| เผยแพร่ |
|---|
กมธ.ยื้อคลอดภาษีที่ดินอีก 2 เดือน เคลียร์ปมที่ไม่ใช้ประโยชน์ เขตบรรเทาภาษี อาทิ โรงเรียนเอกชน มหาวิทยาลัย สนามกีฬา สนามกอล์ฟ ได้เว้นภาษีด้วย แม้เป็นกีฬาคนรวย เพราะเสียภาษีฟุ่มเฟือยอยู่แล้ว คลังมั่นใจทันใช้ปี 2562 ตามกำหนดเดิม
นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง เปิดเผยความคืบหน้าการพิจารณาพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างว่า ที่ประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ได้มีการขยายพิจารณากฎหมายต่อออกไปอีก 2 เดือน และคาดว่าในชั้นกรรมาธิการจะเห็นชอบ และนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วาระ 2 และ 3 ได้ภายในเดือน พ.ค.นี้ ก่อนที่กฎหมายจะบังคับใช้ได้ทันกำหนดเดิมปี 2562
“สาเหตุที่ต้องมีการขยายเวลาออกไปเพราะต้องการพิจารณารายละเอียด โดยเฉพาะประเด็นที่ดินที่ได้รับการบรรเทาทางภาษี เช่น ที่ดินที่ใช้ประโยชน์ไม่ได้ อย่างเขตปลอดการบิน เขตปลอดภัยของรถไฟ รวมถึงโรงเรียนเอกชน มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล สนามกีฬา ซึ่งจะได้เพดานลดถึง 90% ซึ่งการขยายเวลาพิจารณา จะไม่กระทบต่อหลักการของการเก็บภาษีที่ดิน ที่ยังคงโครงสร้างและการเก็บภาษีแบบเดิม โดยในชั้น กมธ.ได้ปรับลดเพดาน และอัตราการเก็บภาษีที่แท้จริงลง จากร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินของรัฐบาล ที่มีเพดานภาษีสูงกว่า”
ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตถึงการใช้พื้นที่สนามกอล์ฟว่า ไม่ควรได้รับมาตรการบรรเทาทางภาษี เนื่องจากเป็นกีฬาที่มีความฟุ่มเฟือยนั้น ในแง่ของการพิจารณาภาษีที่ดินฯ มองว่าสนามกอล์ฟเป็นพื้นที่ทางการกีฬา เช่นเดียวกับสนามกีฬาประเภทอื่นๆ ดังนั้น การพิจารณาภาษีจะอยูในหลักเกณฑ์เดียวกัน อีกทั้งปกติสนามกอล์ฟก็ต้องเสียภาษีด้านความฟุ่มเฟือยและภาษีสิ่งแวดล้อม จากฐานการเก็บภาษีสรรพสามิตอยู่แล้ว
นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ส่วนความคืบหน้าการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ภาษีการได้รับประโยชน์จากการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของรัฐ พ.ศ… หรือ “ภาษีลาภลอย” ได้ผ่านการพิจารณาของ ครม.แล้ว และอยู่ระหว่างการเปิดรับฟังความเห็น ขณะที่ พ.ร.บ.ทรัพย์อิงสิทธิ ได้ผ่านการเปิดรับฟังความเห็นแล้ว และอยู่ระหว่างรอสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาร่างอยู่ เพื่อส่งเข้า สนช. โดยหากมีผลบังคับใช้จะช่วยให้สามารถนำสัญญาเช่าที่ดินไปเป็นหลักประกันได้ ซึ่งจะก่อให้เกิดการนำที่พัฒนาใช้ประโยชน์ได้ดีขึ้น และต้นทุนต่ำลง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์ข่าวสดรายวัน ฉบับวันพุธที่ 4 เมษายน 2561
