กราบหัวใจ! ครูสาว แบกอาหารกลางวัน นร. ฝ่าน้ำป่าจนหัวเข่าหลุด

กราบหัวใจ! ครูสาว แบกอาหารกลางวันไปให้นักเรียนใน อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ต้องฝ่าน้ำป่าเป็นระยะทาง 8 ก.ม. จนหัวเข่าหลุด แต่ก็กัดฟันลุยต่อเพื่อนักเรียน

เป็นอีกเรื่องราวสุดสะเทือนใจในวงการศึกษา เมื่อเฟซบุ๊ก Sodasai Sodasai โพสต์ถึงเรื่องราวของกลุ่มครูที่ช่วยกันขนอาหารกลางวันฝ่ากระแสน้ำที่ไหลเฉี่ยวและฝนที่ตกอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำอาหารกลางวันไปให้นักเรียน โรงเรียนบ้านห้วยหมูพิทยา อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน จนคณะครูบางคนได้รับบาดเจ็บจากกระแสน้ำซัด ถึงขั้นสะบ้าหัวเข่าหลุด

โดยระบุว่า “ทีแรกคิดว่าน้องแค่เป็นตะคริว เพราะเดินลุยฝนตลอดทาง เดินข้ามลำห้วยอีก 20 กว่าจุด และเหตุเกิดขึ้นในน้ำมองอะไรไม่เห็นเลย ทุกคนตกใจมาก คิดอย่างเดียวคือ ทุกคนต้องปลอดภัย พอพาน้องขึ้นฝั่งได้ปรากฏว่า สะบ้าหัวเข่าหลุด จะพาน้องกลับทางเดิมก็เคลื่อนย้ายไม่ได้ ครูกิว/ครูนิ่ม/ชาวบ้าน ต้องรีบเดินกึ่งวิ่งเพื่อไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน จนตัดสินใจทำเปลและจากแรงของชาวบ้านผู้ชายและครูผู้ชาย 2 คน ครูกิวและครูดาวิน ช่วยกันหามน้องออกไปหารถที่บ้านห้วยแห้ง เพราะในหมู่บ้านรถไม่สามารถออกไปได้ ติดน้ำห้วย การเดินทางลำบากมาก ตอนนี้น้องถึง รพ. ได้รับการรักษาและปลอดภัยแล้ว ต้องขอบคุณทุกแรงใจ สำหรับครูหลังเขาตรงนี้ ทุกคนสู้ด้วยใจ ไม่อยากให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นกับใคร ถึงไม่ประมาทมันก็สามารถเกิดขึ้นได้”

ชาวบ้านช่วยครูดอยที่บาดเจ็บ

นอกจากนี้ ยังโพสต์อีกว่า “การเดินทางในครั้งนี้ ไม่ใช่เป็นการเดินทางลำบากในครั้งแรก เพราะทุกปี เราจะเจอเหตุการณ์แบบนี้ ครูตลอดจนชาวบ้านเสมือนถูกตัดขาดจากโลกภายนอก รถเข้าออกไม่ได้ ไม่มีถนนให้ผ่าน พอหลังจากน้ำลด ก็จะเหลือไว้แต่ซากไม้และก้อนหินก้อนใหญ่ เส้นทางที่เราเคยขับผ่านได้ก็ต้องแก้ไขด้วยตนเอง ชาวบ้านและครูช่วยกันเก็บซากและก้อนหิน เพื่อเป็นช่องทางเดินรถในระยะต่อไป ครูก็ซ่อมมอเตอร์ไซค์ยกใหญ่ อาจมีหลายคำถามว่า ล่ะครูจะรีบไปทำไม ตอบคำถามตรงๆ ว่าครูไม่ทราบถึงสถานการณ์น้ำ เนื่องจากติดต่อใครไม่ได้จนมาถึงครึ่งทาง เจอสถานการณ์ให้เลือก คล้ายๆ ว่าจะหยุดหรือไปต่อ ประชุมตรงริมลำห้วย ทุกคนตอบไปต่อ เพราะอาหารเด็กอยู่กับเรา

แบกอาหารกลางวันนักเรียนฝ่าน้ำป่าจนบาดเจ็บ

“ความคิดครูตอนนั้น คือ น้ำป่า หากฝนหยุดก็แห้งเร็ว หากเราติดอยู่ตรงนั้น นอกจากครูจะไม่มีที่พัก ไม่มีเสื้อผ้ามาเปลี่ยนในขณะที่เนื้อตัวเปียกปอน เด็กก็รออีก อาหารก็จะเน่าเสีย เราเดินทางกันหลายคน รวมทั้งชาวบ้านคงไม่เป็นไร ช่วยกันแบกช่วยกันหามแค่ 8 กม.เอง เราเดินทางกันด้วยใจ พยายามพูดคุยให้ทุกคนมีความสุขจากการลำบาก สถานการณ์ภายภาคหน้าไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”

 

ที่มา : ข่าวสดออนไลน์