“วันยางพาราและกาชาดบึงกาฬ 2561” จัดยิ่งใหญ่ ก้าวสู่ “ศูนย์กลางยางพาราระดับอาเซียน ”

จังหวัดบึงกาฬ องค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ เหล่ากาชาดจังหวัดบึงกาฬ และองค์การหน่วยงานราชการ – เอกชน พร้อมใจกันเตรียมจัด “งานวันยางพาราและกาชาดบึงกาฬ 2561”  ซึ่งเป็นงานยางพาราเอ็กซ์โปครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในอีสาน จัดอย่างต่อเนื่องทุกปี   ปีนี้ เป็นครั้งที่ 6 จัดระหว่างวันที่ 17 – 23 มกราคม 2561 ณ สนามหน้าที่ว่าการอำเภอเมือง จังหวัดบึงกาฬ ภายใต้แนวคิด “ศาสตร์พระราชารุ่งเรือง เมืองศูนย์กลางยางพารา เกษตรอินทรีย์ก้าวหน้า เปิดประตูการค้าอินโดจีน”

เมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา ได้มีการจัดแถลงข่าว ณ ห้อง Meeting Room 2 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยได้รับเกียรติจาก นายพินิจ จารุสมบัติ อดีตรองนายกรัฐมนตรี นายพิสุทธิ์ บุษยพรรณพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ นายนิพนธ์ คนขยัน นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ  นายเฉิน หู้เซิง Chief Representor of Thailand Representative Office National Engineering Research Center for Rubber and Tire นายกมลดิษฐ สมุทรโคจร รองกรรมการผู้จัดการ สายงานการตลาด บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน)   โดยมีคณะผู้บริหาร บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) นำโดย นายฐากูร บุนปาน กรรมการผู้จัดการ แขกผู้มีเกียรติและผู้แทนองค์กรหน่วยงานที่ให้การสนับสนุนการจัดงานและสื่อมวลชนหลายแขนงเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก

การจัดงานวันยางพาราและกาชาดบึงกาฬในปีนี้เป็นการยกระดับการจัดงานครั้งยิ่งใหญ่ และเป็นมหกรรมที่มีความสำคัญในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง  แสดงให้เห็นความก้าวหน้าในด้านการพัฒนาศักยภาพด้านการท่องเที่ยว การศึกษา และการประกอบอาชีพด้วยกิจกรรมที่หลากหลาย และเป็นการตอกย้ำว่า จังหวัดบึงกาฬเป็นเมืองศูนย์กลางยางพาราของภาคอีสานที่มีความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และพร้อมที่ก้าวไปสู่การเป็นศูนย์กลางยางพาราระดับอาเซียนในอนาคต

 

 

นายพินิจ จารุสมบัติ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ผู้ริเริ่มการจัดงานและสนับสนุนงานวันยางพาราและกาชาดบึงกาฬ กล่าวว่า ยางพาราถือเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญ ที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย จังหวัดบึงกาฬมีพื้นที่ปลูกยางพารากว่า 1 ล้านไร่ ถือเป็นปริมาณที่มากพอสมควร ปัญหาราคายางตกต่ำ ทำให้รัฐบาลต้องหันมาส่งเสริมเรื่องแปรรูปยางพาราเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับยาง เช่น การผลิตหมอนยางพารา ที่ช่วยสร้างรายได้จำนวนมากให้แก่เกษตรกร

การจัดงานวันยางพาราและกาชาดบึงกาฬในปีที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากเพราะเป็น “ โครงการประชารัฐ” ซึ่งเกิดจากความร่วมมือระหว่างรัฐและประชาชนที่เป็นรูปธรรมและสามารถจับต้องได้ การจัดงานวันยางพาราบึงกาฬในปีนี้ เป็นการเปิดรับศักราชใหม่ของประเทศไทย ในเรื่องการแปรรูปผลิตภัณฑ์ยางพารา สนองนโยบายยุทธศาสตร์ 4.0 ของรัฐบาล

ด้านนายนิพนธ์ คนขยัน นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ กล่าวว่า หากไม่มีการจัดงานวันยางพาราบึงกาฬขึ้น เกษตรกรชาวบึงกาฬคงไม่ตระหนักถึงความสำคัญของการแปรรูปหรือสร้างมูลค่าจากผลิตภัณฑ์ยางพารา นอกจากนั้น การสนับสนุนด้านเงินทุนจากรัฐบาลเองก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ตลาดการแปรรูปยางพาราประสบความสำเร็จด้วยเช่นกัน

