เผยแพร่ |
---|
นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า เนื่องจากสภาวะอากาศเอื้ออำนวย ทำให้ผลผลิตปาล์มน้ำมันในปี 2560-2561 มีมากขึ้นและออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่ 4 (ต.ค.-ธ.ค.) ของปี 2560 ในขณะที่ความต้องการใช้ยังคงทรงตัว ส่งผลให้สต็อกน้ำมันปาล์มดิบเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย ณ สิ้นเดือนมี.ค.61 มีสต็อกน้ำมันปาล์มดิบคงเหลือสูงกว่าระดับสต็อกที่เหมาะสมซึ่งส่งผลให้ราคาผลปาล์มน้ำมันที่เกษตรกรขายได้มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่องไปถึงไตรมาสที่ 2 (เม.ย.-มิ.ย.)
จากสถานการณ์ดังกล่าวคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ในคราวประชุมวันที่ 11 พ.ค.61 มีมติเห็นชอบมาตรการปรับสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศ โดยเร่งผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบจำนวน 300,000 ตัน ภายในระยะเวลา 5 เดือน (จนถึง 31 ต.ค.61) เพื่อลดสต็อกน้ำมันปาล์มให้เข้าสู่ระดับปกติ และช่วยรักษาเสถียรภาพราคาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม ตามที่คณะอนุกรรมการเพื่อบริหารจัดการปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มด้านการตลาดเสนอ ซึ่งจะได้เสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาอนุมัติใช้งบประมาณจากงบกลางรายการเงินสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นวงเงิน 525 ล้านบาท
นอกจากนี้ได้มอบหมายให้กระทรวงพลังงานเร่งรัดดำเนินการตามมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่เห็นชอบในหลักการแนวทางการส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20 ในรถบรรทุกขนาดใหญ่และมอบหมายให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กรมการค้าต่างประเทศ หารือร่วมกับกรมศุลกากร พิจารณากำหนดแนวทางการบริหารจัดการการถ่ายลำผ่านแดนน้ำมันปาล์มเพื่อสามารถกำกับดูแลความถูกต้องของสินค้าที่ถ่ายลำและผ่านแดน และไม่ให้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมภายในประเทศ โดยคำนึงถึงกฎเกณฑ์การค้าระหว่างประเทศและกฎระเบียบของไทย รวมถึงให้ความเข้มงวดในเรื่องของมาตรการการป้องกันการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบ ซึ่ง กนป. ได้มีคำสั่งเมื่อวันที่ 2 ก.พ.60 แต่งตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาการนำเข้าน้ำมันปาล์มและผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์ม โดยมีอำนาจหน้าที่กำหนดแผนมาตรการแนวทางในการบูรณาการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาการนำเข้าน้ำมันปาล์มและผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์มทั้งระบบ
ทั้งนี้ ยังได้เน้นการดำเนินการเพื่อให้โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น โดยมอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรมเร่งรัดออกประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่องกำหนดวัตถุดิบและคุณภาพผลิตภัณฑ์ของโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มโดยเร็ว และอาจพิจารณาจัดทำแผนงานในการปรับข้อกำหนดคุณภาพการสกัดน้ำมันปาล์มของโรงงานฯ ให้มีเปอร์เซ็นต์น้ำมันสูงขึ้นเป็นลำดับตามระยะเวลาที่กำหนด