ดึง 100 แฟรนไชส์เปิดคอร์ส สร้างอาชีพถือบัตรคนจน พณ.นำร่อง 20 จว.ติดโผ

นางกุลณี อิศดิศัย อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตามนโยบายรัฐบาลต้องการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้แก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผู้มีรายได้น้อย และผู้ว่างงาน ภายใต้โครงการ “แฟรนไชส์สร้างอาชีพ” เพื่อสร้างอาชีพสร้างรายได้อย่างยั่งยืนและลดการพึ่งพาสวัสดิการของรัฐในอนาคต ดังนั้นกรมเร่งนำแฟรนไชส์ที่มีเงินลงทุนไม่สูงลงพื้นที่ในส่วนภูมิภาคให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและผู้ที่สนใจเลือกนำไปประกอบเป็นอาชีพ เบื้องต้นได้คัดเลือกจังหวัดที่มีผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวนมาก และเป็นจังหวัดท่องเที่ยวเมืองรองจำนวน 20 จังหวัด เพื่อนำร่องนำธุรกิจแฟรนไชส์ 100 แบรนด์ที่ผ่านการพัฒนาจากกรม และมีขนาดการลงทุนไม่เกิน 50,000 บาท ลงพื้นที่ที่ได้คัดเลือกไว้ ประกอบด้วย นครราชสีมา ขอนแก่น อุบลราชธานี ร้อยเอ็ด สกลนคร อุดรธานี บุรีรัมย์ สุรินทร์ เชียงราย ลำปาง กำแพงเพชร พิษณุโลก ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี นครปฐม กาญจนบุรี ระยอง นครศรีธรรมราช และสงขลา โดยนครราชสีมาเป็นจังหวัดแรก ระหว่างวันที่ 22-25 มิถุนายนนี้

สำหรับเงินลงทุนในการเลือกซื้อแฟรนไชส์ในโครงการ คือ ตั้งแต่ 10,000 บาท และสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท ทำให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือผู้ที่สนใจลงทุนในระบบแฟรนไชส์แต่มีเงินไม่มากก็สามารถเลือกลงทุนและเป็นเจ้าของกิจการได้ ขณะเดียวกัน กรมได้ประสานงานกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารออมสินร่วมให้สินเชื่อแก่ผู้ที่เข้าร่วมโครงการด้วย โดยจะคิดดอกเบี้ยเงินกู้ในอัตราพิเศษ ผู้กู้สามารถชำระคืนเงินต้นได้แบบสบายๆ ไม่กดดัน พร้อมกับประสานงานกับปั๊มน้ำมันบางจาก เทสโก้ โลตัส และบิ๊กซี จัดหาพื้นที่ขายสินค้าให้รายละเอียดการจัดสรรพื้นที่จะพิจารณาตามความเหมาะสมของสินค้าแต่ละประเภท สำหรับผู้ที่สนใจเลือกแฟรนไชส์ประกอบอาชีพแล้ว แต่ยังไม่มีทำเลหรือสถานที่ขายสินค้า

ทั้งนี้ ในวันที่ 14 มิถุนายน กรมจะเปิดตัวโครงการ “แฟรนไชส์สร้างอาชีพ” อย่างเป็นทางการ โดยเชิญแฟรนไชส์ 100 แบรนด์ที่เข้าร่วมโครงการมาซักซ้อมทำความเข้าใจเกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆ พร้อมทั้งให้ความรู้ถึงกลยุทธ์การขยายธุรกิจและการดูแลผู้มีรายได้น้อยที่ลงทุนในแฟรนไชส์ และจะรับสมัครผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผู้มีรายได้น้อย ผู้ว่างงาน เข้าร่วมสัมมนาสร้างอาชีพด้วยแฟรนไชส์ ช่วงวันที่ 13-14 มิถุนายนนี้ รวมทั้งออกบู๊ธแสดงธุรกิจกว่า 100 บู๊ธ คาดว่าโครงการนี้จะสร้างอาชีพได้กว่า 20,000 ราย และมีเงินสะพัดกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากกว่า 2,000 ล้านบาท

ที่มา : ขอบคุณข้อมูลจากมติชนรายวัน