จังหวัดบึงกาฬมุ่งพัฒนายุทธศาสตร์การเเปรรูปเพิ่มมูลค่ายางพารา โดยได้รับงบสนับสนุนจากรัฐบาล 192 ล้านบาท สำหรับตั้งโรงงานเเปรรูปยางพารา 6 โรงงาน ซึ่งเป็นโรงงานของประชาชน มีอาจารย์ณพรัตน์ วิชิตชลชัย ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมยาง จากสถาบันวิจัยยางพารา อาจารย์ระพีพรรณ แดงตันกี  เเละนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าพระนครเหนือ เเละ สถาบันการศึกษาต่างๆ ร่วมเป็นพี่เลี้ยงให้ความรู้เรื่องการแปรรูปยางพาราในทุกวิถีทาง

นายพิสุทธิ์ บุษยพรรณพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เผยว่า  จังหวัดบึงกาฬมีพื้นที่ทำการเกษตร 1.7 ล้านไร่  ยางพารา นับเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัดบึงกาฬ  ขณะนี้มีพื้นที่ปลูกยางที่ขึ้นทะเบียนแล้วจำนวน 905,000 ไร่  การจัดงานวันยางพาราบึงกาฬ จึงเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับพี่น้องชาวสวนยาง และมีส่วนสำคัญที่ช่วยยกระดับศักยภาพจังหวัดบึงกาฬ ไปสู่ “ สินค้าเกษตรก้าวหน้า เพื่อพี่น้องประชาชน ”

ในปี 2562 จะมีการจัดสร้างสะพานมิตรภาพไทยลาว เพราะฉะนั้นการเชื่อมโยงการค้า การลงทุน ระหว่างประเทศไทย กับลาว เวียดนาม และประเทศจีนตอนใต้ จะง่ายขึ้น โดยทางจังหวัดพยายามยกระดับและพัฒนาให้จังหวัดบึงกาฬเป็นศูนย์กลางยางพารา และก่อให้เกิดอุตสาหกรรมด้านยางพารา

นายฐากูร บุนปาน กรรมการผู้จัดการบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน)  กล่าวเพิ่มเติมว่า งานวันยางพาราและกาชาดบึงกาฬไม่ได้เป็นเพียงงานสนุกสนานหรือพบปะพูดคุยเท่านั้น แต่เรียกได้เป็นงานระดับประเทศและระดับนานาชาติ ทั้งเป็นช่องทางขยายโอกาสและพัฒนายกระดับรายได้ของพี่น้องเกษตรกรสวนยางทั้งในบึงกาฬ จังหวัดใกล้เคียง  รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านให้ดีขึ้น  และเชื่อว่า ด้วยความร่วมมือของพี่น้องประชาชน หน่วยราชการและเอกชน จะทำให้งานวันยางพาราและกาชาดจังหวัดบึงกาฬสามารถพัฒนาและยกระดับขึ้นได้อย่างแน่นอน

งานวันยางพาราบึงกาฬในปีนี้ จัดยิ่งใหญ่กว่าทุกปี ประกอบด้วย  “โซนบึงกาฬเทิดพระเกียรติ” โชว์ความอลังการตระการตาของสวนประดับไฟเฉลิมพระเกียรติ “ โซนยางพารา 4.0 ” จัดแสดงนิทรรศการ “ยางสร้างสุข” และนวัตกรรมยางพาราจากหน่วยงานระดับประเทศ อาทิ การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC) และกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม

“โซนสุดยอดนวัตกรรมยางพารา”  โชว์ไฮไลต์สำคัญ ได้แก่  “ถนนเรืองแสง” จากยางพารา เปิดตัวเป็นครั้งแรกในประเทศไทย จากผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ และนวัตกรรม “มีดกรีดยางนกเงือก”  ฝีมือคนไทย ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำยาง ยืดอายุการกรีดยางได้ยาวนานขึ้น นอกจากนี้ ยังมีภาพคอลลาจ “บึงกาฬ” บนเฟรมขนาดยักษ์ โดย นักรบ มูลมานัส ซึ่งสร้างสรรค์ผลงานชิ้นนี้เพื่อชาวบึงกาฬโดยเฉพาะอีกด้วย

