จนท.สนามบินเชียงใหม่ ปวดหัว นักท่องเที่ยวจีน แห่นำ ‘ปะการัง’ ใส่กระเป๋ากลับประเทศ

วันที่ 30 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโซเชียลมีเดียมีการโพสต์ภาพถ่าย และเรื่องราวบรรยายความว่า “ทะเลไทย บรรลัยกันพอดี! แฟนเพจส่งรูปมาให้ช่วยพิจารณาหาทางออกด้วยความห่วงใย บอกว่าเป็นรูปการตรวจค้นของ จนท.ที่สนามบินเชียงใหม่ ที่มักจะเจอเป็นประจำ นั่นก็คือ “ปะการังทะเล” เอาไงล่ะทีนี้ ??? ” ซึ่งเป็นกรณีที่เจ้าหน้าที่ของท่าอากาศยานเชียงใหม่ ตรวจพบว่านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติพยายามลักลอบนำปะการังทะเล หรือซากสัตว์น้ำที่เก็บมาระหว่างการท่องเที่ยวในประเทศไทยออกนอกประเทศในช่วงเดินทางกลับ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบและยึดไว้ได้เป็นประจำ พร้อมแสดงความห่วงใย

ทั้งนี้ร้อยโทวศิน พลนาวี รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ยอมรับว่าเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นจริงที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ โดยท่าอากาศยานเชียงใหม่มีหน้าที่ในการตรวจวัตถุอันตรายต่อผู้โดยสารและอากาศยาน ซึ่งในส่วนของปะการังนั้น ปกติเมื่อตรวจพบแล้วจะต้องประสาน และให้เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีอำนาจตามกฎหมายมาตรวจสอบ และดำเนินการ เพราะท่าอากาศยานเชียงใหม่ไม่มีอำนาจสามารถยึดไว้ได้ จำเป็นต้องแจ้งให้หน่วยงานดังกล่าวเข้ามาตรวจสอบ แต่หากประสานไปแล้วไม่มีเจ้าหน้าที่มาก็ทำได้แค่เจรจากับนักท่องเที่ยวว่าสิ่งใดเอาไปได้หรือไม่ได้ หากนักท่องเที่ยวยินยอมก็จะยึดไว้ แต่หากไม่ยินยอมก็ไม่สามารถทำอะไรได้

สำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ตรวจพบมีความพยายามจะนำปะการังหรือซากสัตว์น้ำออกนอกประเทศไปด้วยนั้น รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ ระบุว่า ส่วนใหญ่จะเป็นชาวจีน ที่มาจากต้นทางจากจ.กระบี่ และจ.ภูเก็ต แล้วมีเที่ยวบินที่จะเดินทางต่อไปต่างประเทศ ทั้งนี้เข้าใจว่านักท่องเที่ยวที่มาเที่ยว เมื่อได้มาเห็นแล้วก็อยากจะนำกลับไปเป็นที่ระลึก ส่วนการป้องกันแก้ไขปัญหานั้น เห็นว่าควรมีการให้ความรู้กับนักท่องเที่ยวว่าไม่ว่าจะไปที่ใด ไม่ควรทำลายธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะคนไทยควรจะช่วยกันแนะนำนักท่องเที่ยวด้วย เพื่อไม่ให้เกิดกระบวนการค้าสิ่งที่ไม่ควรค้า
ด้านเรือเอกอภิชาต สมฤทธิ์ นักวิชาการประมงชำนาญ การปฏิบัติหน้าที่ หัวหน้าด่านตรวจสัตว์น้ำจ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่าน ซึ่งมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ นำซากปะการัง ติดมากับกระเป๋าเดินทาง ในรูปแบบของที่ระลึก ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ตักเตือน และตรวจยึดเอาไว้ ก่อนจะไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน และเมื่อสิ้นสุดการดำเนินคดี ก็จะมอบให้สถานศึกษาต่างๆ ไว้ศึกษาต่อไป โดยนักท่องเที่ยวที่นำมานั้น บางคนอาจไม่รู้ว่าผิดกฎหมาย ก็ควรจะระมัดระวัง นอกจากปะการังแล้ว ที่ตรวจพบยังมีหอยสังข์แตร ที่เป็นสัตว์คุ้มครองเช่นกัน ซึ่งถ้ามีจำนวนมากก็สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้เลย

โดยมีความผิด ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535 ที่เชื่อมโยงกับอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ หรือ ไซเตส ซึ่งจะต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 4 ปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทางเจ้าหน้าที่จึงอยากฝากเตือนให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ว่าการเก็บเปลือกหอยหรือปะการังออกมา เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องและผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเก็บเองหรือซื้อมาในลักษณะเป็นของที่ระลึกก็ตาม ซึ่งการซื้อขายเป็นจำนวนมาก ก็จะทำให้เกิดการล่า และจะส่งผลกระทบต่อธรรมชาติอีกด้วย

 

ที่มา : ข่าวสดออนไลน์