อุทยานฯ คุมเข้มเหล้า-เบียร์เข้าพื้นที่

เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) รับมอบป้ายประชาสัมพันธ์อุทยานแห่งชาติเขตปลอดสุรา จากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) และสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) เพื่อนำไปใช้เป็นสื่อรณรงค์และติดประชาสัมพันธ์ห้ามนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าในพื้นที่อุทยานและวนอุทยานทุกแห่งทั่วประเทศ

นายธัญญา เปิดเผยว่า สำหรับการเตรียมความพร้อมรับมือนักท่องเที่ยวช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งขณะนี้ต่างชาตินิยมมาเที่ยวชมธรรมชาติมากขึ้น นักท่องเที่ยวมีการจองที่พักในอุทยานฯ เต็มทุกพื้นที่แล้ว กรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้เตรียมความพร้อมด้านการท่องเที่ยว ที่พัก ห้องน้ำ ความปลอดภัย ความสะอาด การกำจัดขยะ แต่สิ่งที่กังวลใจมากที่สุด คือ การส่งเสียงดัง ทะเลาะวิวาท เนื่องจากมีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ดังนั้น จึงได้มอบนโยบายและกำชับเจ้าหน้าที่อุทยานฯทั่วประเทศให้เข้มงวด ห้ามนักท่องเที่ยวนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปในอุทยานฯ หากฝ่าฝืน จำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1 พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และจะเชิญออกจากพื้นที่ทันที นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้อุทยานฯ ทั่วประเทศ จัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี เพื่อต้อนรับปีใหม่ด้วย ซึ่งจะเป็นกิจกรรมทดแทน สร้างสรรค์ เป็นสิริมงคล และช่วยให้การดื่มเหล้าเบียร์ลดลง

คนที่เข้าไปในอุทยานฯ ต่างต้องการความสงบ อยากสัมผัสธรรมชาติ หวังว่าจะทำให้นักท่องเที่ยวเข้าใจ และใช้เป็นกฎกติการ่วมกัน ซึ่งหากตรวจพบการลักลอบนำเหล้าเบียร์เข้าไปจะต้องมีความผิดและต้องออกจากพื้นที่ทันที เพราะถือว่าได้ประชาสัมพันธ์ไปแล้ว ขณะเดียวกัน หากพบว่าเจ้าหน้าที่ปล่อยปละละเลยไม่เข้มงวดก็ถือว่ามีความผิดด้วย และหากผู้ใดพบเห็นการกระทำผิดในอุทยานฯสามารถโทรสายด่วน 1362 ตลอด 24 ชั่วโมง

ด้าน ภก. สงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ของเครือข่าย พบว่าหลายพื้นที่เริ่มดีขึ้นและทราบถึงมาตรการนี้แล้ว โดยเครือข่ายที่มีอยู่ทั่วประเทศจะช่วยเฝ้าระวังและเร่งประชาสัมพันธ์เรื่องนี้ด้วยเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ สสส.และภาคีเครือข่ายได้สนับสนุนป้ายประชาสัมพันธ์ ห้ามนำเหล้าเบียร์เข้าอุทยานฯส่งไปยังอุทยานแห่งชาติและวนอุทยาน เป็นป้ายไวนิลจำนวนกว่า 2,000 ผืน และป้ายพลาสติกถาวรอีก กว่า 5,000 แผ่น

ขอบคุณข้อมูลจากมติชนรายวัน