อภัยภูเบศรเผยความลับ ‘หญิงไทยยุคเก่าก่อน’ สวยได้สมุนไพรใกล้ตัว

ฮอตไม่มีตก… สำหรับละคร “บุพเพสันนิวาส” ตั้งแต่ออกฉายในวันแรก แต่ที่หลายคนสงสัยคือ ความสวยงามของแม่หญิงการะเกด หรือเกศสุรางค์ในร่างของแม่หญิงการะเกดก็ตาม ล้วนมีความงามที่ทำให้ต้องครุ่นคิดว่า ในสมัยโบราณ

ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์  ภญ.ผกากรอง ขวัญข้าว เภสัชกรชำนาญการ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี ให้ข้อมูลว่า หญิงไทยในสมัยก่อน ไม่ได้มีเครื่องสำอาง หรือครีมบำรุงผิวเช่นปัจจุบัน จึงต้องใช้ภูมิปัญญาพื้นบ้าน สมุนไพรต่างๆ ที่หาได้นำมาทำเป็นเครื่องประทินผิวพรรณแทน เริ่มตั้งแต่การทำความสะอาดผิวหน้า ซึ่งจะใช้น้ำสะอาด หรือน้ำล้างข้าว น้ำซาวข้าว ซึ่งจะมีวิตามินและเกลือแร่ที่อยู่ในเมล็ดข้าว ที่นอกจากจะมีส่วนผสมของน้ำที่ช่วยล้างสิ่งสกปรกบนใบหน้าออก เพราะว่าในสมัยก่อนผู้หญิงไม่ได้มีเมคอัพหรือเครื่องประทินผิวที่ล้างออกยาก ประกอบกับวิตามินและเกลือแร่จะซึมซาบสู่ผิวไปบำรุงผิวภายใน โดยหลังจากล้างหน้าก็จะบำรุงผิวด้วยน้ำมันมะพร้าวทาทิ้งไว้ หรือหากเป็นสิว ก็จะใช้เปลือกมังคุด เนื่องจากมีสารแทนนิน ใช้ต้านการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว และลดการอักเสบ

ภญ.ผกากรอง กล่าวอีกว่า ส่วนการทำความสะอาดผิวกาย จะใช้ มะขามเปียก หัวขมิ้น ไพล บดผสมไว้ขัดตัวเพื่อช่วยผลัดเซลล์ผิวให้ดูกระจ่างใส ดับกลิ่นตัว และบำรุงผิว สระผสมใช้มะกรูด ความเปรี้ยวความเป็นกรดจะช่วยขจัดความมันหนังศีรษะและช่วยให้ผมดกดำเป็นเงางาม ในเรื่องของการบำรุงผิวพรรณนั้น สมัยโบราณยังใช้ข้าวโพดมาบำรุงผิว ด้วยการใช้ข้าวโพดดิบ 1 ฝัก จากนั้นแกะเมล็ดข้าวโพดออกมา โขลกในครกให้ละเอียดจากนั้นนำมาคั้นด้วยผ้าขาวบาง จะได้เป็นน้ำนมจากข้าวโพด ใช้ทาผิวหน้าทุกวัน ส่วนการสีฟัน ก็ใช้กิ่งข่อย ทุบปลายฟูนุ่ม จุ่มน้ำสีฟันช่วยดูแลเหงือกและฟันได้อย่างดี เนื่องจาก “ข่อย” มีคุณสมบัติลดการอักเสบของเหงือกและช่วยยับยั้งการเจริญเติยโตของแบคทีเรียในช่องปากได้

เภสัชกรชำนาญการ  กล่าวต่อว่า ส่วนที่เราเห็นในละครมีจุ่มผง ออกขาวเทา เดาว่าน่าจะเป็นขี้เถ้า เนื่องจากขี้เถ้ามีความเป็นด่าง  เมื่อผสมน้ำจะเกิดฟอง ใช้ลดความมันบนผิวได้  สำหรับการผัดแป้ง สมัยโบราณไม่มีแป้งฝุ่น แป้งพัฟ ก็ใช้แป้งดินสอพอง บดผสมน้ำทาหน้า ทาตัว เกลี่ยให้เนียนเท่ากัน หรือพื้นบ้านใช้แป้งจากเมล็ดบานเย็นผัดหน้าช่วยรักษาสิวฝ้าได้ เนื่องจากมีฤทธิ์ต้านการเกิดฝ้าและมีสาร quercetin, kaemferol ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและลดการสร้างเม็ดสีเพิ่มความอ่อนเยาว์ให้เซลล์ หรือใช้แป้งร่ำ ผสมน้ำอบ น้ำปรุง เครื่องหอมแบบชาววังประทินผิว

“ที่สำคัญหลายคนสงสัยว่าการแต่งหน้าในสมัยโบราณทำอย่างไร เช่น การเขียนคิ้ว ก็จะใช้ถ่านกะลามะพร้าว ส่วนลิปสติก หรือทาแก้มนั้น ก็ไม่มีบรัชออนก็จะใช้สีแดงทาได้ทั้งแก้มและริมฝีปาก โดยใช้สีแดงจากชาด ซึ่งนำเข้าจากจีน มีลักษณะเป็นดอกไม้ที่มีสีแดง ทำเป็นแผ่นกระดาษนำมาซับ หรือหากเป็นของไทยเองก็ใช้ สีจากผลผักปลังแดง ทาแก้ม ทาปาก ก็ได้สีออกแดงชมพูธรรมชาติ ซึ่งการศึกษาพบว่าผักปลังแดงช่วยเพิ่มเม็ดเลือด บำรุงเลือดได้ เนื่องจากมีสารแอนโทไซยานิน สำหรับการรักษาสิวของหญิงไทยสมัยก่อน ก็จะใช้กิ่งมะขาม 4-5 กิ่ง ต้มลงหม้อน้ำเดือด ต้มให้เดือดนานประมาณ 10 นาที นำมาล้างหน้าแทนน้ำเปล่าทุกเช้าเย็น ประมาณ 1 สัปดาห์ ปัญหาเรื่องสิวจะค่อยๆ ดีขึ้น และทำให้ผิวขาวขึ้นด้วย” ภญ.ผกากรอง กล่าว

น่าทึ่งกับภูมิปัญญาพื้นบ้านของเราจริงๆ

 

ที่มา : มติชนออนไลน์