“ โซนบึงกาฬเมืองก้าวหน้า ” เปิดโอกาสให้ชาวบึงกาฬได้ร่วมแสดงความคิดเห็น และถ่ายภาพกับแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ,  “โซนอบรมอาชีพ” จัดฝึกอบรมการทำอาหารจานเด็ดกว่า 12 หลักสูตร โดยเชฟชื่อดัง อาทิ เชฟจารึก ศรีอรุณ อาจารย์ประจำหลักสูตรอุตสาหกรรมอาหารและการบริการ และผู้เชี่ยวชาญด้านอาหาร ศูนย์ปฏิบัติการอาหารนานาชาติ ม.ราชภัฏสวนดุสิต อ.พะเยาว์ กฤษแก้ว กูรูขนมหวานชั้นแนวหน้าของไทย ฯลฯ

โซนนิทรรศการ “สู่ฟ้าเสวยสวรรค์”   สวนนงนุชพัทยา จัดแสดงตัวอย่างงานศิลปกรรมการสร้างพระเมรุมาศ และนำเสนอ 19 ความมหัศจรรย์ของพระเมรุมาศองค์ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุครัตนโกสินทร์   โดยเชิญอาจารย์ ดร.เกรียงไกร เกิดศิริ รองคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร และคุณสมชาย บุญประเสริฐ ช่างปูนปั้นสดเมืองเพชรบุรี ผู้ควบคุมงานปั้นประติมากรรมสัตว์หิมพานต์ งานพระเมรุมาศรัชกาลที่ 9 มาเสวนาพิเศษ “สู่ฟ้าเสวยสวรรค์ มหัศจรรย์งานศิลป์พระเมรุมาศ รัชกาลที่ 9” รวมทั้งยังมีส่วนของการจัดแสดงดอกดารารัตน์จากใบยางพาราของ จ.บึงกาฬ อีกด้วย

ในปีนี้ เปิดโซนลานเด็กเล่น @บึงกาฬ ประกอบด้วยกิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่ เรื่องเล่าธรณีวิทยาจากภูสิงห์ ภูทอก สู่ภูถ้ำพระ กิจกรรมสกัดหินออกจากกระดูกไดโนเสาร์ และกิจกรรมระบายสีหินทับกระดาษไดโนเสาร์ โดย กรมทรัพยากรธรณี เป็นต้น ส่วนการแข่งขันนอกจากการแข่งขันกรีดยางพาราชิงแชมป์ประเทศไทย ที่จะได้รางวัลสูงสุดในประเทศแล้ว ยังมีการแข่งขันลับมีดกรีดยาง กองเชียร์ยางพารา และ เป็นปีแรกที่จัดแข่งขันการกรีดยางด้วยนวัตกรรมมีดกรีดยางนกเงือกชิงเงินรางวัลนับแสนบาทอีกด้วย

ภายในงานยังจัดประกวด  “ไทยแลนด์ลูกทุ่งคอนเทสต์ 2018” ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมรางวัลเงินสดรวมกว่า 500,000 บาทจัดเต็มพื้นที่บนเวทีใหญ่ยักษ์ พร้อมแสง สี เสียง เต็มรูปแบบ โดยได้รับเกียรติจากครูเพลงผู้ทรงคุณวุฒิด้านดนตรีและการแสดงประกอบเพลง ได้แก่ ครูสลา คุณวุฒิ,   ครูเทียม ชุติเดช ทองอยู่, ครูเรืองยศ พิมพ์ทอง และครูแดน บุรีรัมย์ มาเป็นคณะกรรมการตัดสินครั้งนี้

นอกจากนี้ยังมีโซนยนตรกรรมและนวัตกรรมนานาชาติ โซนสินค้าประชารัฐและสินค้านานาชาติ โซนกาชาดจังหวัดบึงกาฬ   เวทีเสวนาปราชญ์ชาวบ้าน  รวมถึงโซนต่างๆอีกมากมาย

พลาดไม่ได้ กับคอนเสิร์ตลูกทุ่ง และคณะหมอลำสุดฮอตของปี 2561 ปิดท้ายด้วยการทำบุญลุ้นรางวัลใหญ่กับสลากกาชาดรางวัลมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท