะ เช่น สูตรตำรับเบญจอำมฤตย์ ซึ่งอยู่ระหว่างทำการศึกษาวิจัยในมนุษย์ ในกลุ่มผู้ป่วยโรคมะเร็งตับในระดับคลินิกเพื่อยืนยันผลของยาเบญจอำมฤตย์ตามมาตรฐานสากล โดยทำใน รพ.การแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน ซึ่งกำลังเปิดรับอาสาสมัครที่ป่วยเป็นมะเร็งตับตั้งแต่ขณะนี้ไปจนถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2560 ไม่จำกัดจำนวน โดยมีข้อแม้ว่าจะต้องเป็นผู้ป่วยที่ได้รับวินิจฉัยแล้วว่าป่วยเป็นมะเร็งตับ ได้รับการรักษาด้วยศาสตร์การแพทย์แผนปัจจุบัน ซึ่งการวิจัยจะมีการใช้ยาตำรับเบญจอำมฤตย์ร่วมกับการรักษาแผนปัจจุบัน คาดว่าน่าจะได้ผลการศึกษาในอีกประมาณ 2 ปี” นพ.ปราโมทย์กล่าว

 

ที่มา : มติชนออนไลน์