ล้างรถอย่างไรไม่ให้พังเร็ว!?

ต้องนำข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการล้างรถและข้อควรระวังในการล้างรถ มาคอยย้ำเตือนสำหรับคนมีรถ งานสำคัญเพื่อถนอมรถของคุณให้อยู่ได้นานๆ ก็คือการล้างรถ ไม่ได้แค่ทำความสะอาด แต่ยังช่วยเพิ่มสมรรถนะให้รถด้วย การล้างรถได้ถูกวิธีจะช่วยยืดอายุการซ่อมและการใช้งาน ไม่ให้พังเร็ว ยานยนต์ “มติชน” มีข้อแนะนำดังนี้

วิธีล้างรถที่ถูกต้อง                   

  1. ฉีดน้ำแรงๆ ต้องเป็นน้ำเย็น เพื่อกำจัดพวกฝุ่นละอองหรือคราบสกปรกที่เกาะอยู่บนตัวรถออกเสียก่อน การฉีดนั้น ต้องไล่จากบนลงมาล่าง
  2. ตัวน้ำยาต้องผสมกับน้ำ อัตราส่วนผสมนั้นให้ดูที่ฉลากที่แนะนำไว้เป็นหลัก ควรผสมตามอัตราส่วนที่ให้อย่างเคร่งครัด อย่าคิดว่าน้ำยาเข้มข้นแล้วจะดี เพราะบางทีส่วนผสมในน้ำยาจำเป็นต้องเจือจาง เพื่อไม่ให้มีส่วนทำลายสีรถเสียเอง
  3. เริ่มต้นล้างรถ จากบนลงล่าง คือเริ่มจากหลังคารถ ค่อยๆ ไล่ลงมาทางด้านข้าง ในส่วนของกระจกรถและตามขอบต่างๆ นั้น ไม่แนะนำให้ใช้ฟองน้ำล้างรถล้าง เพราะอาจมีพวกเศษหินหรือวัสดุแข็งที่ทำลายกระจายให้เกิดรอยขีดข่วนได้ ควรเปลี่ยนเป็นใช้ผ้าสำลีหรืออุปกรณ์ในการล้างโดยเฉพาะ และก่อนใช้ควรสำรวจด้วยว่า ผ้านั้นสะอาดปราศจากสิ่งที่จะทำลายกระจกหรือเปล่า
  4. ขณะล้างรถนั้น ควรซักผ้าบ่อยๆ และแบ่งการใช้ผ้าในการล้างแต่ละส่วนของรถเป็นคนละผืน เช่น ผืนหนึ่งใช้ล้างหลังคารถ ฝากระโปรงรถหน้า-หลัง อีกผืนหนึ่งใช้ล้าง เริ่มตั้งแต่ขอบกระจกลงมาด้านล่าง ส่วนอีกผืนใช้สำหรับล้างล้อรถและส่วนที่สกปรกมากๆ ไม่ควรใช้ผืนเดียวล้างทั้งคันรถ เนื่องจากรถแต่ละส่วนสกปรกไม่เท่ากัน การดูแลและถนอมก็ต่างกัน ไม่ต่างจากคนเราที่มีการแยกผ้าสำหรับใช้กับอวัยวะที่ต่างกันคนละผืน
  5. ขณะที่ล้างด้วยน้ำยา อย่าปล่อยให้น้ำยาแห้งต้องล้างด้วยน้ำสะอาดให้เสร็จสิ้นก่อนไปล้างส่วนอื่นๆ เมื่อล้างหมดทั้งคันแล้วจึงล้างด้วยน้ำสะอาดทั้งคันอีกเป็นรอบสุดท้าย
  6. หลังจากนั้น ให้เช็ดรถให้แห้ง เพราะหากปล่อยทิ้งไว้ อาจเกิดคราบน้ำ และทำให้ฝุ่นมาเกาะรถที่ยังเปียกหรือหมาดทำให้รถสกปรกอีก

ข้อควรหลีกเลี่ยงในการล้างรถ

  1. อย่าล้างบ่อยเกินไป และเลือกน้ำยาล้างรถที่ดีมีคุณภาพไม่ทำลายสีรถ
  2. ให้ล้างรถในที่ร่ม เพื่อควบคุมเวลาในการล้างและเช็ดทำความสะอาดได้ด้วยตัวเอง หากล้างกลางแดด แสงแดดทำให้รถแห้งเร็วจนบางทีเกิดเป็นคราบ
  3. ควรล้างรถในตอนเช้า เพราะหลังจากนั้นยังมีเวลาทำให้รถแห้ง ถ้าล้างตอนเย็นหรือค่ำ หากมีบางจุดเช็ดไม่แห้ง อาจทำให้รถเป็นสนิมในจุดนั้นได้
  4. ไม่ควรใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดรถ เพราะอาจมีเหตุให้รถเป็นรอยได้ เนื่องจากไม่ได้กำจัดฝุ่นผง หรือสิ่งสกปรกที่ติดตัวรถออกก่อน เมื่อนำมาไปแนบและเช็ดก็อาจครูดรถได้
  5. ห้ามใช้ผงซักฟอกหรือน้ำยาอื่นๆ ที่ไม่ใช่น้ำยาที่ผลิตมาสำหรับล้างรถโดยเฉพาะ เนื่องจากความแรงของน้ำยาอาจทำลายสีรถได้
  6. ข้อนี้มักเกิดขึ้นเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็คือ การใช้แปรงหรือไม้ขนไก่ปัดฝุ่นรถ ในเวลาไม่มีเวลาว่างล้างแบบเต็มรูปแบบ ข้อนี้ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะอุปกรณ์ดังกล่าวอาจลากฝุ่นหรือเม็ดทรายที่เกาะอยู่กับรถครูดจนรถเป็นรอยได้

วิธีเช็ดรถ

  1. เลือกผ้าเนื้อนุ่มหรือผ้าชามัวร์คุณภาพดี และการเช็ดให้เช็ดจากบนลงล่าง
  2. ส่วนที่ต้องระวังมากเป็นพิเศษคือ กระจกรถและขอบประตู ด้านนอกด้านใน รวมถึงด้านในกระโปรงหลัง ด้านในฝาถังน้ำมัน ต้องเช็ดให้แห้งสนิทอย่าให้เหลือความชื้น
  3. หากใช้ล้อแม็กให้เช็ดด้วย จะได้ไม่เกิดคราบน้ำ
  4. ถ้าจะให้แจ่ม ลงน้ำยาขัดเคลือบขั้นตอนสุดท้าย สีสันรถคันโปรดของคุณก็จะดูสดใสขึ้น

ที่มา : ขอบคุณข้อมูลจากมติชนรายวัน